ปิดฉากลงแล้วสำหรับการแข่งขันกรีฑา The 50th KBS National Athletics Championships ที่เมือง เคชอน ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.2565 ที่ผ่านมา ที่สมาคมกรีฑาของไทย ที่ส่งทีมลมกรด 4 คูณ 100 เมตร ชายของไทย ชุดแชมป์ซีเกมส์ครั้งที่ 31 ที่เวียดนาม เข้าร่วมในการแข่งขัน เพื่อเก็บสถิติลุ้น ไปรายการกรีฑาชิงแชมป์โลก 2022 ในเดือน ก.ค. ที่ โอเรกอน สหรัฐอเมริกา
โดยเมื่อวันที่ 3 มิ.ย.ทีมลมกรดไทยที่ประกอบด้วย ไม้ 1 ชยุตม์ คงประสิทธิ์, ไม้ 2 สรอรรถ ดาบบัง, ไม้ 3 ศิริพล พันธ์แพ และ ไม้ 4 ภูริพล บุญสอน ก็ลงทำการแข่งขัน โดย ประกบกับทีมชาติของเกาหลีใต้ 1 ทีม และ ที่เหลือเป็นทีมระดับมหาวิทยาลัยของเกาหลี ที่ผู้จัด จัดให้ลงแข่งร่วมกัน
ผลปรากฏว่าทีมผลัดลมกรดของไทย เข้าเส้นชัยเป็นที่ 1 ของรายการแข่งขันนี้ โดยทำเวลาได้ 38.56 วินาที ซึ่งดีกว่าสถิติซีเกมส์ ที่ชุดนี้ทำไว้ที่เวียดนามในซีเกมส์ครั้งที่ 31 ล่าสุดที่เวียดนาม ซึ่งทำไว้เวลา 38.58 วินาที และถือเป็นสถิติใหม่ของประเทศไทยด้วย ขณะที่ตัวแทนทีมชาติของเกาหลีใต้เข้าที่ 2 ด้วยเวลา 39.03 วินาที
และเมื่อ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมานั้นทีมผลัดลมกรดของไทย ลงลู่เป็นครั้งที่ 2 โดยมีโจทย์คือหากต้องการเข้าไปสู่การแข่งขันกรีฑาชิงแชมป์โลกได้จะต้องทำสถิติต่ำกว่า 38.50 วินาที ให้ได้ ทีมกรีฑาไทยยังใช้ชุดเดิม ลงในลู่ที่ 3 และมีคู่แข่งร่วมลงลู่พร้อมกันอีก 2 ทีมคือ ทีมชาติเกาหลีใต้ ลงลู่ที่ 4 และ ทีมเยาวชน 20 ปีของเกาหลีใต้ในลู่ที่ 5
ซึ่งปรากฏว่าจากการออกสตาร์ทในไม้แรก เมื่อถึงการส่งไม้ที่สองนั้น ทีมเยาวชน 20 ปีของเกาหลีใต้ส่งไม้มีปัญหาจึงต้องออกจากการแข่งขัน เหลือเพียง 2 ทีมคือทีมกรีฑาไทยและเกาหลีใต้เท่านั้นซึ่งนักวิ่งไทยก็นำโดยตลอดจนถึงเส้นชัย แต่เวลาที่ออกมาคือ 38.75 วินาที ไม่ดีพอที่จะเข้าสู่รายการชิงแชมป์โลกได้ ขณะที่ทีมชาติเกาหลีนั้น เวลา 39.60 วินาที
นายประชุม บุญเทียม รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ได้เปิดเผยกับ Station THAI หลังจากการแข่งขันว่า ตนติดตามการแข่งขันนี้มาตลอด ซึ่งก็ได้ให้กำลังใจและได้หารือกับทางทีมงานสมาคมกีฬาแล้วและได้วางแผนร่วมกันเพื่อเดินหน้าต่อสำหรับทีมลมกรดไทยชุดนี้ โดยทางสมาคมกรีฑาแจ้งว่า ต่อไปจะเดินหน้ามุ่งสู่การแข่งขันกรีฑาที่ยุโรป เพื่อที่จะคัดเลือกคว้าโควต้าเข้าสู่การแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ปารีส ซึ่งรายการแรกจะเป็นปลายเดือนนี้ที่จะส่งแข่งและทำสถิติที่ประเทศเยอรมนี และเดือนกรกฏาคมจะมีอีกรายการที่ยุโรปเช่นกัน โดยหลังจากทีมกรีฑาชุดนี้เดินทางกลับมาไทย ทางสมาคมจะมาหารือกับตนเองเพื่อคุยเรื่องงบประมาณในการส่งแข่ง ซึ่งเชื่อว่าไม่มีปัญหาอะไรเนื่องจากทีมกรีฑาชุดนี้นั้นอยู่ในแผนการเตรียมนักกีฬาไทยสู่โอลิมปิกเกมส์ 2024 อยู่แล้ว นอกจากนี้ก็จะได้เชิญฝ่ายวิทยาศาสตร์การกีฬาของ กกท.ร่วมหารือวางแผนในการช่วยสนับสนุนด้านต่าง ๆ เพื่อให้ทีมชุดนี้มีความพร้อมมากที่สุดก่อนเดินทางไปทำสถิติลุ้นเข้าสู่โอลิมปิกเกมส์