นายประชุม บุญเทียม รองผู้ว่าการฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เป็น ประธานการประชุมสรุปผลงานการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ณ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม และแนวทางการพัฒนานักกีฬาทีมชาติไทย.
โดยมีนายปรีชา ลาลุน ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนากีฬาเป็นเลิศ, นายสุรศักดิ์ เกิดจันทึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิทยาศาสตร์การกีฬา, นายวุฒิชัย ชัยจิตย์ ผู้อำนวยการกองแข่งขันกีฬาเป็นเลิศ, นายอัครพร พึ่งพร หัวหน้างานแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ, นางโสภา วิฑิตอมรเวท ผู้อำนวยการกองวิทยาศาสตร์การกีฬา, นายพรชลิต จุรารักษ์พงศ์ หัวหน้างานพัฒนาศักยภาพกีฬา และคณะทำงานฯ ประกอบไปด้วย ศ.ดร.เจริญ กระบวนรัตน์ หัวหน้าผู้เชี่ยวชาญวิทยาศาสตร์การกีฬา และนางสาวอรวรรณ ภู่ชัยวัฒนานนท์ คณะทำงานฯ ได้ร่วมหารือประเด็นปัญหาที่พบของสมาคมกีฬาของไทย ที่ร่วมในซีเกมส์ เพื่อวางแนวทางการแก้ไขในการแข่งขันครั้งต่อ ๆ ไป
โดยนายประชุม เปิดเผยว่า การร่วมประชุมครั้งนี้ไม่ได้มีเพียงการสรุปและประเมินงานซีเกมส์ที่ผ่านมาเท่านั้น ยังมีการวางแผนร่วมกันในแนวทางต่อไปที่จะต้องเตรียมนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันซีเกมส์ครั้งหน้าปีหน้าที่กัมพูชา เอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่หางโจว ประเทศจีน ซึ่งเชื่อว่าอีกไม่นานก็จะกำหนดจัดแข่ง รวมทั้งโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสด้วย
ซึ่งที่ผ่านมาเราอาจจะไม่ลงลึกในการร่วมกันดูแผนงานของแต่ละสมาคมสำหรับแต่ละมหกรรม หรือบางครั้งสมาคมกีฬาเองก็ไม่สนใจที่จะจริงจังกับการทำแผนงานที่เป็นจริงแบบยอมรับความจริง แต่ในการทำงานร่วมกันในอนาคตที่จะถึงนี้ ทั้งฝ่ายพัฒนากีฬาเป็นเลิศ ฝ่ายวิทยาศาสตร์การกีฬาของ กกท.จะเข้าไปใกล้ชิดกับทางสมาคมกีฬาที่อยู่ในข่ายที่จะเข้าร่วมการแข่งขันซีเกมส์ เอเชี่ยนเกมส์ และ โอลิมปิกเกมส์ ที่จะแข่งขันภายในระยะเวลา 2 ปีต่อจากนี้ทั้งหมด ด้วยการทำงานที่ต้องเข้าถึง และไปในแนวทางเดียวกัน เช่นฝ่ายพัฒนากีฬาเป็นเลิศจะต้องหารือกับสมาคมกีฬา ถึงการจัดทำแผนงานที่เตรียมเข้าร่วมแข่งทุกมิติและในแผนจะต้องมีความเป็นไปได้จากการพิจารณาด้วยข้อมูลเชิงลึกที่มีอยู่ และฝ่ายวิทยาศาสตร์การกีฬาต้องจัดหาสิ่งที่สมาคมกีฬาต้องการตามแผนงานที่ส่งมาจากฝ่ายพัฒนากีฬาเป็นเลิศ เพื่อตอบสนองให้ได้อย่างชัดเจนและสมบูรณ์ ทั้ง 3 ฝ่ายนี้จะต้องเดินร่วมกันทำงานใกล้ชิดเพื่อเดินในแนวทางที่ชัดเจนไม่ใช่ความเฟ้อฝันเพื่อให้งานออกมาดีที่สุดใน3มหกรรมกีฬาที่กล่าวมานี้ซึ่งหากนับเวลาไปแล้วเหลือเวลาไม่นานนักแล้ว.