วันที่ 16 ก.ค.65 นายศักดา รัตนสุบรรณ อุปนายกสมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย หรือ “คิวทอง” กล่าวว่า สมาคมกีฬาบิลเลียดฯจะจัดประชุมเพื่อเลือกตั้งกรรมการบริหารชุดใหม่ ในวันที่ 20 ก.ค.นี้ ตามวาระ 4 ปี โดยในการเลือกตั้งครั้งนี้ ตัวเองก็จะยังทำงานร่วมทีมกับ “เฮียฮง” นายสุนทร จารุมนต์ นายกสมาคมกีฬาบิลเลียดฯคนปัจจุบัน เพราะยังมีงานที่ต้องสานต่ออีกมา อย่างไรก็ตามขึ้นอยู่กับกรรมการ สมาชิกสโมสร ที่จะพิจารณาเลือกกรรมการบริหารชุดใหม่
นายศักดา กล่าวว่า ที่ผ่านมา ได้ทำงานในวงการสนุกเกอร์ บิลเลียดมาอย่างต่อเนื่อง 30 กว่าปี ตั้งแต่ยุคนายสินธุ พูนศิริววงศ์ เป็นนายกสมาคมต่อเนื่องมาถึงนายสุนทร จารุมนต์ เป็นนายกสมาคมในวันนี้ โดยสมาคมฯได้พยายามผลักดันให้กีฬาสนุกเกอร์ เป็นกีฬาอย่างแท้จริง ไม่มีเรื่องของการพนันมาเกี่ยวข้อง เหมือนเช่นอดีตที่มองว่ากีฬาสนุกเกอร์เป็นเรื่องการมั่วสุมเล่นการพนัน และในที่สุดก็ได้ร่วมมือกับผู้ใหญ่ในสมาคมผลักดันจนกีฬาสนุกเกอร์เป็นหนึ่งใน 30 กีฬา ตามพ.ร.บ.กีฬา ได้รับการยอมรับและเข้าร่วมเป็นหนึ่งในกีฬาที่จัดการแข่งขันในระดับอาเซียน คือ กีฬาซีเกมส์ ที่ประเทศอินโดนีเซียเมื่อปี 2538 นอกจากนี้ สมาคมกีฬาบิลเลียดฯ ยังได้ผลักดันนักกีฬาสู่ระดับอาชีพ และระดับโลก ล่าสุดคือ “เอฟนครนายก” เทพไชยา อุ่นหนู “หมู ปากน้ำ”นพดล แสงคำ “แจ๊ค สระบุรี”เดชาวัต พุ่มแจ้ง และอีกหลายราย
ทั้งนี้ ในยุคนี้ที่มีนายสุนทร เป็นนายกสมาคมฯ และตัวเองเป็นอุปนายกสมาคม 4 ปี แม้จะเผชิญกับสถานการณ์โรคระบาดโควิด19 กว่า 3 ปี แต่สมาคมฯได้ขับเคลี่อนสร้างผลงานมาตรฐานที่สูงขึ้น โดยจัดกิจกรรมการแข่งขันจนครบทุกทัวร์นาเมนต์ ทั้งในประเทศและนานาชาติ ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันสนุกเกอร์ไทยแลนด์ แรงกิ้ง เซอร์กิต สนุ้กเกอร์ 6 แดงชิงแชมป์โลก โดยเพิ่มเงินรางวันทั้งสองรายการ และยังเพิ่มการจัดแข่งขันสนุกเกอร์เยาวชน สนุ้กเกอร์ชิงแชมป์ประเทศไทย และสนุกเกอร์หญิงชิงแชมป์ประเทศไทย เพื่อเฟ้นหาช้างเผือกฝีมือดีให้ก้าวสู่ระดับทีมชาติ
นอกจากนี้ทางสมาคมยุคของนายสุนทร ยังประสานงานสมาคมบิลเลียดและสนุกเกอร์อาชีพโลก (WPBSA) เพื่อให้ประเทศไทยและทวีปเอเชียได้จัด การแข่งขันสนุกเกอร์ “เอเชีย-โอเชียเนีย คิวสคูล” คัดเอานักสนุกเกอร์ทั้ง 2 ทวีปไปเล่นอาชีพโลก และได้สิทธิจัดการแข่งขันไปตลอด เจรจากับ WPBSA จนกลับมาให้เงินสนับสนุนการเปิด Academy ศูนย์ฝึกเยาวชน หลังจากที่ได้ยุติการสนับสนุนไปนานถึง 6 ปี
อุปนายกสมาคมกีฬาบิลเลียดฯ กล่าวต่อว่า ขณะที่การเชื่อมสัมพันธ์ภายในสมาชิกสโมสรทุกองค์กร นายสุนทร เป็นผู้ริเริ่มจัดให้มีการแข่งขันสนุกเกอร์ภายในสโมสรสมาชิกของสมาคม เพราะเห็นความสำคัญของสมาชิกสโมสรทุกสโมสร ที่จะร่วมผลักดันวงการสนุกเกอร์ให้ก้าวหน้าต่อไป และยังจัดให้มีการอบรมสัมมนาผู้ฝึกสอน และผู้ตัดสิน ตามแผนยุทธศาสตร์ของการกีฬาแห่งประเทศไทย จัดตั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือบุคลากรทางการกีฬา นักกีฬาทีมชาติ และเจ้าหน้าที่ รวมทั้งผลักดันเพิ่มค่าแรงของกรรมการ โค้ชและนักกีฬา
“ถึงวันนี้ผ่านมา 4 ปี ที่ได้ร่วมบริหารงานสมาคมฯ ได้ร่วมกับคุณสุนทร หรือ “เฮียฮง” พัฒนา ยกระดับวงการ สนุกเกอร์มาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเรื่องของการพนันที่เริ่มเข้ามาระบาดในวงการสนุกเกอร์ไทยอีกครั้ง จึงอยากเรียกร้องให้สมาชิก กรรมการสมาคม ร่วมกันยืนหยัดต้านสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ที่จะเข้ามาฉุดการกีฬาสนุกเกอร์ให้ตกต่ำ กลับไปวนเวียนอยู่กับเรื่องการพนัน เป็นเรื่องอบายมุขการมั่วสุมกันอีก”
นายศักดา กล่าวทิ้งท้ายว่า ส่วนปัญหาภายในที่มีการร้องเรียน หรือเรื่องส่วนตัวของกรรมการ เป็นเรื่องของกระบวนการตรวจสอบ กระบวนการยุติธรรมที่จะพิจารณา ไม่อยากให้นำมาดิสเครดิตใครในช่วงนี้