เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2565 ศ.กิตติคุณ ดร.วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเปิดและบรรยายพิเศษ ในการประชุมสัมมนาผู้บริหารโรงเรียนไทยรัฐวิทยา ครั้งที่ 40 “ประวัติศาสตร์ที่ไม่ควรลืม” โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า โรงเรียนไทยรัฐวิทยา ได้เพิ่มการเรียนการสอนในวิชาสำคัญที่นอกเหนือไปจาก 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ที่มีอยู่แล้ว อีก 2 วิชา คือ วิชาความฉลาดรู้เรื่องสื่อ กับวิชาหน้าที่พลเมืองและศีลธรรม และในปีการศึกษา 2565 นี้ได้เพิ่มการเรียนการสอนวิชาประวัติศาสตร์ อีกวิชาหนึ่ง
“ประวัติศาสตร์เป็นสิ่งที่มีประโยชน์มากมาย เป็นองค์ความรู้เรื่องราวในอดีตที่มีหลักฐานชัดเจน หากไม่รู้เรื่องในอดีตอาจทำเรื่องในอนาคตได้ไม่ดี เพราะคนในอดีตอาจทำเรื่องนั้น ๆ ไว้แล้ว โดยเราสามารถนำมาปรับประยุกต์ใช้กับปัจจุบัน และอนาคตได้ในทุก ๆ สาขาอาชีพ หรืออาจกล่าวได้ว่า ก่อนจะแลหน้า ให้เหลียวหลังก่อน จึงจะเรียกว่ารอบรู้ ประเทศชาติเปรียบเสมือนต้นไม้ ประวัติศาสตร์เปรียบเสมือนรากของต้นไม้นั้น ประวัติศาสตร์ทำให้รู้รากเหง้าของประเทศ ถ้าประวัติศาสตร์ยิ่งยาวก็ยิ่งแข็งแกร่ง เหมือนต้นไม้ที่มีรากแก้ว ไม่ใช่มีแต่รากฝอย ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นในที่สุดก็จะล้มลง”
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ความไม่ประสบผลสำเร็จของวิชาประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา คือ ได้คนที่ไม่สนใจมาสอน วิธีการสอนไม่สนุก และ “คนที่สอน” กับ “คนที่เรียน” ไม่พอใจในวิชาเท่าที่ควร เมื่อไม่พอใจ ก็ไม่มีความพากเพียรเอาใจใส่ ซึ่งการใช้อิทธิบาท 4 คือ “ฉันทะ” ความรักงาน-พอใจกับงานที่ทำอยู่ “วิริยะ” ขยันหมั่นเพียรกับงาน “จิตตะ” ความเอาใจใส่รับผิดชอบงาน และ “วิมังสา” การพินิจพิเคราะห์ หรือ ความเข้าใจ มาเป็นแนวทางการทำงาน จะทำให้การสอนประวัติศาสตร์สำเร็จได้ ต้องสอนให้รู้ว่าเรื่องราวนั้น ๆ เกิดขึ้นได้อย่างไร ทำไมถึงเกิดขึ้น และเกิดแล้วส่งผลอะไร ซึ่งไม่ใช่การสอนโดยให้ท่องจำ
อ้างอิงข้อมููล จาก กระทรวงศึกษาธิการ