รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น พร้อมด้วย รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษาและศิษย์เก่าสัมพันธ์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายรักษาความปลอดภัย คณบดีคณะพยาบาลศาสตร์ และผู้แทนคณบดีคณะแพทยศาสตร์ ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวถึง กรณีเกิดอุบัติเหตุรถยนต์โดยสารของคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ของนักศึกษา คณะแพทยศาสตร์ เสียชีวิตในพื้นที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น นั้น
มหาวิทยาลัยขอนแก่น รู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากนักศึกษาเปรียบเสมือนคนในครอบครัวของมหาวิทยาลัย และเป็นเยาวชนที่เป็นอนาคตที่สำคัญของประเทศ ทั้งนี้ หลังจากนักศึกษาเสียชีวิตผู้เกี่ยวข้องของมหาวิทยาลัย คือ คณบดีคณะพยาบาลศาสตร์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ และรองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษาและศิษย์เก่าสัมพันธ์ ในฐานะตัวแทนของมหาวิทยาลัย ได้แสดงความเสียใจต่อครอบครัวของนักศึกษา และได้ร่วมกับครอบครัวของนักศึกษาในการจัดงานบำเพ็ญกุศล โดย คณะพยาบาลศาสตร์ ได้จัดเตรียมงานบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมทุกวัน จนถึงพิธีฌาปนกิจ พร้อมกันนี้ ทางมหาวิทยาลัยก็ได้มอบเงินช่วยเหลือครอบครัวนักศึกษาโดยมีหลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติในการจ่ายเงินช่วยเหลือกรณีนักศึกษาประสบอุบัติเหตุและเสียชีวิต จำนวน 130,000 บาท ไปแล้ว เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม ที่ผ่านมา ซึ่งเงินจำนวนนี้ไม่ได้เป็นเงื่อนไขว่า จะไม่สามารถเรียกเงินสินไหมทดแทนหรือเงินชดเชยได้อีก แต่เป็นการช่วยเหลือตามประกาศของมหาวิทยาลัยเท่านั้น
ส่วนกรณีที่ได้มีการเรียกเงินสินไหมทดแทนการเสียชีวิตนั้น มหาวิทยาลัยมีความเข้าใจและเห็นใจครอบครัวที่สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักและเป็นความหวังของครอบครัวไป ทั้งนี้ เนื่องจากมหาวิทยาลัยขอนแก่นเป็นมหาวิทยาลัยของรัฐ การจ่ายเงินค่าสินไหมทดแทน หรือค่าเสียหาย ในกรณีที่พนักงานของมหาวิทยาลัยทำให้เกิดความเสียหายต่อบุคคลภายนอก จะกระทำได้ 2 วิธี คือ โดยการดำเนินการตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ หรือ โดยคำสั่งของศาล เท่านั้น ซึ่งในเรื่องดังกล่าวผู้บริหารมหาวิทยาลัยจะได้แจ้งให้ครอบครัวนักศึกษาได้ทราบต่อไป
นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยขอนแก่นขอเรียนให้บุคลากร นักศึกษา และประชาชน ทราบว่า มหาวิทยาลัยมีความเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของนักศึกษาและบุคลากรของมหาวิทยาลัยเป็นอย่างมาก มหาวิทยาลัยขอนแก่นมีพื้นที่ขนาดใหญ่ มากกว่า 5 พันไร่ ในแต่ละวันมีรถยนต์และรถจักรยานยนต์สัญจรมากกว่า 50,000 คัน ที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยได้มีการปรับปรุงทางกายภาพ และวางระบบความปลอดภัยทางจราจรมาอย่างต่อเนื่อง ก่อนเกิดเหตุมหาวิทยาลัยมีโครงการความปลอดภัยทางการจราจร 2 โครงการ ได้แก่ โครงการประตูอัจฉริยะ (Smart Gate) ประกอบด้วย การติดตั้งกล้องวงจรปิด เพื่ออ่านป้ายทะเบียน และเครื่องแขนกั้นอัตโนมัติ ควบคุมประตูเข้า-ออกมหาวิทยาลัย เพื่อลดปริมาณรถที่วิ่งเข้ามาในพื้นที่มหาวิทยาลัยโดยไม่จำเป็น เพื่ออาศัยเป็นเส้นทางผ่านไปที่อื่น และโครงการจำกัดความเร็วรถยนต์ (Speed Limit LED Display) โดยติดตั้งกล้องตรวจจับความเร็วพร้อมจอแจ้งเตือน เพื่อจำกัดความเร็วของรถในมหาวิทยาลัย ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยได้กำหนดความเร็วของรถยนต์ในพื้นที่มหาวิทยาลัย ไม่เกิน 50 กม. /ชม. และในทางร่วมทางแยก ไม่เกิน 30 กม./ชม. เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ทางมหาวิทยาลัยขอนแก่น จึงได้วางแผนมาตรการความปลอดภัยเพิ่มขึ้น โดยทำโครงการติดตั้งไฟจราจรเพิ่มในมหาวิทยาลัยในจุดที่เกิดเหตุ และในทางร่วมทางแยกจะมีการนำระบบการควบคุมสัญญาณไฟจราจร โดยนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์มาช่วยบริหารจัดการให้การเคลื่อนที่ของรถมีความต่อเนื่องและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น