“เสธ.ยอด” พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย ประธานสหพันธ์สหพันธ์สมาคมกีฬาชาติ (ฟอนซ่า) ได้เปิดเผยกับสื่อ Station THAI จากกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์การดำเนินงานเกี่ยวกับเรื่องกระบวนการ การเบิกจ่ายการเงินระหว่างสมาคมกีฬาและการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) อย่างมากในปัจจุบันนี้ว่า ตนเองได้รับทราบปัญหาจากสมาคมกีฬาต่าง ๆ จริง และเป็นเวลาพอสมควรแล้ว จึงได้พยายามหาข้อมูลทั้งหมดจากฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และล่าสุดเลยฝากกับผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทยไปว่า ควรต้องรีบแก้ไขปัญหาเงินค้างทั้งหมดนี้ให้ได้ เพราะตั้งแต่มี กกท.มาครั้งนี้เป็นปัญหาที่หนักที่สุด ที่เกิดจากการทำสัญญาที่เกี่ยวข้องกับการเบิกจ่ายกับทุกสมาคมจำนวน 600 กว่าสัญญาที่กระบวนการซ้ำซ้อน ซึ่งไม่มีประเทศไหนที่เกี่ยวข้องกับกีฬาทำเรื่องเช่นนี้ และที่ผ่านมา กกท.ก็ไม่เคยมีปัญหาเช่นนี้แต่อย่างไร จึงต้องให้ช่วยตามแก้ปัญหาการเบิกจ่ายโดยเร็ว หากคนไม่พอก็ต้องจ้าง out source เข้ามาช่วย
ประเด็นที่สองที่ฝาก คือ ตอนนี้ไม่มีแผนงานการเตรียมนักกีฬาไทย ที่จะไปร่วมการแข่งขันโอลิมปปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ทั้งที่เหลือเวลาอีกไม่ถึง 2 ปีแล้ว และ แผนงานกีฬาอื่น ๆ ที่สนับสนุนนโยบาย 20 ปีของรัฐบาล กกท.ก็ต้องจัดทำแผนงาน เพื่อไล่ลงมาตั้งแต่ โอลิมปิกเกมส์ 2032 ลงมา โอลิมปิกเกมส์ 2028 และ 2024 เพื่อที่จะได้ดำเนินการเตรียมนักกีฬาได้อย่างเข้มแข็ง
เสธ.ยอด กล่าวต่ออีกว่า ตนเองฝากให้ กกท.คุยกับทางกองทุนพัฒนาการกีฬาชาติ ให้หาทางเร่งรัดและช่วยเหลือแนวทางของ กกท.ที่ทางกองทุนอนุมัติรายการแข่งขันในประเทศและต่างประเทศของสมาคมกีฬาต่างๆ แต่งบประมาณไม่เพียงพอนั้น ให้หาทางสนับสนุนและแก้ไขปัญหาให้เงินถึงสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทยและสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดโดยเร็ว
และปิดท้าย เสธ.ยอด ยังระบุด้วยว่า ดูเหมือนว่าที่ผ่านมานั้นกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติไม่ได้วางแผนงานใช้จ่ายงบประมาณที่ได้มาเพื่อสนับสนุนงานในพันธกิจของกองทุนเลย เช่นการแบ่งเปอร์เซ็นต์ในการสนับสนุนกีฬาว่า จะใช้ในการเก็บตัวเท่าไหร่ ส่งแข่งขันต่างประเทศเท่าไหร่ แข่งขันในประเทศเท่าไหร่ งบบริหารเท่าไหร่ ที่จริงควรที่จะต้องมีการกำหนดสัดส่วนให้ชัดเพื่อให้การสนับสนุนตามความสำคัญอย่างชัดเจน ตอนนี้วงการกีฬาเขาต้องการทราบข้อมูลการใช้เงินงบประมาณของกองทุนพัฒนาการกีฬาในภาพรวมมาก ซึ่งตนเองก็กำลังหาข้อมูลนี้อยู่เพราะก็อยากที่จะเห็นความชัดเจนเช่นกัน.