จากกรณีที่เงินอุดหนุนประจำปีของ สมาคมกีฬาแห่งประเทศไทยและสมาคมกีฬาแห่งจังหวัด ในปีนี้นั้นเกิดปัญหา โดยการจ่ายให้กับสมาคมกีฬาดังกล่าว การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) กำหนดการจ่ายแบ่งเป็น 2 งวด ๆ ละ 50 % ของเงินที่สมาคมจะได้ ซึ่งงวดแรกนั้นทางการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ได้แก้ปัญหาด้วยการนำเงินสะสมของ กกท.เองมาจ่ายไปแล้วนั้น แต่สำหรับงวดที่ 2 นั้นเมื่อถึงเวลาที่จะต้องจ่าย ปรากฏว่าเกิดปัญหาเมื่อไม่สามารถขอการสนับสนุนจากเงินกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติตามที่คาดหมายได้ เนื่องมาจากว่า ในวัตถุประสงค์ หรือ หลักเกณฑ์การใช้จ่ายเงินของกองทุนฯนั้น ไม่สามารถนำเงินมาใช้จ่ายในส่วนของการสนับสนุนสมาคมกีฬาทั้ง 2 กลุ่มนี้ได้
เมื่อเกิดปัญหานี้ กกท. ก็พยายามเร่งแก้ไข แต่พบว่าเงินสะสม กกท.เอง ก็ไม่มีเพียงพอที่จะนำมาจ่ายให้กับงวดที่ 2 นี้ได้ จึงเกิดเสียงทวงถามของสมาคมกีฬาที่เกี่ยวข้องและเร่งให้ กกท.แก้ปัญหาด่วนเนื่องจากส่งผลกระทบต่อฝ่ายที่รอเงิน
ซึ่งจากการประชุมคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย (บอร์ด กกท.) เมื่อวันที่ 31 ส.ค.2565 ที่ผ่านมา โดยมี “บิ๊กป้อม” พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาการนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย เป็นประธานในการประชุมได้รับทราบปัญหาดังกล่าวจากการรายงานว่าวงเงินที่ต้องจ่ายอุดหนุนทั้งหมดนั้นอยู่ที่วงเงินประมาณ 107 ล้านบาท และด้วยความห่วงใยปัญหาดังกล่าว “บิ๊กป้อม” ได้แจ้งว่าจะเป็นผู้จัดหางบวงเงิน 100 ล้านบาทจากส่วนอื่นๆ มาให้ และให้การกีฬาแห่งประเทศไทยจัดหางบอีก 7 ล้านบาทมาเพิ่มเติม เพื่อที่จะได้นำมาจ่ายอุดหนุนให้กับสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทยและแห่งจังหวัดอย่างครบถ้วน โดยได้ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาส่งหนังสือเพื่อขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นของการกีฬาแห่งประเทศไทยฯจากสำนักงบประมาณ
และล่าสุด วันนี้ (23 ก.ย.2565) ปรากฏว่าสิ่งที่ “บิ๊กป้อม” สัญญาในการหาเงินดังกล่าวข้างต้นมาช่วยกว่า 100 ล้านบาทนั้นเป็นจริงในระยะเวลาไม่ถึง 1 เดือน เมื่อสำนักงบประมาณมีหนังสือแจ้งมายังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาที่กำกับดูแล กกท. ใจความว่าตามที่ขอไปได้นำเรื่องกราบเรียนนายกรัฐมนตรี และได้พิจารณาเห็นชอบแล้วจึงอนุมัติให้จำนวน 94,992,700 บาท และให้ กกท.สามารถเบิกจ่ายเงินส่วนนี้เพื่อนำไปอุดหนุนสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทยและแห่งจังหวัดต่อไป.