เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2566 ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมคณะผู้บริหาร เข้าพบ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อนำเสนอนิทรรศการ “โครงการขับเคลื่อนการจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณและการออกแบบเทคโนโลยี” ตามนโยบายของรัฐบาลที่มอบหมายให้กระทรวงศึกษาธิการ พัฒนาและปรับปรุงการเรียนการสอนด้านวิทยาศาสตร์ นวัตกรรม และวิทยาการคำนวณ อย่างเป็นรูปธรรม

นายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมนิทรรศการบางส่วน อาทิ นิทรรศการโค้ดดิ้งชายทุ่ง หมายมุ่ง ฟ.ฟาร์ม โรงเรียนรวมจิตประสาท สพป.ปทุมธานี เขต 2 โดยมีการนำตัวอย่างการเรียนโค้ดดิ้ง (Coding) ในเด็กเล็ก เช่น การเล่นเกมบันไดงู โดยให้เด็กฝึกคิดเพื่อหาทางออกทีละขั้น ผ่านการใช้คำสั่งลูกศร ซ้าย ขวา หน้า หลัง เป็นต้น ซึ่งหลักสูตรโค้ดดิ้ง (Coding) จะช่วยส่งเสริมทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณให้ผู้เรียนในทุกช่วงวัยได้อย่างเหมาะสม นอกจากนี้ ยังได้เยี่ยมชม นิทรรศการอัจฉริยะเกษตรประณีตของโรงเรียนชุมชนดอยช้าง สพป.เชียงราย เขต 2 ที่มุ่งเน้นการจัดการศึกษาให้นักเรียนที่จบการศึกษา มีทักษะในศตวรรษที่ 21 และนำทักษะเหล่านั้นไปใช้ได้ในชีวิตจริง เริ่มจากการนำแนวทางโครงการอัจฉริยะเกษตรประณีต มาจัดทำหลักสูตร Smart Farm ของโรงเรียน บูรณาการเข้ากับบริบทของท้องถิ่น ส่งเสริมให้นักเรียน ได้เรียนรู้ ทดลอง ลงมือปฏิบัติ และวางแผนแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ และได้นำการเรียนรู้ แบบ Coding มาบูรณาการจัดการเรียนการสอนในรายวิชาเพิ่มเติม ซึ่งเป็นหลักสูตรท้องถิ่นของโรงเรียน ได้แก่ รายวิชาผ้าปักเด็กดอยช้าง โดยจัดกิจกรรมให้นักเรียนออกแบบขั้นตอน หรือ อัลกอริทึม ในการปักลายผ้าปักชนเผ่าอาข่า และทำเป็นผลิตภัณฑ์ เช่น เสื้ออาข่า พวงกุญแจ กระเป๋า จำหน่ายในร้าน รวมถึงรายวิชากาแฟดอยช้าง ที่ฝึกให้นักเรียนเกิดทักษะการเรียนรู้ผ่านการจัดกิจกรรมและขั้นตอนที่ได้มาซึ่งผลิตภัณฑ์จากกาแฟ สามารถนำไปต่อยอดโครงการ โดยโรงเรียนในชุมชนดอยช้างได้รับคัดเลือกให้เข้าร่วมโครงการกับโรงเรียนนานาชาติชูวเวอรี่ ในการออกแบบผลิตภัณฑ์ให้ทันสมัยน่าสนใจ และจำหน่ายบนแพลตฟอร์ม ขายสินค้าออนไลน์ Shopee Thailand ในรูปแบบ Gift Set Box ที่ประกอบไปด้วย ชาเลือดมังกรแบบจุ่ม กาแฟซองดริป และกระเป๋าผ้าปักลายอาข่าจากผลงานนักเรียน

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวชื่นชมกระทรวงศึกษาธิการ ที่ได้มีการขับเคลื่อนนโยบายสำคัญที่มุ่งสู่การศึกษาในศตวรรษที่ 21 เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายของการศึกษา ที่จะสร้างภูมิคุ้มกันให้เด็กไทยพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว สร้างโอกาสเรียนรู้อย่างเท่าเทียม ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ขยายโอกาสให้เด็กนักเรียนทุกคนต้องได้เรียนวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรมอย่างทั่วถึง รวมไปถึงโครงการอัจฉริยะเกษตรประณีต เป็นการนำองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มาประยุกต์กับภาคการเกษตรอีกด้วย