ตามที่มีผู้ปกครองนักกีฬาฟินสวิมมิ่ง ได้มีการร้องเรียนกับการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) พร้อมทั้งได้ร้องเรียนไปยังสื่อมวลชน โดยระบุว่านักกีฬาที่เป็นบุตรชายไม่ได้รับความเป็นธรรมในการพิจารณาคัดเลือกตัวนักกีฬาฟินสวิมมิ่ง เพื่อเตรียมส่งเข้าร่วมการแข่งขันซีเกมส์ครั้งที่ 32 ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ของสมาคมกีฬาดำน้ำแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นผู้ดูแลในการจัดส่งนักกีฬาฟินสวิมมิ่ง ซึ่งเมื่อได้รับการร้องเรียนแล้ว ทาง กกท.โดย นายประชุม บุญเทียม รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา ได้ทำหนังสือถึงสมาคมกีฬาดำน้ำฯขอให้ชี้แจงเหตุผลเพื่อขอทราบถึงที่มีกรณีการร้องเรียนดังกล่าว เมื่อ 16 มีนาคม 2566
ล่าสุดเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2566 สื่อ Station THAI ได้รับ ทราบว่าทาง ผู้แทนสมาคมกีฬาดำน้ำแห่งประเทศไทย ได้เข้าชี้แจงพร้อมทั้งยื่นเอกสารหลักฐานทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของการถูกร้องเรียน ต่อการกีฬาแห่งประเทศไทยแล้ว ซึ่งเชื่อว่าทางการกีฬาแห่งประเทศไทยนั้นจะสรุปเพื่อตอบข้อร้องเรียนจากผู้ปกครองนักกีฬาฟินสวิมมิ่งคนดังกล่าวในเร็วๆ นี้
ผู้สื่อข่าว Station THAI ระบุว่า การที่มีการเปลี่ยนแปลงนักกีฬาโดนตัดนักกีฬาที่ผู้ปกครองร้องเรียนนั้นออกไป เนื่องมาจากว่า ทางเจ้าภาพได้แจ้งเปลี่ยนแปลงรายการที่แข่งขัน โดยรายการใหม่เป็นรายการที่นักกีฬาที่ถูกตัดออกไปไม่มีความถนัด โดยสามารถดูได้จากสถิติที่มีการทดสอบ โดยนักกีฬาคนดังกล่าวจะอยู่ในอันดับที่ 7 และ 5 ของนักกีฬาชายทั้งหมดที่เก็บตัว จึงไม่สามารถนำไปร่วมทีมได้ทั้งประเภทบุคคลและผลัด ในการแข่งขันซีเกมส์ครั้งนี้ได้
และในเอกสารการชี้แจง ยังแจ้งด้วยว่า การคัดเลือกตัวทั้งหมดที่เกิดขึ้น เป็นเงื่อนไขหรือข้อตกลงที่ทางสมาคมแจ้งมาตลอดว่าคณะกรรมการที่พิจารณาของสมาคม มีสิทธิในการเปลี่ยนแปลงตัวนักกีฬาหรือสรรหานักกีฬาเพิ่มเติมได้ในช่วงก่อนที่จะมีการส่งชื่อนักกีฬาแข่งขัน เพื่อประโยชน์สูงสุดในเป้าหมายการเตรียมทีม พร้อมทั้งสามารถยืนยันหลักฐานได้ชัดว่านักกีฬาที่ผู้ปกครองร้องเรียนนั้นเมื่อเทียบเคียงกับสถิติจากซีเกมส์ก่อนหน้านี้จะมีสถิติอยู่ในลำดับที่ 7 ของผลการแข่งขันเท่านั้น และสมาคมกีฬาดำน้ำยืนยันว่าวิธีการทดสอบสถิติ วิธีการคัดตัวและการตัดสิน ในครั้งที่ให้ส่งคลิปนั้น สมาคมฯได้แจ้งสมาชิกของสมาคมทุกชมรม รวมทั้งชมรมที่นักกีฬาซึ่งผู้ปกครองร้องเรียนครั้งนี้สังกัดอยู่และทางชมรมก็ส่งคลิปผลงานนักกีฬาจำนวน 2 คนส่งมาและมีนักกีฬาผ่านการคัดเลือก 1 คน นั่นแสดงว่าทุกชมรมรับทราบข้อตกลงนี้
พร้อมกันนี้ทางสมาคมกีฬาดำน้ำฯ ยังได้ส่งเอกสารผลการทดสอบเวลา ในระหว่างการฝึกซ้อม ที่มีนักกีฬาซึ่งผู้ปกครองร้องเรียนครั้งนี้ร่วมทดสอบ ส่งให้กับ กกท.ประกอบการอธิบาย โดยการทดสอบในประเภทที่เรียกเก็บตัวเดือนแรก ปรากฏว่าสถิติเวลานักกีฬาคนดังกล่าว ได้อันดับ 7 จากนักกีฬาทั้งหมด 7 คน และ ในเดือนที่ 2 ทดสอบอีกครั้ง โดยมีนักกีฬาร่วมทดสอบ 5 คน นักกีฬาคนดังกล่าวทำสถิติได้อันดับที่ 5 ซึ่งเป็นอันดับสุดท้ายของการทดสอบทั้ง 2 ครั้งด้วย.
และในขั้นตอนต่อไปนั้น ทางการกีฬาแห่งประเทศไทย ซึ่งได้รับข้อมูลจากการชี้แจงของสมาคมกีฬาดำน้ำฯแล้วนั้น จะได้ทำสรุปเพื่อแจ้งต่อผู้ปกครองของนักกีฬาที่ร้องเรียนกรณีดังกล่าวในเร็ววันนี้.