จับมือ 3 ประสาน มจธ. – โอสถสภา – หัวเว่ย เปิดหลักสูตร “วิศวกรรมระบบอัจฉริยะ (ISE)” ผลิตวิศวกร AI รองรับอุตสาหกรรม 4.0

แชร์บทความ

Share on facebook
Share on twitter

งานวิจัยของสถาบัน MIT ชี้ว่า AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตของภาคอุตสาหกรรมได้ 35% และลดเวลาการทำงานลง 14% และผลการสำรวจของ World Economic Forum ตั้งแต่ปี 2565-2566 ระบุว่า บุคลากรด้าน AI จะขาดแคลนอย่างมหาศาล เพราะอุตสาหกรรมการผลิตของทั้งโลกต้องพึ่งพา AI มากยิ่งขึ้น แต่การเรียนการสอนด้าน AI ของไทยที่ผ่านมา ส่วนใหญ่จะบรรจุในเนื้อหาของวิชาคอมพิวเตอร์ เน้นทักษะความรู้เฉพาะทาง มีการเชื่อมโยงกับโจทย์ หรือ ความต้องการจริงในภาคอุตสาหกรรมค่อนข้างน้อย

นี่จึงเป็นที่มาของการออกแบบหลักสูตรวิศวกรรมระบบอัจฉริยะ (Intelligence Systems Engineering: ISE) ภายใต้ความร่วมมือระหว่าง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (ราชบุรี) บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) และบริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จํากัด โดยได้มีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางด้านวิชาการร่วมกัน เมื่อวันศุกร์ที่ 2 มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา โดยมี รศ. ดร.สุวิทย์ แซ่เตีย อธิการบดี และ นายนุกิจ ชลคุป Chief Manufacturing Officer ร่วมลงนาม พร้อมด้วย ศ. ดร.บุญเจริญ ศิริเนาวกุล ที่ปรึกษา มจธ. (ราชบุรี) และ ตัวแทนจากบริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จํากัด ร่วมเป็นสักขีพยาน

รศ.ดร.สุวิทย์ แซ่เตีย อธิการบดี มจธ. กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีกำลังคนด้าน AI ไม่เพียงพอ ประกอบกับอุตสาหกรรมในประเทศกำลังจะเปลี่ยนแปลงไป จึงมีความต้องการบุคลากรด้าน AI เข้าไปช่วยพัฒนาและดูแลระบบ หากเราไม่เร่งผลิตบุคลากรทางด้านนี้ ในระยะยาวอุตสาหกรรมเหล่านี้จะประสบกับปัญหาขาดแคลนกำลังคนอย่างแน่นอน

“ต้องเข้าใจว่า อุตสาหกรรมของไทยส่วนใหญ่เป็นเทคโนโลยียุค 3.0 และกำลังต้องปรับเปลี่ยนตัวเองเป็นเทคโนโลยี 4.0 หากเราสามารถสร้างคนที่มีทักษะและมีประสบการณ์ทำงานด้าน AI กับ ภาคอุตสาหกรรมเข้าไปเติมในจุดนี้ นอกจากจะสามารถใช้ AI มาช่วยลดต้นทุนในการผลิตได้แล้ว ยังเป็นประโยชน์สูงสุด ทั้งกับตัวผู้ประกอบการ และอุตสาหกรรมของไทยโดยรวม”

ดังนั้น เพื่อให้หลักสูตรวิศวกรรมระบบอัจฉริยะ (Intelligence Systems Engineering : ISE) สามารถพัฒนาให้นักศึกษามีคุณลักษณะและความสามารถตรงตามความต้องการของภาคอุตสาหกรรมทั้งในและต่างประเทศ และยังเป็นการส่งเสริมการพัฒนาและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และเทคโนโลยี ระหว่างสถาบันการศึกษาและสถานประกอบการ ด้วยบริบทจริง (Content) ของอุตสาหกรรมยุคใหม่ โดยใช้โจทย์ที่ได้รับจากสถานประกอบการจริง จึงเป็นจุดเด่นที่สำคัญของหลักสูตรนี้

ศ.ดร.บุญเจริญ ศิริเนาวกุล ที่ปรึกษา มจธ. (ราชบุรี) และ ประธานหลักสูตร ISE กล่าวว่า ภายใต้หลักสูตรนี้ นักศึกษาจะมีความรู้และทักษะทั้งทางด้านวิศวกรรม อุตสาหกรรม และปัญญาประดิษฐ์ รวมถึงเครื่องมืออื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น IoT และ Cloud เพราะเป็นการเรียนรู้แบบพหุวิทยาการ ที่ส่งเสริมให้นักศึกษาได้เรียนรู้ทั้งภาคทฤษฎี ภาคปฏิบัติ การประยุกต์และความคิดสร้างสรรค์ ให้เขาได้มีโอกาสใช้ความรู้ทางวิศวกรรมระบบในสาขาเครื่องกล ไฟฟ้า พลังงานและเคมี และชีวภาพ มาสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์ปัญหา หรือ ความต้องการของผู้ประกอบการได้จริง รวมถึงมีการฝึกปฏิบัติงานร่วมกับภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม โดยนักศึกษามีอิสระในการออกแบบแนวทางการเรียนรู้ของตนเอง สามารถเลือกเรียนตามหัวข้อโครงงานที่ตนเองสนใจ ผ่านการเรียนรู้ทั้งในและนอกห้องเรียน พร้อมกันนี้นักศึกษาจะได้เรียนรู้การอยู่ร่วมกันแบบสังคม และการเป็นสมาชิกของสังคมที่มีความรับผิดชอบต่อตนเองและผู้อื่น ด้วยการจัดการเรียนการสอนแบบ Residential College ของ มจธ. ราชบุรี

เป้าหมายของหลักสูตร คือ “ผลิตนักเทคโนโลยี AI” หรือ “วิศวกร AI” โดยจุดเด่นของหลักสูตร คือ นักศึกษาได้ปฏิบัติงานกับโรงงานอุตสาหกรรมจริง โดยใช้เทคโนโลยีระดับโลก ตั้งแต่ปี 1 การศึกษาจะไม่จำกัดเฉพาะทฤษฎีเท่านั้น แต่เรียนกับเทคโนโลยีและโจทย์ปัญหาจริงจากภาคอุตสาหกรรม ซึ่งผู้ที่จบจากหลักสูตร ISE นี้ จะสามารถนำเครื่องมือ และเทคโนโลยี AI ไปใช้กับงานของตนเอง ซึ่งนอกจากในโรงงานแล้ว ยังประกอบอาชีพอื่น ๆ ได้ เช่น ด้านการเกษตร Smart Farming ยานยนต์อัตโนมัติ เป็นต้น”

ศ.ดร.บุญเจริญ กล่าวต่อว่า ภายใต้ความร่วมมือนี้ นักศึกษาจะได้ฝึกปฏิบัติจริงในโรงงานของโอสถสภา และใช้ AI มาแก้ปัญหา หรือ ตอบโจทย์ความต้องการจริงของภาคอุตสาหกรรม ผ่านการใช้งานเครื่องจักรกล และเทคโนโลยีด้าน AI และ IoT ระดับสูงของโอสถสภา ตั้งแต่เรียนชั้นปีที่ 1 ซึ่งการเริ่มต้นได้เร็ว จะทำให้สามารถพัฒนาตนเองได้อย่างต่อเนื่อง สามารถเป็นบุคลากรคุณภาพที่ตรงตามความต้องการของภาคอุตสาหกรรมได้อย่างแน่นอน

นายนุกิจ ชลคุป Chief Manufacturing Officer บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงความร่วมมือครั้งนี้ว่า ปัจจุบันโอสถสภามีการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยเฉพาะระบบอัจฉริยะ หรือ ปัญญาประดิษฐ์ มาบริหารจัดการในกระบวนการต่าง ๆ อย่างครบวงจร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและศักยภาพในการผลิต จึงมีความเชื่อมั่นว่า หลักสูตร ISE นี้จะช่วยเสริมสร้างองค์ความรู้ด้านวิศวกรรมที่สามารถนำมาปรับใช้ได้จริง พร้อมส่งเสริมให้คนรุ่นใหม่มีทักษะและประสบการณ์ พร้อมเป็นบุคลากรคุณภาพที่จะขับเคลื่อนและพัฒนาภาคอุตสาหกรรมไทยสู่ระดับสากลและเติบโตอย่างยั่งยืน

“ความร่วมมือ 3 ประสาน ระหว่างผู้ให้บริการเทคโนโลยี (Technology provider) อย่าง หัวเว่ย นักศึกษา และ บริษัทเอกชน เช่นนี้ ยังไม่เคยมีที่ไหนทำมาก่อน ถือเป็นครั้งแรก และหวังว่าจะเป็นโครงการนำร่องความร่วมมือในลักษณะนี้เพิ่มขึ้นในอนาคต เพราะเป็นโครงการที่เอื้อประโยชน์กับทุกฝ่าย ตัวนักศึกษาจะได้รับโจทย์ที่เป็นของจริง โดยมีพี่เลี้ยงที่เป็นพี่ ๆ วิศวกร และบุคลากรของโรงงานคอยสนับสนุนและช่วยเหลือ จนได้เป็นนวัตกรรมด้าน AI ออกมา ซึ่งความร่วมมือที่ต่อเนื่องกับ มจธ. ภายใต้หลักสูตร จะทำให้สิ่งที่นักศึกษา ISE รุ่นก่อนทำมาแล้ว ถูกพัฒนาต่อ และทำให้ดีขึ้น จนสามารถนำไปใช้จริงกับกับโรงงานของเราได้ในที่สุด”

นอกจากนี้ มจธ. ยังได้ร่วมกับ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จํากัด ผ่านโครงการ Huawei ICT Academy ที่มีการลงนามความร่วมมือ ตั้งแต่ปี 2020 โดย หัวเว่ย ประเทศไทย จะสนับสนุนด้านองค์ความรู้ ด้าน AI และ IoT หรือ big data ต่าง ๆ ให้มหาวิทยาลัยนำไปใช้เป็นการเรียนการสอน เพื่อเพิ่มพูนทักษะด้านไอซีทีให้แก่นักศึกษา ผ่านคอร์สการเรียนการสอนแบบปฏิบัติงานจริง พร้อมมอบโอกาสการฝึกงานในสายอาชีพด้านนวัตกรรมการศึกษาเพื่อดิจิทัล เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรองรับตลาดงานในยุคดิจิทัล และนักศึกษายังมีโอกาสในการฝึกงานรวมไปถึงการเข้าทำงานกับบริษัทฯ รวมทั้งบริษัทพาร์ทเนอร์ของหัวเว่ยอีกด้วย

หลักสูตรวิศวกรรมระบบอัจฉริยะ (Intelligence Systems Engineering: ISE) เป็นหลักสูตรระดับปริญญาตรี 4 ปี ปัจจุบันมีนักศึกษาที่กำลังศึกษาในรุ่นที่ 1 แล้วกว่า 20 คน และกำลังเปิดรับสมัครนักศึกษาในรุ่นถัดไป สามารถติดตามข่าวสารของหลักสูตร ได้ที่ https://www.facebook.com/RCKMUTT

RANDOM

สนามฝรั่ง “ราชกรีฑาสโมสร” ระเบิดศึกใหญ่แข่งม้าเที่ยวชิงถ้วยพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว “คิงส์คัพ” ครั้งที่ 64 เป็นการคัมแบ๊กจัดชิงชัยครั้งแรกในรอบ 9 ปี ในวันอาทิตย์ที่ 10 ธ.ค.66 นี้

NEWS

สสส. ร่วมกับ สคล. เชิญชวนโรงเรียนประถมศึกษาเข้าร่วมกิจกรรม “มารู้จักเจ้าชายภูมิพลกันเถอะ” ดาวน์โหลดรายละเอียดกิจกรรมได้ที่เว็บไซต์ ‘โรงเรียนคำพ่อสอน.com’ พร้อมรับเกียรติบัตรจากทางโครงการฯ สมัครเข้าร่วมกิจกรรมได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ประกวดเขียนเรียงความภาษาอังกฤษ หัวข้อ “ASEAN-IPR Cybersecurity Youth Essay Competition” ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกจะได้เข้าร่วมการประชุม ASEAN-IPR Regional Conference on Cybersecurity และมีโอกาสนำเสนอเรียงความในที่ประชุมดังกล่าว สมัครด่วน หมดเขต 22 พ.ย. นี้

You cannot copy content of this page

error: Content is protected !!