จากการที่ศูนย์นวัตกรรมการพัฒนาทุนมนุษย์ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิตร่วมกับสภาสมาคมธรรมาภิบาลจัดโครงการอบรมหลักสูตร “หลักธรรมาภิบาลและนวัตกรรมการโค้ชสำหรับบุคลากรภรครัฐ” ให้กับผู้บริหารและบุคลากรภาครัฐระหว่างวันที่29-30 มิถุนายน 2566 นั้นม.ล.ปนัดดา ดิศกุล สมาชิกวุฒิสภาและอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการได้รับเชิญให้เป็นวิทยากรบรรยาย เรื่อง ศาสตร์พระราชากับการบริหารจัดการองค์กรภาครัฐ
ม.ล.ปนัดดา กล่าวว่า ผู้บริหารหรือคนในองค์กรภาครัฐ เป็นต้นทางสำคัญ สำหรับการพัฒนาสังคมและประเทศประกอบกับโลกในยุคของการเปลี่ยนแปลงและแข่งขันองค์กภาครัฐภายใต้ผู้บริหารและบุคลากร จึงเป็นผู้ที่มีความสำคัญยิ่งสำหรับการแสวงหาแนวทางหรือนวัตกรรมใหม่เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนา ที่น่าสนใจการบริหารจัดการในทุกมิติที่จะทำให้องค์กรก้าวทันการเปลี่ยนแปลงได้นั้นผู้บริหารจะต้องตระหนักและให้ความสำคัญกับการนำหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดีหรือศาสตร์พระราชามาที่เรียกว่า “หลักธรรมาภิบาล”
พร้อมกันนั้น ม.ล.ปนัดดา ยังสะท้อนให้เห็นว่าวันนี้สังคมไทยประสบปัญหาในหลากหลายมิติ นอกจากองค์กรภาครัฐแล้วสถานศึกษาก็เป็นหนึ่งในสถาบันทางสังคมที่มีบทบาทสำคัญยิ่งสำหรับการที่จะเข้าไปมีส่วนร่วมกับการขับเคลื่อนการพัฒนานักเรียน นักศึกษา และเหนือสิ่งอื่นใดนักเรียน นักศึกษาก็ถือได้ว่าเป็นทุนมนุษย์หรือทรัพยากรที่สำคัญในการรับผิดชอบบ้านเมืองในอนาคต โจทย์หรือคำถามจึงมีอยู่ว่าโลกในยุคดิจิทัลผู้บริหารและทุกภาคส่วนในองค์กรตลอดจนสถานศึกษาจะทำอย่างไรที่จะให้คนรุ่นใหม่โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน ตระหนักในความเป็นไทยรับผิดชอบชั่วดี รู้รักสามัคคี สร้างสรรค์ ยึดหลักสุจริตธรรม เลิกดูหมิ่น ไม่ใช้ใช้วาจาหยาบคาย ให้เกียรติแผ่นดินเกิดไม่กระโจนเข้าสู่วังวนของกระแสเฟคนิวส์ ประกอบกับเมือเร็วๆนี้ OEC ได้มีการสำรวจพบว่าเด็กวัย 15 ปี เป็นผู้ที่ถูกครอบงำง่ายมาก ต่อกรณีนี้จึงเป็นอีกหนึ่งในมิติที่ผู้ปกครอง และผู้บริหารสถานศึกษาไม่ควรจะมองข้าม
ในตอนท้ายม.ล.ปนัดดากล่าวฝากเป็นข้อคิดว่า “ถ้ารัฐมีอำนาจ มีความรับผิดชอบขับเคลื่อนการบริหารจัดการภายใต้หลักธรรมิบาลหรือมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่อย่างแท้จริงประเทศชาติก็จะเจริญก้าวหน้าสืบไป”