วิศวะ จุฬาฯ ระเบิดไอเดีย สร้างสรรค์นวัตกรรม “Smart Suit ชุดกันไฟไฮเทค” เซฟชีวิตเจ้าหน้าที่ดับไฟป่า คว้ารางวัลชนะเลิศเวทีระดับโลก MGA Award มาครองได้สำเร็จ

แชร์บทความ

Share on facebook
Share on twitter

นิสิตคณะวิศวฯ จุฬาฯ คว้ารางวัลชนะเลิศ MGA Award จาก ผลงานนวัตกรรมชุดกันไฟ Smart Suit ชูจุดเด่นการใช้เทคโนโลยี IoT เชื่อมต่ออุปกรณ์และสั่งการออนไลน์ เก็บข้อมูล ลดความเสี่ยง เพิ่มความปลอดภัยให้เจ้าหน้าที่ดับไฟป่าหน้างานแบบเรียลไทม์

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ประเทศไทยและหลายพื้นที่ทั่วโลกต้องเผชิญกับปัญหาไฟป่า ที่ปะทุขึ้นบ่อยครั้งและทวีความรุนแรงอย่างมีนัยยะสำคัญ สร้างความเสียหายร้ายแรงต่อสภาพแวดล้อมในวงกว้าง รวมถึงส่งผลกระทบต่อชีวิตและสุขภาพของมนุษย์และสัตว์เป็นจำนวนมาก

การควบคุมไฟป่าให้เร็วที่สุด จึงเป็นเรื่องสำคัญ แต่ก็เสี่ยงอันตรายอย่างยิ่ง แม้จะมีการใช้เครื่องบินโปรยสารควบคุมไฟ แต่การดับไฟป่า และอพยพผู้คนออกจากพื้นที่เสี่ยง ก็ยังคงต้องอาศัยบรรดาอาสาสมัครและเจ้าหน้าที่ที่ต้องฝ่าเปลวเพลิง เสี่ยงภัยอันตรายนานา ทั้งความร้อนและควันพิษที่เกิดจากเผาไหม้ ซึ่งล้วนเป็นอันตรายต่อสุขภาพ อาทิ คาร์บอนมอนอกไซด์ (carbon monoxide) ไนโตรเจนออกไซด์ (nitrogen oxides) สารประกอบอินทรีย์ชนิดระเหยง่าย (volatile organic compounds) ฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) และ อื่น ๆ

ปัญหาดังกล่าว จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้กลุ่มนิสิตชั้นปีที่ 4 จาก คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในชื่อทีม TAF ร่วมกันพัฒนานวัตกรรมชุดกันไฟ Smart Suit เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันการสร้างและพัฒนาชิ้นงานต้นแบบ โดยใช้ระยะเวลาสั้น ๆ ในระดับนานาชาติ “Rapid Prototype Development (RPD) Challenge – a multi GNSS Asia programme” ซึ่งในงานนี้มีทีมนิสิตนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยในภูมิภาคเอเชียเข้าร่วมกว่า 40 ทีม และ นวัตกรรมชุดกันไฟ Smart Suit ของ นิสิตวิศวฯ จุฬาฯ ได้รับรางวัลรางวัลชนะเลิศ (MGA Award)

นิธิ อจละนันท์ นิสิตภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า จุฬาฯ หนึ่งในสมาชิกทีม TAF เล่าว่า ชุดกันไฟ Smart Suit ที่พัฒนาขึ้นมานี้ เราได้แรงบันดาลใจมาจากการแก้ปัญหาไฟป่าในภาคเหนือของประเทศไทย รวมถึงภาวะวิกฤตการดับไฟป่าในหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งในหลาย ๆ ครั้ง ก่อให้เกิดการสูญเสียบุคลากร เจ้าหน้าที่ และ อาสาสมัครในการดับไฟป่าไปอย่างน่าสะเทือนใจ ซึ่งทางทีมหวังว่า ชุดกันไฟ Smart Suit จะเป็นนวัตกรรมที่ช่วยลดความเสี่ยง และการสูญเสียนักดับเพลิง และเป็นส่วนสำคัญในแก้ไขปัญหาไฟป่าต่อไปในอนาคต

ทีม TAF ประกอบด้วย หนุ่มสาวไฟแรง 5 คน จาก คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ ซึ่งนอกจาก นิธิ แล้ว ยังมี นฤดม หมี-อิ่ม นิสิตภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า นิชานันท์ ชุณห์เสรีชัย นิสิตภาควิชาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม ณฐพงศ์ อินทรสุข นิสิตภาควิชาวิศวกรรมสำรวจ และ อนุธิดา ฤทธิพันธ์ นิสิตภาควิชาวิศวกรรมสำรวจ ซึ่งพวกเขาทั้งหมดกำลังจะเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรในเดือนตุลาคมที่กำลังจะถึงนี้

Smart Suit นวัตกรรมชุดกันไฟ Hi-Technology
การดับไฟป่ามีความเสี่ยงสูงมาก ซึ่งหลายครั้งอาสาสมัครและเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าได้รับบาดเจ็บ หรือ กระทั่งเสียชีวิตระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ความสูญเสียดังกล่าวเกิดได้จากหลายสาเหตุ อาทิ การสื่อสารที่ผิดพลาด การถูกรบกวนของสัญญาณการทำงาน อุปกรณ์ป้องกันที่ไม่มีประสิทธิภาพ หรือ ระบบการจัดการไม่รัดกุมเพียงพอ

“ทีมของเรามีโอกาสไปสังเกตการณ์การปฏิบัติงานในพื้นที่จริง ที่ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ได้สัมภาษณ์และเก็บข้อมูลจากพี่ ๆ อาสาดับไฟป่า ซึ่งเราก็ได้พบปัญหาที่ค่อนข้างซีเรียส ทั้งเรื่องของการจัดการทีม และความปลอดภัย ชุดกันไฟ Smart Suit ของเราถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว” นิธิ กล่าว

ทีม TAF ออกแบบนวัตกรรมชุดกันไฟ Smart Suit โดยประยุกต์ใช้เทคโนโลยี IoT (Internet of Things) เครือข่ายรวมของอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อถึงกัน และเทคโนโลยีที่อำนวยความสะดวกในการสื่อสารระหว่างอุปกรณ์ กับ ระบบคลาวด์ และการสื่อสารระหว่างอุปกรณ์ด้วยกันเอง โดยใช้ชิปคอมพิวเตอร์และการสื่อสารโทรคมนาคมที่มีแบนด์วิดท์สูง ซึ่งทีมเลือกใช้บอร์ดคอมพิวเตอร์ Sony spresence board (บอร์ดคอมพิวเตอร์ สำหรับ IoT) และอุปกรณ์เซนเซอร์ต่าง ๆ ในการเชื่อมต่ออุปกรณ์และสั่งการออนไลน์ โดยติดตั้งอุปกรณ์เหล่านี้ไว้กับชุดกันไฟแบบดั้งเดิม

“เราติดตั้งอุปกรณ์ซึ่งใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย ติดตั้งง่าย และราคาไม่แพง ที่สำคัญ ชุดกันไฟ Smart Suit มีระบบแสดงข้อมูลและสร้างแผนที่แบบโต้ตอบ (interactive map) ได้แบบเรียลไทม์ โดยข้อมูลที่เก็บได้จากชุดกันไฟนี้ ถือเป็นข้อมูลเชิงพื้นที่ (spatial data) ซึ่งสามารถวัดค่าพารามิเตอร์ต่าง ๆ ได้ เช่น ค่าฝุ่น PM 2.5 ค่าคาร์บอนมอนอกไซด์ คาร์บอนไดออกไซด์ ความชื้นสัมพัทธ์ อุณหภูมิ ที่สามารถนำมาใช้บริหารสถานการณ์ได้อย่างแม่นยำ” นิธิ เล่าถึงประสิทธิภาพของชุดกันไฟ Smart Suit

จุดเด่นของนวัตกรรมชุดกันไฟ Smart Suit คือ ระบบแจ้งเตือนเพื่อความปลอดภัยในการทำงานให้กับเจ้าหน้าที่ดับไฟป่า
“สิ่งที่ทำให้ทางคณะกรรมการเทคะแนนให้ทีมเรามากที่สุด น่าจะเป็นเรื่องการตรวจวัดค่าความร้อน” นฤดม นิสิตภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า จุฬาฯ ตัวแทนของทีมกล่าว Smart Suit สามารถแจ้งเตือนค่าความร้อนในกรณีที่อุณหภูมิสูงเกินกำหนด หากเซนเซอร์พบว่า มีความร้อนสูง และอาจเป็นอันตรายต่อชีวิต ก็จะแจ้งเตือนทันที เพื่อป้องกันการเกิดโรคลมร้อน หรือ ฮีทสโตรก อีกอย่างหนึ่ง ก็คือ การแจ้งเตือนค่าคาร์บอนมอนอกไซด์ ซึ่งเป็นก๊าซพิษที่เกิดขึ้นจากการเผาไหม้ ซึ่งหากสูดดม หรือ ได้รับเข้าสู่ร่างกายเกินค่ามาตราฐาน จะทำให้เสียชีวิตทันที การแจ้งเตือนจะทำให้ผู้สวมใส่ ซึ่งอยู่ในสถานการณ์หน้างานรับทราบได้ทันท่วงที ก่อนที่จะเกิดความสูญเสีย

ด้วยระบบแสดงข้อมูล และสร้างแผนที่แบบเรียลไทม์ ชุดกันไฟ Smart Suit สามารถตรวจจับพิกัดที่อยู่ของเจ้าหน้าที่ และอาสาสมัครดับไฟป่าที่สวมอยู่ ช่วยให้เจ้าหน้าที่ และศูนย์ควบคุม สื่อสารข้อมูลถึงกันได้แบบเรียลไทม์ เพื่อรับมือและป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที โดยเฉพาะเมื่อเกิดสถานการณ์ เช่น ลมเปลี่ยนทิศ จึงช่วยให้การบริหารสถานการณ์ไฟป่า การอพยพเคลื่อนย้าย หรือ สั่งการเพื่อหลบแนวไฟป่าที่กำลังโหมลามอยู่มีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยง และ การสูญเสียในขณะปฏิบัติงาน

นฤดม เล่าต่อเกี่ยวกับการทำงานของระบบแจ้งเตือนของชุดกันไฟ Smart Suit ว่า ศูนย์ควบคุม หรือ control center สามารถมอนิเตอร์สถานการณ์ และข้อมูลต่าง ๆ ที่ถูกเก็บจากเซนเซอร์จากระยะไกลได้ โดยส่งผ่าน LoRa (การเชื่อมต่อไร้สายสำหรับ IoT) ซึ่งรวมไปถึงตำแหน่งของเจ้าหน้าที่ และ hotspot (จุดที่ดาวเทียมตรวจพบค่าความร้อนสูงผิดปกติจากค่าความร้อนบนผิวโลก) จากภาพถ่ายดาวเทียมที่ใช้สำหรับการตรวจวัดโลก สภาพอากาศ และนิยมนำมาใช้ติดตามไฟป่า อย่าง MODIS (Moderate Resolution Imaging Spectroradiometer) หรือ VIIRS (Visible Infrared Imaging Radiometer Suite) เพื่อส่งแจ้งเตือนให้กับเจ้าหน้าที่ และในกรณีที่ไฟป่าทวีความรุนแรง และลุกลาม ก็สามารถใช้ปุ่มเตือนภัยเพื่อแจ้งให้ชาวบ้านในพื้นที่ เจ้าหน้าที่ และอาสาดับไฟป่าให้อพยพเคลื่อนย้ายผ่านทาง EWS messages (Early warning system messages) ได้เช่นเดียวกัน

เปิดรับทุกความร่วมมือ ต่อยอดนวัตกรรมเพื่อผลิตใช้งานจริง
ปัจจุบัน นวัตกรรมชุดกันไฟ Smart Suit ที่เพิ่งคว้ารางวัลใหญ่ระดับโลกชิ้นนี้ ยังคงเป็นเพียงผลงานชิ้นต้นแบบเท่านั้น ซึ่งน้อง ๆ สมาชิกในทีม TAF แม้จะแยกย้ายกันไปเติบโตตามเส้นทางที่แต่ละคนเลือก แต่ก็ยังรู้สึกภาคภูมิใจและหมายมั่นว่า วันหนึ่ง นวัตกรรมต้นแบบชิ้นนี้ จะได้รับการพัฒนาไปสู่นวัตกรรมที่สามารถนำไปใช้งานได้จริง เพื่อจัดการกับสถานการณ์ไฟป่าที่กำลังเป็นปัญหา และรักษาชีวิตของอาสาสมัคร และเจ้าหน้าที่ดับไฟป่า ผู้เสียสละให้มีความปลอดภัยและทำงานได้สะดวกสบายขึ้น

“ชุดกันไฟ Smart Suit ที่เราพัฒนาขึ้น ยังเป็นเพียงต้นแบบ โดยที่เราเลือกใช้อุปกรณ์และเทคโนโลยีเท่าที่เราในฐานะนิสิตจะหาได้ และราคาไม่แพงมาใช้ ในอนาคตหากมีการต่อยอดนำไปผลิตเพื่อใช้งานจริงได้ ก็สามารถที่จะอัปเดตอุปกรณ์ หรือ ใช้เทคโนโลยีที่มีความทันสมัยกว่านี้ หรือ เพิ่มฟังก์ชันการใช้งานต่าง ๆ เพื่อประสิทธิภาพที่ดียิ่ง ๆ ขึ้นไปได้อีก” นฤดม กล่าวทิ้งท้าย

หน่วยงาน หรือ บริษัทใดสนใจนำต้นแบบ “นวัตกรรมชุดกันไฟ Smart Suit” ไปพัฒนาต่อเพื่อผลิตสำหรับใช้งานจริง ทางน้อง ๆ ทีม TAF ก็พร้อมและยินดีที่จะหารือ ถ่ายทอดองค์ความรู้ และร่วมมือพัฒนานวัตกรรม เพราะปัญหาไฟป่าเป็นวาระสำคัญและเร่งด่วน ทั้งในระดับประเทศและนานาชาติ ที่ยังรอคอยนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อใช้จัดการกับสถานการณ์อย่างมีประสิทธิภาพ
ผู้สนใจสามารถติดต่อกับสมาชิกทีมโดยตรง หรือ ติดต่อผ่าน คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โทร. 02-218-6309-10

 

 

 

RANDOM

NEWS

สสส. ร่วมกับ สคล. เชิญชวนโรงเรียนประถมศึกษาเข้าร่วมกิจกรรม “มารู้จักเจ้าชายภูมิพลกันเถอะ” ดาวน์โหลดรายละเอียดกิจกรรมได้ที่เว็บไซต์ ‘โรงเรียนคำพ่อสอน.com’ พร้อมรับเกียรติบัตรจากทางโครงการฯ สมัครเข้าร่วมกิจกรรมได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ประกวดเขียนเรียงความภาษาอังกฤษ หัวข้อ “ASEAN-IPR Cybersecurity Youth Essay Competition” ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกจะได้เข้าร่วมการประชุม ASEAN-IPR Regional Conference on Cybersecurity และมีโอกาสนำเสนอเรียงความในที่ประชุมดังกล่าว สมัครด่วน หมดเขต 22 พ.ย. นี้

You cannot copy content of this page

error: Content is protected !!