สจล. ชูธงนโยบายก้าวสู่ปีที่ 64 มุ่งหน้าเป็นมหาวิทยาลัยดิจิทัล หนุนการเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างยั่งยืน พลิกโฉมรับความต้องการของประเทศ

แชร์บทความ

Share on facebook
Share on twitter

เนื่องในโอกาสครบรอบวันคล้ายวันสถาปนาครบ 63 ปี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) 24 สิงหาคม 2566 สจล.จัดงานแถลงทิศทางนโยบายการดำเนินงานก้าวสู่ปีที่ 64 มุ่ง ‘เปลี่ยนผ่าน’ 3 ด้าน 1. KLLC & Global Innovation ส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต และสร้างนวัตกรรมระดับโลก 2. ก้าวเป็น Digital and Smart University และ 3. มุ่งเป็น Sustainable University มหาวิทยาลัยแห่งความยั่งยืน คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สร้างพื้นที่สีเขียว ตอกย้ำศักยภาพในเวทีระดับโลกด้วยเทคโนโลยีและดิจิทัล และการมุ่งสู่การเป็น ‘ผู้นำด้านนวัตกรรมระดับโลก’ พร้อมตั้งเป้า ในปี 2028 สจล. จะลด ‘ปริมาณคาร์บอน’ ลง ร้อยละ 50 มุ่งสู่เป้าหมาย ‘ความเป็นกลางทางคาร์บอน’ สำหรับประเทศไทย (Carbon Neutrality) ในปี 2050

รศ. ดร.คมสัน มาลีสี อธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) กล่าวว่า ในโอกาสที่ สจล. ครบรอบวันคล้ายวันสถาปนาครบ 63 ปี ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาได้แสดงให้เห็นว่า สจล. เป็นสถาบันการศึกษาที่เข้มแข็ง มุ่งเน้นการเรียนการสอนด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สร้างบุคลากรที่มีคุณภาพ และมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศด้านต่าง ๆ เช่น ภาคอุตสาหกรรม ภาคธุรกิจ ภาคการศึกษา การคมนาคม ขนส่ง เทคโนโลยี และ วิจัย ฯลฯ ปัจจุบัน สจล. มี 2 แคมปัส ได้แก่ สจล.ลาดกระบัง และ วิทยาเขตชุมพร ประกอบด้วย 11 คณะ 5 วิทยาลัย มีนักศึกษารวมกว่า 25,000 คน พร้อมด้วยห้องปฏิบัติการ-ศูนย์วิจัยกว่า 50 แห่ง ในการก้าวสู่ปีที่ 64 สจล. วางแนวนโยบายในการขับเคลื่อนสู่เป้าหมายด้วยการทำให้สถาบันของเรามีคุณภาพทั้งในด้านคุณภาพการศึกษา คุณภาพชีวิต และความยั่งยืน โดยกำหนดเป็นนโยบายการบริหารงานและพัฒนาสถาบันใน 3 ด้าน ได้แก่

1. ด้านส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต KLLC & Global Innovation การเรียนรู้ตลอดชีวิตและสร้างนวัตกรรมระดับโลก ทั้งด้านระบบการทำงาน คุณภาพชีวิต ต่อยอดเครือข่าย ส่งเสริมนวัตกรรม โดย สำนักการเรียนรู้ตลอดชีวิตพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง หรือ KLLC สร้างสรรค์พัฒนาทั้งระบบการทำงาน คุณภาพชีวิต ต่อยอดเครือข่าย ส่งเสริมนวัตกรรม และผลักดันด้าน ‘การเรียนรู้ตลอดชีวิต (Life-Long Learning)’ ด้วยหลักสูตรปกติ รวมทั้งกิจกรรมและหลักสูตร KLLC อีกกว่า 100 วิชา เพื่อเป็นแพลตฟอร์มการเรียนรู้ทั้งออนไลน์และออนไซต์ของคนไทยทุกช่วงวัย ได้แก่ วัยเด็ก ผ่าน Kids University โครงการมหาวิทยาลัยเด็กเล็ก , วัยเรียน วัยทำงาน ผ่านโครงการเรียนล่วงหน้าเก็บเครดิต และ หลักสูตรพัฒนาทักษะ Re-skills Up-Skills และ New- Skills และ โครงการบัณฑิตพันธุ์ใหม่ , วัยสูงอายุ ผ่านชมรมสายใย สจล. และ KMITL Elderly School โดยการส่งเสริมทักษะสำคัญมุ่งเน้นการคิดสร้างสรรค์ คิดแบบนวัตกรรม และจัดกิจกรรมส่งเสริม

และในโอกาสฉลองครบรอบ 63 ปี สจล. KLLC ยังได้จัดงานประกวด ‘KMITL Future Innovator 2023’ เป็นเวทีสำหรับนวัตกรและคนรุ่นใหม่ เพื่อเสริมสร้างทัพนวัตกรของไทยให้เข้มแข็ง ซึ่งมี 2 เวที คือ การประกวดนวัตกรรมนาโนเทคโนโลยีระดับประเทศ ครั้งที่ 11 ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และการประกวดแนวคิดนวัตกรรม (Pitching) สานพลังสร้างแรงบันดาลใจเยาวชนและคนรุ่นใหม่ โดยมีทีมจากทั่วประเทศเข้าแข่งขันคับคั่ง ทั้งระดับนักเรียน นักศึกษา และบุคคลทั่วไป นอกจากนี้ ในด้านนวัตกรรมและ สตาร์ทอัพ สจล. ไม่เพียงวิจัยพัฒนาและบ่มเพาะสตาร์ทอัพเท่านั้น แต่ยังผนึกความร่วมมือระดับนานาประเทศ และนำพาสตาร์ทอัพไทยไปเวทีโลก เพื่อเชื่อมต่อเครือข่ายและโอกาสในตลาดทั่วโลก อาทิ งาน Asia Berlin Summit ที่นครเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี , งาน Falling Walls Labs Thailand ที่เปิดรับนักศึกษา นักวิจัย คนทำงานรุ่นใหม่ เข้าร่วมประกวดไอเดีย เพื่อเป็นตัวแทนประเทศไทยไปแข่งขันที่ประเทศเยอรมนี ส่วนในต้นปี 2567 สจล.เตรียมนำสตาร์ทอัพไทยไปสหรัฐอเมริกาเพื่อขยายความสัมพันธ์ทางนวัตกรรมและเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ

2. ด้านการเป็น Digital and Smart University สจล.ได้เตรียมแผนยกระดับการบริหารจัดการและส่งเสริมการเรียนรู้ในยุคดิจิทัล ผ่าน สำนักบริหารข้อมูลดิจิทัล KDMC : KMITL Data Management Center สจล.จะเดินหน้ามุ่งสู่การเป็น Digital University เป็นมหาวิทยาลัยที่ใช้เทคโนโลยีเข้ามามีส่วนสำคัญในการเรียนการสอน และบริหารงาน ด้วยชุดข้อมูลพร้อมวิเคราะห์แนวโน้มความต้องการพัฒนาทักษะความรู้ เพื่อออกแบบหลักสูตรที่เหมาะกับประชากรคนรุ่นใหม่ของไทย ทั้งการคาดประมาณแนวโน้มคุณภาพประชากร การพัฒนาด้านการเรียนการสอน โดย สำนักบริหารข้อมูลดิจิทัล และ สำนักทะเบียนและประมวลผล ซึ่งเป็นศูนย์ข้อมูลกลาง สจล. ทำหน้าที่เก็บรวบรวมข้อมูลจากหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อนำไปวิเคราะห์และสร้างโมเดล AI เพื่อใช้ประโยชน์ในด้านต่าง ๆ อาทิ แอปพลิเคชัน KMITL UAPP สามารถลงทะเบียน เช็คตารางเรียน พัฒนาการเรียนออนไลน์ การวิเคราะห์ทักษะให้กับนักศึกษา Skills Mapping , Transcript รวมทั้งผลักดันหลักสูตรใหม่ ๆ และปรับปรุงหลักสูตรให้รองรับการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลก เพื่อผลิตบัณฑิตที่พร้อมทำงานได้จริง และตรงตามความต้องการเฉพาะในการพัฒนาทักษะความรู้ของผู้เรียนแต่ละคน (Personalized Curriculum) ซึ่งทาง สจล. ได้คำนึงถึงคุณภาพการศึกษาที่ต้องมีความสอดคล้องกับบริบท และความต้องการด้านบุคลากรของสังคมเป็นสำคัญ รองรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว

พร้อมทั้ง ดำเนินการขับเคลื่อนสู่การเป็น Smart University หรือ ‘มหาวิทยาลัยอัจฉริยะ’ รองรับอนาคต Digital Lifestyle ได้แก่ การพัฒนาระบบ E-Wallet x KMITL UApp เชื่อมโยงระบบการทำธุรกรรมดิจิทัลของธนาคารกับทุกกิจกรรมในรั้วมหาวิทยาลัยไว้ในที่เดียว , บริการระบบจองที่จอดรถอัจฉริยะ ตรวจหาที่จอดรถว่างผ่าน AI CCTV พร้อมจองที่จอดรถล่วงหน้า และ ชำระค่าจอดรถผ่านระบบ E-Wallet รวมถึงสามารถดูรถที่จอดทิ้งไว้ได้ตลอดเวลา ผ่านระบบ AI CCTV ในมหาวิทยาลัยได้ , บริการ Taxi Win เรียกรถแท็กซี่ และวินมอเตอร์ไซค์ ผู้ใช้งานสามารถสื่อสารกับคนขับด้วยการพิมพ์ หรือ โทรผ่านระบบ Voice Over IP (VOIP) มีระบบ Track พิกัดของผู้โดยสาร และรายงานประวัติการเรียกใช้บริการ พัฒนาระบบ AI CCTV เชื่อมโยงกล้องวงจรปิดอัจฉริยะ โดยสามารถดูภาพภายในและรอบ ๆ มหาวิทยาลัยผ่านกล้องวงจรปิด AI CCTV ได้ตลอด 24 ชั่วโมง สามารถตรวจจับใบหน้า เพื่อระบุคนแปลกหน้าและตัวตนคนที่เข้ามาภายในบริเวณมหาวิทยาลัย ตรวจจับความหนาแน่นในบริเวณพื้นที่ที่ AI CCTV เข้าถึง แจ้งเตือนคนหกล้ม และแจ้งเตือนเหตุการณ์ทะเลาะวิวาท , สร้าง KMCH Telemedicine เชื่อมโยง รพ.เจ้าคุณทหารลาดกระบัง บริการปรึกษาแพทย์ออนไลน์ผ่านการ แชท โทร หรือ วีดิโอคอล รองรับการเบิกจ่าย ในกรณีที่ สปสช. กำหนด สามารถรับยาที่ร้านขายยาใกล้บ้าน หรือ เลือกรับยาที่บ้านได้ด้วยการใช้บริการนำส่งยาผ่าน Taxi Win

3. ด้านความยั่งยืน Sustainable University มุ่งสู่การเป็นมหาวิทยาลัยที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สร้างพื้นที่สีเขียว และการพัฒนาอย่างยั่งยืน ท่ามกลางปัญหาสิ่งแวดล้อมที่รุนแรงมากขึ้น สจล.ได้ติดตั้งระบบ Solar Roof ขนาด 2 เมกะวัตต์ ที่ KLLC และ หอประชุมเจ้าพระยาสุรวงษ์ไวยวัฒน์ (วร บุนนาค) ทำให้สามารถประหยัดพลังงาน และลดคาร์บอนฟุตปริ้นท์ ทั้งนี้ สจล. มุ่งมั่นในการมีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาโลกร้อน พร้อมไปกับการพัฒนาเป็นมหาวิทยาลัยระดับโลกที่มีคุณภาพอย่างยั่งยืน (Sustainable University) และสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีแก่บุคลากร นักศึกษา และ สังคม โดยตั้งเป้าหมายในปี 2028 สจล. จะ ‘ลดปริมาณคาร์บอน’ ลงร้อยละ 50 และจะมุ่งสู่เป้าหมาย ‘ความเป็นกลางทางคาร์บอน’ สำหรับประเทศไทย (Carbon Neutrality) ภายในปี 2050 ภายใต้บริบทของสจล. ในการเป็น ‘ต้นแบบด้านวิจัยและพัฒนานวัตกรรมเพื่อก้าวสู่โลกอนาคต บนคุณภาพชีวิตที่ดี และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม’ และเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย สจล.จึงได้ประกาศ ‘นโยบายการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม พลังงาน และทรัพยากร เพื่อคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืน 9 ข้อ’ ของสถาบันแก่นักศึกษา บุคลากร นักวิจัย ตลอดจนผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ผู้มีส่วนร่วมลงมือดำเนินการจัดการ คุณภาพด้านสิ่งแวดล้อม พลังงาน และทรัพยากรของสถาบัน

ทั้งนี้ ทุกกิจกรรม ทุกโครงการเป็นนโยบายที่กำหนดตัวชี้วัดไว้ 9 ระดับ เรียกว่า KMITL Readiness Level กำหนดแนวทางขับเคลื่อนที่ชัดเจนในแต่ละช่วงเวลา เพื่อมุ่งไปสู่เป้าหมายการเป็น ‘ผู้นำนวัตกรรมระดับโลกภายในปี 2033’ เริ่มจากระดับบุคลากร หน่วยงานภายใน ให้ได้ตะหนักถึงความสำคัญของนวัตกรรม และเห็นภาพในอนาคต สนับสนุนให้นำองค์ความรู้มาสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างมีประสิทธิภาพ และนำนวัตกรรมต่าง ๆ มาใช้ให้เกิดประโยชน์กับองค์กร รวมทั้งผลักดันนวัตกรรมต่าง ๆ ไปใช้ในวงกว้าง ควบคู่ไปกับ คุณภาพของผลการดำเนินการ ทั้งบัณฑิตที่มีคุณภาพทำงานได้จริง งานวิจัยที่มีคุณภาพขับเคลื่อนและสร้างสรรค์ประโยชน์กับประเทศและสังคมโลก รวมไปถึงคุณภาพของชีวิตของบุคลากร นักศึกษา และสังคมที่ดีขึ้น มุ่งหวังสู่การเป็น The World Master of Innovation เพื่อเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนระดับโลก นอกจากนี้ สจล.จะรณรงค์การนำขยะพลาสติกสู่กระบวนการรีไซเคิล โดยเปิดตัว น้อง “เซอร์ครอค” (Cir Croc) ประติมากรรมในรูปลักษณ์จระเข้ 3R ให้เยาวชนและคนไทยร่วมใจกันลดใช้พลาสติก สนับสนุนการใช้วัสดุรีไซเคิล และช่วยกันรวบรวมขยะพลาสติกเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล

RANDOM

NEWS

สสส. ร่วมกับ สคล. เชิญชวนโรงเรียนประถมศึกษาเข้าร่วมกิจกรรม “มารู้จักเจ้าชายภูมิพลกันเถอะ” ดาวน์โหลดรายละเอียดกิจกรรมได้ที่เว็บไซต์ ‘โรงเรียนคำพ่อสอน.com’ พร้อมรับเกียรติบัตรจากทางโครงการฯ สมัครเข้าร่วมกิจกรรมได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ประกวดเขียนเรียงความภาษาอังกฤษ หัวข้อ “ASEAN-IPR Cybersecurity Youth Essay Competition” ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกจะได้เข้าร่วมการประชุม ASEAN-IPR Regional Conference on Cybersecurity และมีโอกาสนำเสนอเรียงความในที่ประชุมดังกล่าว สมัครด่วน หมดเขต 22 พ.ย. นี้

You cannot copy content of this page

error: Content is protected !!