รู้จัก…”คลังกลางพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ” สถานที่ศึกษาโบราณคดีแห่งใหม่ของประเทศ

แชร์บทความ

Share on facebook
Share on twitter

เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินมาเป็นองค์ประธานในพิธีเปิด “คลังกลางพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ” จังหวัดปทุมธานี 

ทั้งนี้ นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า การจัดสร้างอาคารคลังกลางพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติครั้งนี้ ซึ่งได้น้อมนำแนวพระราชดำริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ได้พระราชทานไว้ในหลายโอกาสเกี่ยวกับการจัดสร้างคลังพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ให้มีพื้นที่เพียงพอต่อปริมาณโบราณวัตถุที่เพิ่มมากขึ้นทุกปีจากการศึกษาขุดค้นทางโบราณคดี ให้จัดวางอย่างเป็นระบบ และจัดให้เป็นสถานที่ศึกษาโบราณวัตถุ หรือ Study Collection สำหรับนักศึกษา นักวิจัย ต่อไปในอนาคต

คลังกลางพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ  อยู่ในสังกัด ของ สำนักพิพิธภัณฑสถ่านแห่งชาติ กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม
โดยมีที่ตั้ง อยู่ภายในพื้นที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กาญจนาภิเษก ตำบลคลองห้า อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี
จัดสร้างขึ้น  เมื่อปี พ.ศ. 2559 – 2566 และพร้อมเปิดให้บริการ ในวันที่ 19 กันยายน 2566
.
.
ภารกิจหน้าที่
กรมศิลปากรจัดสร้างอาคารคลังกลางโบราณวัตถุหลังใหม่ เพื่อกำหนดหน้าที่ให้เป็นคลังกลางพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ดำเนินงานโดย กลุ่มทะเบียนโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุและสารสนเทศ สังกัด สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ โดยมีหน้าที่ดังต่อไปนี้
.
1. ศูนย์กลางรวบรวม จัดเก็บ และบริการด้านโบราณวัตถุของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติในสังกัดกรมศิลปากร ดูแลรักษาโบราณวัตถุให้อยู่ในสภาพปลอดภัย พร้อมให้บริการหมุนเวียนไปจัดแสดงในนิทรรศการถาวร หรือ นิทรรศการพิเศษในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติทั่วประเทศ ตลอดจนสนับสนุนโครงการความร่วมมือด้านการอนุรักษ์ และประชาสัมพันธ์คุณค่ามรดกศิลปวัฒนธรรมของกรมศิลปากร และประเทศไทย
2. เป็นต้นแบบมาตรฐานสากลการบริหารจัดการคลังพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ในการดูแลรักษาโบราณวัตถุให้มีความยั่งยืน และปลอดภัย
3. ให้บริการศึกษาค้นคว้าโบราณวัตถุฯ (Study Collection) จากฐานข้อมูลโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ทั้งที่คลังกลางพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ และทางแพลตฟอร์มออนไลน์ บริการภาพถ่ายโบราณวัตถุ และบริการการศึกษาชิ้นงานโบราณวัตถุในพื้นที่คลังกลางพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ แก่นักวิชาการ นักศึกษา และประชาชน ตามระเบียบวิธีการที่กรมศิลปากรกำหนด
4. เก็บรักษาโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ที่อยู่ระหว่างดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติโบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 (แก้ไขเพิ่มเติมฯ พ.ศ. 2535)  และ กฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
.
.
รูปแบบอาคาร 
อาคารคอนกรีตเสริมเหล็กขนาดใหญ่ มีพื้นที่ใช้สอย 30,000 ตารางเมตร ความสูง 4 ชั้น รูปทรงอาคารเป็นทรงไทยประยุกต์ นำเส้นสายฐานบัวในงานสถาปัตยกรรมไทยเข้ามาใช้เป็นกรอบด้านนอกของอาคาร เพื่อสร้างเอกลักษณ์ไทยด้วยวัสดุก่อสร้างสมัยใหม่ แต่ยังคงไว้ซึ่งการระบายอากาศที่ดี สามารถนำแสงธรรมชาติเข้ามาใช้ในอาคาร และเหมาะสมกับสถานที่ตั้งที่มีภูมิอากาศร้อนชื้น วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในอาคารเลือกใช้วัสดุประเภทเหล็ก คอนกรีต อลูมิเนียม และกระจก เป็นหลัก ไม่ใช้วัสดุประเภทไม้เพื่อลดโอกาสที่จะมีแมลงเข้ามาอยู่อาศัย ซึ่งอาจทำลายโบราณวัตถุที่จัดเก็บอยู่ภายใน
.
ห้องคลังโบราณวัตถุ
ปัจจุบันกรมศิลปากรดำเนินการเคลื่อนย้ายโบราณวัตถุจากอาคารคลังกลางพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเดิม และ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติทั่วประเทศ รวมจำนวน 113,849 รายการ เข้าเก็บรักษาตามประเภทวัสดุ ภายในอาคารคลังกลางพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติแห่งใหม่ รวมพื้นที่ใช้สอย 26,140  ตารางเมตร จำแนกห้องคลังตามประเภทวัสดุ รวม 10 ห้องคลัง ดังนี้
.
1. คลังโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ประเภทหินและปูนปั้น
ด้วยปัจจัยของขนาดและน้ำหนักของโบราณวัตถุประเภทหินและปูนปั้น ห้องคลังโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุประเภทหินและปูนปั้น จึงกำหนดไว้ที่ชั้น 1 รวมพื้นที่ 3,000 ตารางเมตร
.
2. คลังโบราณวัตถุฯ ประเภทดินเผาและแก้ว
วัสดุโบราณวัตถุดินเผาและแก้ว เป็นอนินทรีย์วัตถุที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก จึงจัดวางในห้องคลังบนชั้น 2 ฝั่งตะวันออก มีพื้นที่ 2,500 ตารางเมตร แยกเป็น 2 ห้องย่อย ประกอบด้วย ห้องคลังเครื่องปั้นดินเผา 1 จัดเก็บเครื่องปั้นดินเผาสมัยก่อนประวัติศาสตร์ ถึง สมัยแรกเริ่มประวัติศาสตร์ จัดวางเป็นกลุ่มตามแหล่งที่มา และกลุ่มวัตถุเอกลักษณ์พิเศษ ห้องคลังเครื่องปั้นดินเผา 2 จัดเก็บเครื่องปั้นดินเผาสมัยลพบุรี ถึง สมัยรัตนโกสินทร์
.
3. คลังโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ประเภทโลหะ
คลังโบราณวัตถุฯ ประเภทโลหะอยู่บนชั้น 2 ฝั่งตะวันตก มีพื้นที่ 4,100 ตารางเมตร แบ่งเก็บโบราณวัตถุตามหน้าที่ใช้สอบใน 3 ห้องย่อย ได้แก่
ห้องคลังโลหะ 1 ประกอบด้วย โบราณวัตถุเนื่องในพระพุทธศาสนา ได้แก่ พระพุทธรูป ศาสนสถานจำลอง รอยพระพุทธบาท พระศรีอารยเมตรัย พระสาวก พระพิมพ์ เป็นต้น
ห้องคลังโลหะ 2 ประกอบด้วย เครื่องมือเครื่องใช้ ได้แก่ อาวุธ เงินตรา วิทยุ โทรศัพท์ ภาชนะ กล้องส่องทางไกล กล้องถ่ายภาพยนตร์ กล้องถ่ายภาพ เครื่องพิมพ์ดีด เครื่องทำบัญชี เครื่องคิดเลข เครื่องบดยาสมุนไพร เป็นต้น
ห้องคลังโลหะ 3 ประกอบด้วย โบราณวัตถุเนื่องในศาสนาความเชื่ออื่น ๆ ได้แก่ เทวรูป พระโพธิสัตว์ เทพเจ้า แม่โพสพ แม่ซื้อ บุคคล รูปสัตว์ และ เครื่องดนตรี เป็นต้น
.
4. คลังโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ประเภทไม้
โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ประเภทไม้ จัดเก็บในห้องคลังชั้น 3 ขนาด 3,600 ตารางเมตร ซึ่งเป็นพื้นที่สำหรับโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ประเภทอินทรียวัตถุโดยเฉพาะ โดยแบ่งเป็น 2 ห้องย่อย คือ
ห้องคลังโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ไม้ 1 จัดเก็บงานประณีตศิลป์ แบ่งกลุ่มจัดวางตามหน้าที่ใช้งาน ได้แก่ เครื่องเรือน ชิ้นส่วนประดับสถาปัตยกรรม และ เครื่องมือเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน
ห้องคลังโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ไม้ 2 จัดเก็บศาสนวัตถุ แบ่งกลุ่มจัดวางตามหน้าที่ใช้สอย ได้แก่ รูปเคารพในศาสนา และเครื่องใช้ในพิธีกรรม
.
5. คลังโบราณวัตถุฯ ประเภทอินทรีย์วัตถุอื่น ๆ
โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ประเภทอินทรียวัตถุที่มีความอ่อนไหวสูงต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งอุณหภูมิ ความชื้น ความร้อน จัดเก็บตามประเภทในห้องคลังชั้น 3 พื้นที่รวม 3,000 ตารางเมตร แบ่งกลุ่มวัตถุออกเป็น 2 ห้องย่อย คือ ห้องคลังโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ประเภทผ้า กระดาษ กระดูก งา เขาสัตว์ และ ห้องคลังโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ประเภทหนังสัตว์
.
.
โบราณวัตถุ 
จำนวนโบราณวัตถุ 113,849 รายการ ที่จัดเก็บภายในคลังกลางพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ  มีที่มาจากการดำเนินงานปกป้องมรดกศิลปวัฒนธรรมของประเทศไทย ตั้งแต่ สมัยรัชกาลที่ 4 ถึง ปัจจุบัน ประกอบด้วย
1. โบราณวัตถุจากคลังพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเดิม ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
2. โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ จากการสำรวจขุดค้นทางโบราณคดี และขุดแต่งโบราณสถานของกรมศิลปากร
3. โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ จากการรับมอบ รับบริจาค และจัดซื้อจากหน่วยงาน และภาคประชาชน
4. โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ จากคดีลักลอบค้าโดยผิดกฎหมาย
5. โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ จากการดำเนินงานของคณะกรรมการติดตามโบราณวัตถุของไทยในต่างประเทศกลับคืนสู่ประเทศไทย
6. โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ นำส่งมาเก็บรักษาจากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติต่าง ๆ
.
การบริการคลังเพื่อการศึกษา Study Collection 
ปัจจุบันพิพิธภัณฑ์หลายแห่งทั่วโลก ได้พัฒนางานบริการทางวิชาการ โดยออกแบบและบริหารจัดการคลังพิพิธภัณฑ์ให้สามารถให้บริการในรูปแบบ “คลังเพื่อการศึกษา” แก่นักวิชาการ นักศึกษาที่สนใจศึกษาวัตถุพิพิธภัณฑ์โดยเฉพาะ ทั้งโดยการศึกษาวัตถุ และ สอบค้นจากฐานข้อมูลโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ บนแพลตฟอร์มออนไลน์
.
คลังกลางพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ จึงจัดการให้บริการศึกษาค้นคว้าโบราณวัตถุ เป็น 2 ระดับ ได้แก่ ระดับแรก คือ บริการการศึกษาค้นคว้าในห้องฐานข้อมูลโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ห้องสมุด และ แพลตฟอร์มออนไลน์ ซึ่งผู้ศึกษาสามารถเข้าใช้บริการได้ในพื้นที่บริการทั่วไป ระดับที่ 2 คือ การศึกษาโบราณวัตถุ ซึ่งต้องแจ้งขออนุญาตเข้าศึกษาในพื้นที่ชั้นใน โดยการดูแลของเจ้าหน้าที่
.
.
1. พื้นที่ให้บริการระดับแรก  
1.1 ห้องสมุดเฉพาะด้านโบราณคดี ประวัติศาสตร์ศิลปะ และ พิพิธภัณฑ์วิทยา
1.2 ห้องสืบค้นฐานข้อมูลโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ
ผู้ศึกษาสามารถเข้าใช้บริการคอมพิวเตอร์สอบค้นโบราณวัตถุ จากฐานข้อมูลโบราณวัตถุ   ศิลปวัตถุ โดยมีเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือในการค้นคว้าโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ทั้งที่อยู่ในคลังกลางพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ และ ประสานขอข้อมูลโบราณวัตถุที่เก็บรักษาในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติทั่วประเทศ ทั้งนี้ ผู้ศึกษายังสามารถเข้าศึกษาฐานข้อมูลโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ทางช่องทางแพลตฟอร์มออนไลน์  findantique.finearts.go.th
สำหรับผู้ใช้บริการแอปพลิเคชันสืบค้นทะเบียนโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ จะต้องลงทะเบียนสมัครเป็นสมาชิกทาง https://findantiue.finearts.go.th  กำหนดรหัสผ่านส่วนตัว และยืนยันรหัสผ่านส่วนตัวแล้ว จึงสามารถเข้าสืบค้นฐานข้อมูลทะเบียนโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ จากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติทั่วประเทศ
1.3 บริการสำเนาไฟล์ภาพถ่ายโบราณวัตถุ โดยมีค่าธรรมเนียมตามระเบียบกรมศิลปากร
คลังกลางพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ มีภาพถ่ายโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ จัดเก็บไว้จำนวนมากกว่าหนึ่งแสนรูป พร้อมให้บริการไฟล์ภาพถ่ายเพื่อใช้ในการศึกษาค้นคว้าได้ โดยผู้ศึกษาไม่ต้องถ่ายภาพโบราณวัตถุด้วยตนเอง ผู้สนใจสามารถยื่นคำร้องได้ที่ห้องสอบค้นฐานข้อมูลโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ หรือ สืบค้นด้วยตนเองทางช่องทางเว็บไซต์ findantique.finearts.go.th แล้วยื่นคำร้องขอสำเนาไฟล์ภาพถ่ายโบราณวัตถุทางไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ registraonm@gmail.com หรือ เว็บเพจ facebook.com/nationalmuseumstorage
.
2. พื้นที่ให้บริการระดับที่ 2
2.1 บริการศึกษาโบราณวัตถุ
คลังกลางพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ให้บริการศึกษาโบราณวัตถุแก่ผู้ยื่นคำร้องขอเข้าศึกษาโบราณวัตถุในพื้นที่ควบคุมชั้นใน  ตามขั้นตอนและระเบียบวิธีที่กรมศิลปากรกำหนด ดังนี้
– สืบค้นฐานข้อมูลโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และ เลือกรายการโบราณวัตถุที่ต้องการศึกษา
– กรอกคำร้องขอเข้าศึกษาโบราณวัตถุ โดยระบุรายละเอียดโบราณวัตถุ เช่น ชื่อโบราณวัตถุ เลขทะเบียน ชนิด จำนวน ให้ถูกต้องครบถ้วน แล้วยื่นคำร้องขอเข้าศึกษาโบราณวัตถุต่อผู้ช่วยภัณฑารักษ์
– เมื่อได้รับอนุญาต จะได้เข้าใช้บริการในห้องศึกษาโบราณวัตถุในพื้นที่ควบคุม โดยการอำนวยความสะดวกของผู้ช่วยภัณฑารักษ์
  – เมื่อศึกษาโบราณวัตถุเสร็จสิ้น ผู้ช่วยภัณฑารักษ์จะตรวจสอบสภาพโบราณวัตถุว่าไม่มีการทำลาย หรือ ทำให้โบราณวัตถุชำรุดเสื่อมสภาพ จากนั้นลงนามส่งคืนโบราณวัตถุกลับห้องคลังพิพิธภัณฑ์
กรณียื่นคำร้องผ่านช่องทางออนไลน์ จะได้รับการนัดหมายวันเวลาเข้าศึกษาโบราณวัตถุจากเจ้าหน้าที่
2.2 บริการศึกษา ดูงาน และการอบรมต่าง ๆ
องค์กร หรือ หน่วยงานที่สนใจศึกษาดูงานด้านการบริหารจัดการคลังพิพิธภัณฑ์ สามารถส่งหนังสือแจ้งขออนุญาตเข้าศึกษาดูงานล่วงหน้า ไม่น้อยกว่า 3 วัน เพื่อจัดเตรียมเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวก และข้อมูลที่จำเป็น ทั้งนี้ คลังกลางพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ยังให้บริการห้องประชุมขนาด 40 ที่นั่ง โดยมีขั้นตอนการขอใช้บริการ ดังนี้
– ส่งหนังสือ ถึง ผู้อำนวยการสำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ แจ้งขออนุญาตเข้าศึกษาดูงาน หรือ ขอใช้พื้นที่ฝึกอบรม โดยระบุชื่อหน่วยงาน หรือ โครงการที่จะอบรม วัน เวลา จำนวนผู้เข้าศึกษาดูงาน หรือ รายละเอียดการฝึกอบรม หมายเลขติดต่อ ตลอดจนความต้องการวิทยากร โดยขอให้แจ้งขออนุญาตล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 7 วัน
– กรณีขออนุญาตใช้พื้นที่จัดการฝึกอบรม จะมีค่าธรรมเนียมตามระเบียบกรมศิลปากรว่าด้วยการขออนุญาตใช้สถานที่ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พ.ศ. 2548
.
3. ระบบให้บริการคลังกลางพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเสมือนจริง  Virtual Smart Museum 
กรมศิลปากรออกแบบจัดทำสื่อ “คลังกลางพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเสมือนจริง” เพื่อให้ประชาชน นักเรียน นักศึกษาผู้สนใจได้ “สร้างประสบการณ์เสมือนจริง” เสมือนได้เข้ามาภายในพื้นที่ควบคุมของ คลังกลางพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ด้วยระบบ Virtual Reality คือ การจำลองสภาพแวดล้อมเสมือนจริงของห้องคลังโบราณวัตถุต่าง ๆ ผ่านซอฟต์แวร์และอุปกรณ์ ผู้ใช้สื่อสามารถรับรู้จากการมองเห็น การได้ยินผ่านจอคอมพิวเตอร์ หรือ อุปกรณ์แสดงผลสามมิติ นอกจากนี้ ยังนำเสนอภาพโบราณวัตถุชิ้นสำคัญแบบ 360 องศา ที่ผู้ชมสามารถขยายภาพชมรายละเอียดได้โดยสะดวก
.
.
4. ระบบให้บริการ FADiscovery
กรมศิลปากร ได้พัฒนาระบบนำชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ผ่านแอปพลิเคชัน FADiscovery โดยเชื่อมโยงความสนใจของผู้เข้าชมเข้ากับข้อมูลองค์ความรู้ ผ่านฐานข้อมูลองค์ความรู้ของ กรมศิลปากร ระบบ FADiscovery จะจัดเก็บข้อมูลความต้องการของผู้เข้าชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติผ่านกำไลข้อมืออัจฉริยะ (Wristband) หรือ แอปพลิเคชันผ่านโทรศัพท์มือถือ ระบบจะจดจำเส้นทาง บันทึกความชื่นชอบ ความสนใจในการเข้าชม แล้วแยกความสนใจออกเป็นประเภท เช่น  ห้องจัดแสดง โบราณวัตถุ แล้วประมวลผลในทันที เพื่อให้ได้ทราบความสนใจพิเศษ แล้วระบบจะส่งข้อมูลความรู้ที่สนใจกลับไปยังผู้เข้าชมทันทีแบบรายบุคคล (Individual Experience) เช่น ระบบประมวลผล พบว่า ผู้เข้าชมสนใจเรื่องประวัติศาสตร์ชาติไทย ระบบจะสืบค้นข้อมูลที่เกี่ยวข้องจากฐานข้อมูลกรมศิลปากร แล้วส่งข้อมูลกลับไปยังผู้เข้าชมคนนั้นทันที

RANDOM

You cannot copy content of this page

error: Content is protected !!