จุฬาฯ ชูธง ร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วย Soft Power ไทย ผ่านงานวิจัยและนวัตกรรม แนะ 2ท. หนุนพลังวัฒนธรรมให้แข็งแกร่ง

แชร์บทความ

Share on facebook
Share on twitter
อาจารย์ด้านการตลาด จุฬาฯ เผย จุดแข็งและจุดอ่อนที่ผู้ประกอบการไทยและภาคส่วนต่าง ๆ ควรเร่งปรับตัวเพื่อเศรษฐกิจไทยทะยานด้วย Soft Power พร้อมเผยความพร้อมของจุฬาฯ ในการผลักดันงานวิจัย​และนวัตกรรมทางสังคม​ สร้างผู้นำแห่งอนาคตร่วมขับเคลื่อน​ Soft​ Power​ ​ไทยสู่สังคมโลก​
.
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เอกก์ ภทรธนกุล
.
นาทีนี้ กระแสซอฟต์พาวเวอร์ไทย (Thai Soft Power) กำลังมาแรง ไม่ว่าจะเป็นกระแส “ลิซ่า วง BlackPink แต่งผ้าซิ่นไทยทัวร์วัดอยุธยา” ที่ทำให้ผ้าไทยโด่งดังไปทั่วโลก​ มียอดขายถล่มทลาย “ไอศกรีมลายกระเบื้องพระปรางค์​วัดอรุณฯ”​ ของหวานสุดครีเอทีฟ ที่นักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างประเทศแห่เดินทางมาลิ้มลอง “ฟีเวอร์กางเกงช้าง​” แฟชั่นยอดฮิตของนักท่องเที่ยวที่มาเมืองไทย​ ลามมาถึงคนไทยเองต้องซื้อหามาใส่ด้วย เพื่อให้ “อินเทรนด์”  และ ล่าสุด ซีรีส์เกาหลี “King the Land” ที่ฉายทาง​ Netflix มีฉากตัวละครเอกเดินทางมาเมืองไทย ไหว้พระที่วัดอรุณฯ นั่งเรือล่องแม่น้ำเจ้าพระยา นั่งตุ๊กตุ๊ก กินก๋วยจั๊บญวนเจ้าดัง และ น้ำแตงโมปั่น ฯลฯ จนเกิดเป็นทริปตามรอย​ซีรีส์ที่นักท่องเที่ยวต้องมาเช็กอิน
.
.
กระแสซอฟต์พาวเวอร์ไทย​เหล่านี้ ช่วยปลุกเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวไทยให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังจากที่ซบเซาในช่วงวิกฤตการระบาดของโรคโควิด-19 โดยในปี​ 2566 นี้​ การท่องเที่ยวเติบโตขึ้นถึง 80 % และคาดว่า​จะมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมากกว่า 30 ล้านคน เดินทางมาเที่ยวเมืองไทย
.
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เอกก์ ภทรธนกุล Chief Brand Officer จุฬาฯ และ หัวหน้าภาควิชาการตลาด คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี และ กรรมการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (CEA) องค์การมหาชน ซึ่งมีหน้าที่ดูแลเรื่องการขับเคลื่อน Soft Power ของประเทศไทย เผยจุดแข็งและจุดที่ผู้ประกอบการไทยและองค์กรต่าง ๆ ในไทย ควรเร่งปรับตัว เพื่อจุดกระแสซอฟต์พาวเวอร์ไทยให้แข็งแกร่งเพื่อเศรษฐกิจประเทศ
.
เข้าใจชอฟต์พาวเวอร์แบบไทย ๆ (Thai Soft Power)
.
เราอาจมองชอฟต์เพาเวอร์ไทยได้หลายมิติ ยกตัวอย่างการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่แบ่งชอฟท์เพาเวอร์ไทยเป็น 5F ได้แก่
Food -อาหาร
Festival – งานเทศกาล
Fighting – ศิลปะการต่อสู้
Fashion – ผ้าไทยและการออกแบบแฟชั่น
Film – ภาพยนตร์
ซึ่ง 5F ดังกล่าว เป็นกรอบเชิงรูปธรรม ที่ช่วยให้เราเห็นและเข้าใจซอฟต์พาวเวอร์แบบจับต้องได้ ว่ามีประเภท หรือ เกี่ยวกับเรื่องใดบ้าง
.
อย่างไรก็ดี ซอฟต์พาวเวอร์ไทยยังเป็นเรื่องของคุณสมบัติ หรือ คุณลักษณะด้วย ผศ.ดร.เอกก์ อ้างถึงการศึกษา “Soft Power แบบไทย” โดย Kellogg School of Management มหาวิทยาลัยนอร์ทเวสเทิร์น ได้ทำวิจัยกับผู้บริหารองค์กรทั่วโลก ราว 50 คน ที่เคยปฏิสัมพันธ์กับคนไทย และองค์กรไทย ผลการศึกษาได้เผยให้เห็นมุมมองของซอฟต์พาวเวอร์แบบไทย ๆ ว่ามีคุณลักษณะ 5 ประการ หรือ 5F ได้แก่ Fun , Flavoring , Fulfilling , Flexibility และ Friendliness
.
ซอฟต์พาวเวอร์แบบไทย ๆ ไม่ควรจะแข็ง ๆ หรือ อยู่ในกรอบที่ปรับเปลี่ยนไม่ได้ เพรา​ะคนไทยมีวัฒนธรรม หรือ มุมมองซอฟต์พาวเวอร์ ที่ผสมผสานได้ เอาชาตินั้นเข้ามานิด เอาชาตินี้เข้ามาหน่อย ยกตัวอย่างเช่น งานแห่ดาวต้นคริสต์มาส ของ ชุมชนบ้านท่าแร่ จังหวัดสกลนคร ซึ่งเป็นชุมชนชาวคริสต์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีการเริ่มทำดาว และประดับประดารถบุษบกใช้ในขบวนแห่ จนกลายเป็นประเพณีแห่ดาวที่จัดเป็นประจำทุกปี เป็นการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมไทยและวัฒนธรรมตะวันตกได้อย่างน่ารัก และได้รับการยอมรับ เพราะคนไทยมีความยืดหยุ่น และเป็นมิตรสูงมาก”
.
ผศ.ดร.เอกก์ กล่าวเสริมว่า “จริง ๆ แล้ว วัฒนธรรม หรือ ซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศอื่น ๆ ก็มีความสนุก และมีสีสันเช่นกัน แต่ประเทศไทย เรามี Flexibility ความยืดหยุ่น สบาย ๆ Friendliness ความเป็นมิตร ซึ่งทำให้เมื่อเอาไปปน หรือ ผสมผสานกับใคร ก็ไม่หาย”
.
.
สร้าง Soft Power ไทยให้แข็งแกร่ง
.
แม้ซอฟต์พาวเวอร์แบบไทย ๆ จะมีจุดแข็ง แต่การผลักดันแบรนด์ให้ทรงพลังยิ่งขึ้น ก็จำเป็นต้องมีโฟกัสที่ชัดเจน โดยเฉพาะในเรื่องของกลุ่มเป้าหมาย ทั้งในส่วนของลูกค้า และคู่ค้า
.
ข้อดีมาก ๆ ของซอฟต์พาวเวอร์ไทย คือ ‘ความหลากหลาย’ แต่หนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ยังไม่ค่อยประสบความสำเร็จมากนัก คือ การขาดความเข้าใจในกลุ่มเป้าหมาย เรามีความหลากหลายก็จริง แต่เราก็ไม่สามารถเอาทุกสิ่งที่ดี ๆ ส่งให้ทุกคนได้ กิจกรรมบางอย่างเหมาะกับความชอบ หรือ จริตของคนบางกลุ่มเท่านั้น ดังนั้น เมื่อกลุ่มเป้าหมายไม่ชัด ก็ทำให้ความหลากหลายนั้นมากเกินไป ภาพของซอฟต์พาวเวอร์ไทยจึงอาจเบลอได้ ผศ.ดร.เอกก์​ ชี้จุดอ่อนการผลักดัน Soft Power แบบไทย ๆ
.
นอกจากลูกค้ากลุ่มเป้าหมายแล้ว การหาคู่ค้าและช่องทางจำหน่าย และ การเผยแพร่ที่มีประสิทธิภาพ ก็มีส่วนผลักดัน Soft Power ไทยด้วย ผศ.ดร.เอกก์ ยกตัวอย่าง เวทีมวยสำคัญ ๆ ที่สามารถร่วมมือกับของไทย แล้วเอาวัฒนธรรมของไทยไปสร้างเป็นการแข่งขันระดับโลก หรือ การร่วมมือกับสื่อระดับโลก อย่าง Netflix นำเรื่องราวอาหารสตรีตฟู้ดของไทยที่โดดเด่น อย่าง เจ๊ไฝ ขึ้นฉายไปทั่วโลก
.
.
2 ท. หนุน Soft Power ไทยพุ่งทะยาน
ปัจจัยสำคัญ 2 เรื่อง ที่จะช่วยให้ Soft Power ไทยพุ่งทะยานต่อไปในอนาคต ได้แก่ ท.ทักษะ อาทิ ทักษะการพัฒนาและการผลิตสินค้าและบริการของคนไทย ไม่แพ้ใครอยู่แล้ว แต่ทักษะที่ต้องปรับและเรียนรู้ให้เก่งขึ้น คือ ทักษะทางการตลาดในเรื่องของการกระจายสินค้าและบริการ และ ทักษะการสร้างแบรนด์และทำภาพลักษณ์ที่โดดเด่น
.
ทั้งนี้ ผศ.ดร.เอกก์ ยกตัวอย่างแนวทางการทำการตลาดแบบซอฟต์ ๆ ว่าเราทำการตลาดได้ แต่ไม่จำเป็นต้องยัดเยียด โดยเลือกใช้วิธีการเนียน ๆ แบบน้ำซึมบ่อทราย ซึ่งต้องใช้เวลา อย่างเช่น แบรนด์ “มูจิ” (Muji) ของ ประเทศญี่ปุ่น เขาใช้ซอฟต์พาวเวอร์แทรกเข้าไปในวัฒนธรรมต่าง ๆ โดยที่ไม่เคยโฆษณาเลย และ ใช้วัฒนธรรมญี่ปุ่นในเรื่องของ Harmony ความกลมกลืน ความเป็นธรรมชาติ เข้าไปสอดแทรกในบ้านของคน เฟอร์นิเจอร์ เสื้อผ้าของคนที่ใส่ โดยไม่ได้บอกเลยว่า อันนี้ญี่ปุ่น นี่คือพลังซอฟต์พาวเวอร์แบบที่ไม่ต้องยัดเยียด เมืองไทยก็ทำได้เช่นเดียวกัน”
.
ท.ทรัพยากร งบประมาณ​ในการสร้างและเผยแพร่ Soft Power เป็นหนึ่งในปัจจัยที่จะทำให้พลังนี้เคลื่อนต่อไปได้ และสร้างพลังทางเศรษฐกิจให้ประเทศ เมื่อมาดูงบประมาณที่ใช้กับ Soft Power เทียบกับประเทศอื่น ๆ เช่น ​ประเทศเกาหลีใต้ แล้ว งบประมาณของเรายังน้อยกว่ามาก
.
“ระดับทรัพยากรที่ต่างกัน ก็สู้กันยากมากเหมือนกัน ในทางการตลาด​นั้น มี 3 อย่าง ที่ต้องคำนึงถึงเสมอ คือ เงิน เวลา และ แรงงาน (คน) ถ้าใช้เงินน้อย ก็ต้องใช้เวลามากขึ้น ถ้าใช้เวลาน้อย ก็จะต้องใช้แรงมาก มันไม่มีอะไรที่ใช้เงินน้อย เวลาน้อย แรงงานน้อย แล้วจะประสบความสำเร็จได้​” ผศ.ดร.เอกก์​ ให้ข้อคิด
.
.
จุฬาฯ ชูธง มหาวิทยาลัยขับเคลื่อน Soft power ไทย
.
ในฐานะสถาบันการศึกษาชั้นนำของประเทศ จุฬาฯ มีบทบาทในการพัฒนาคนที่จะเป็นผู้นำในการผลักดันและสร้างสรรค์ซอฟต์พาวเวอร์ไทย ผ่านหลักสูตรต่าง ๆ ในหลายคณะวิชา เช่น คณะศิลปกรรมศาสตร์ ครุศิลป์ (สาขาวิชาศิลปศึกษา คณะครุศาสตร์) คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ และ คณะอักษรศาสตร์ ฯลฯ ที่มีการศึกษาวิจัยและสร้างสรรค์นวัตกรรมที่เกี่ยวข้อง และใช้ Soft​ Power​ ในการขับเคลื่อนสังคม นอกจากนี้ จุฬาฯ ยังเปิดหลักสูตรเฉพาะ เพื่อสร้างฐานความรู้ด้าน Soft​ Power เช่น หลักสูตรปริญญาโท ด้านการจัดการวัฒนธรรม ของ บัณฑิตวิทยาลัย ที่เปิดมายาวนาน และมีการปรับปรุงหลักสูตรให้ทันสมัยอยู่เสมอ
.
ตัวอย่างองค์ความรู้ งานวิจัย และกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับ Soft Power ที่ชาวจุฬาฯ ได้ร่วมสร้างสรรค์สู่สาธารณะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องภาษา ศิลปวัฒนธรรม การท่องเที่ยว เศรษฐกิจธุรกิจ ได้แก่
.
– แอปพลิเคชันอินไซท์วัดโพธิ์ สำหรับการท่องเที่ยววัดโพธิ์ ของ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์
– โครงการลูกทุ่งสร้างสรรค์ผสานสมัย พลังศิลปวัฒนธรรมไทยสู่สากล ของ คณะนิเทศศาสตร์ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์
– คอร์สสอนภาษาไทยให้ชาวต่างชาติ ของ ศูนย์ภาษาไทย ในฐานะภาษาต่างประเทศ
– โครงการนวัตกรรมละครโทรทัศน์ เพื่อการส่งเสริมอุตสาหกรรมวัฒนธรรม 4.0 ของ ศูนย์พหุวัฒนธรรมศึกษาและนวัตกรรมทางสังคม สถาบันเอเชียศึกษา เพื่อร่วมส่งออกวัฒนธรรม Soft power ไทย ผ่านสื่อบันเทิง ได้แก่ ผัดไทย (วัฒนธรรมอาหาร) มวยไทย (ศิลปะการต่อสู้) ย่านลิเภา (แฟชั่นไทย) และ ผีตาโขน (เทศกาล) โดยการสนับสนุน จาก ศูนย์กลางนวัตกรรมทางสังคมแห่งจุฬาฯ และ สำนักข่าว ThaiPBS
– งานวิจัยโมเดลพัฒนาทุนวัฒนธรรมผ้าทอครบวงจร ตั้งแต่การสร้างนวัตกรรมเส้นใยสิ่งทอ และนำมาออกแบบผลิตภัณฑ์แฟชั่นไลฟ์สไตล์ เพื่อยกระดับแบรนด์ท้องถิ่นสู่สากล ส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ และพัฒนาการท่องเที่ยวสร้างสรรค์  หนุนชุมชนยั่งยืน
– โครงการ Chula Art Park ของ คณะศิลปกรรมศาสตร์ จัดขึ้นบริเวณสวนหลวงสแควร์ นอกจากจะเป็นการจัดวางศิลปกรรมและประติมากรรมแล้ว ยังมีการเปิดบทเพลงให้ผู้คนในละแวกนั้น ได้รู้สึกผ่อนคลาย สบายใจ เป็นการนำดนตรีบำบัด (music therapy) ซึ่งเป็น Soft power แบบหนึ่ง มาขับเคลื่อนความสุขในสังคม
– งานวิจัย Top Corporate Brand Success Valuation ของ ภาควิชาการตลาด คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี ซึ่งทำต่อเนื่องเป็นปีที่ 13 แล้ว เพื่อช่วยขับเคลื่อนการพัฒนาแบรนด์ขององค์กรไทย และ องค์กรใน ASEAN ฯลฯ
.
.
นอกจากนี้ ชาวจุฬาฯ ทั้งคณาจารย์ และนิสิตเก่าจุฬาฯ จำนวนมากก็เข้าไปมีบทบาทสำคัญใน คณะกรรมการสำนักงานเศรษฐกิจสร้างสรรค์ และช่วยขับเคลื่อนผลักดันเศรษฐกิจสร้างสรรค์ และซอฟต์พาวเวอร์ในเชิงนโยบายอีกด้วย
.
“นี่คือสิ่งที่จุฬาฯ ทำมาตลอด เพื่อร่วมขับเคลื่อนพลังซอฟต์พาวเวอร์ไทย เราสร้าง Future leaders for Soft Power และ จะยังคงทำต่อไป เพื่อสร้างเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน” ผศ.ดร.เอกก์ กล่าวทิ้งท้าย

RANDOM

รับสมัคร “ทุนอายิโนะโมะโต๊ะ เพื่อผู้เรียนดี มีศักยภาพเป็นเลิศ” (Ajinomoto Talent Scholarship 2024) ประจำปีการศึกษา 2567 รวม 113 ทุน ใน 10 มหาวิทยาลัย สำหรับนักศึกษาด้านวิทยาศาสตร์ และวิศวกรรมศาสตร์ สมัครได้ตั้งแต่บัดนี้ – 22 มกราคม 2568

NEWS

สสส. ร่วมกับ สคล. เชิญชวนโรงเรียนประถมศึกษาเข้าร่วมกิจกรรม “มารู้จักเจ้าชายภูมิพลกันเถอะ” ดาวน์โหลดรายละเอียดกิจกรรมได้ที่เว็บไซต์ ‘โรงเรียนคำพ่อสอน.com’ พร้อมรับเกียรติบัตรจากทางโครงการฯ สมัครเข้าร่วมกิจกรรมได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ประกวดเขียนเรียงความภาษาอังกฤษ หัวข้อ “ASEAN-IPR Cybersecurity Youth Essay Competition” ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกจะได้เข้าร่วมการประชุม ASEAN-IPR Regional Conference on Cybersecurity และมีโอกาสนำเสนอเรียงความในที่ประชุมดังกล่าว สมัครด่วน หมดเขต 22 พ.ย. นี้

You cannot copy content of this page

error: Content is protected !!