นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติให้ยกเลิกระเบียบราชการ เมื่อปี 2542 ที่กำหนดให้สถานที่ราชการทุกแห่งต้องจัดให้มีเวรรักษาการณ์ เพื่อดูแลและป้องกันความเสียหายอันจะบังเกิดแก่สถานที่ราชการ โดยการยกเลิกระเบียบดังกล่าว มีส่วนเกี่ยวข้องกับสถานศึกษาและหน่วยงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ซึ่งจากนี้ไปสถานศึกษาจะไม่มีการเข้าเวรของครูอีกต่อไปแล้ว โดยการทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยในสถานศึกษาให้อยู่ในความรับผิดชอบของฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ทำแทน ทั้งนี้ จะมอบหมายให้ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ไปจัดทำแนวปฎิบัติตามมติยกเลิกให้ครูอยู่เวรโรงเรียนให้รับทราบต่อไป เพื่อสร้างความปลอดภัยให้แก่ครูทุกคนจากบุคคลภายนอกที่เข้ามาในสถานศึกษาด้วยความมุ่งร้าย ทั้งนี้ เมื่อครูไม่ต้องมาเข้าเวรโรงเรียนแล้ว ก็ขอให้อย่าละเลยการจัดระเบียบดูแลเรื่องการเรียนการสอนของนักเรียนให้มีคุณภาพด้วย
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้เห็นชอบหลักการที่ กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้จัดทำคำขออนุมัติคืนอัตรานักการภารโรงกว่า 14,000 ตำแหน่ง เพื่อให้ทุกโรงเรียนมีนักการภารโรงประจำ ซึ่งจะช่วยทำหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยให้แก่โรงเรียนได้อีกแรงหนึ่ง โดยเบื้องต้นที่ประชุมได้ให้กลับไปศึกษาวิเคราะห์อีกครั้งว่าจำนวนนักการภารโรงที่ขาดแคลนจริงมีตัวเลขอยู่จำนวนเท่าไหร่ และจากนั้นให้เสนอกลับมาให้ที่ประชุม ครม. พิจารณาอีกครั้งในสัปดาห์หน้า โดยเบื้องต้นจะใช้งบประมาณในการคืนอัตรานักการภารโรง ประมาณ 500 กว่าล้าน
ขอบคุณข้อมูลจาก สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์