ตามนโยบาย พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ “เรียนดีมีความสุข” สู่การศึกษาเพื่อความเป็นเลิศ และการศึกษาเพื่อความมั่นคงของชีวิต “มีรายได้ระหว่างเรียน (Learn to Earn) จบแล้วมีงานทำ 100%” โดยมุ่งเน้นการเรียนรู้จากการปฏิบัติจริง Active Learning สอดคล้องการผลิตกำลังคนอาชีวศึกษาสมรรถนะสูง พร้อมเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ
พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า กระทรวงศึกษาธิการ ให้ความสำคัญด้านความร่วมมือกับภาคเอกชน ดึงบริษัทชั้นนำด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ ทั้ง 3 แห่ง ของประเทศ คือ นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด นายอารักษ์ พรประภา ประธาน บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด และ นายพงศธร เอื้อมงคลชัย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ลงนามความร่วมมือกับ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ในการสนับสนุนและส่งเสริมการจัดการอาชีวศึกษาระบบปกติ และระบบทวิภาคี เพื่อผลิตและพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษาสมรรถนะสูง ให้มีความพร้อมเมื่อสำเร็จการศึกษา มีทักษะฝีมือตรงความต้องการของภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งบริษัททั้ง 3 แห่งนั้น ได้ดำเนินความร่วมมือกับ สอศ. แล้ว และในวันนี้เป็นยกระดับความร่วมมือให้มีความเข้มแข็งอย่างเข้มข้นและตรงตามเป้าหมายร่วมกัน จึงถือเป็นกลไกสำคัญในการส่งเสริมด้านการศึกษาให้แก่ผู้เรียนอาชีวศึกษา มีโอกาสได้ฝึกปฏิบัติในสถานประกอบการจริง ด้วยเทคโนโลยี ครุภัณฑ์ที่ทันสมัย เช่น เทคโนโลยี EV Hybrid เป็นต้น โดยมีบุคลากรที่มีความรู้และความเชี่ยวชาญในสายงาน เข้ามามีส่วนร่วมในการผลิตกำลังคนอาชีวศึกษาที่มีคุณภาพ และร่วมกันพัฒนาหลักสูตรให้มีทักษะสมรรถนะสูงตามสายอาชีพ และตรงตามความต้องการของตลาดแรงงาน
ภายหลังจากการฝึกอาชีพและผ่านการทดสอบมาตรฐานฝีมือ “นักเรียน นักศึกษาจะได้รับความรู้ มีทักษะ ประสบการณ์ ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ สิ่งสำคัญ นักเรียน นักศึกษา จะได้ใบรับรอง (Certificate) ที่ผ่านการทดสอบมาตรฐานฝีมือของบริษัท เพื่อเป็นใบเบิกทางในการทำงานทั้งในประเทศและต่างประเทศ เป็นการเตรียมความพร้อมในการพัฒนากำลังคน สู่การเป็นพลโลกที่ทันสมัย” ด้วยการดำเนินงานตามหลักแนวคิดการขับเคลื่อนของทุกภาคส่วน “จับมือไว้ แล้วไปด้วยกัน” และนำพาให้การจัดการอาชีวศึกษาบรรลุสู่เป้าหมายแห่งความสำเร็จได้ในอนาคต เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศให้ก้าวต่อไปสู่ความยั่งยืน
ด้าน นายยศพล เวณุโกเศศ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนและส่งเสริมการจัดการอาชีวศึกษาระบบปกติ และระบบทวิภาคี ในภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ ทั้งในเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ ซึ่งการจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี (Dual Vocational Education – DVE) เป็นการจัดการศึกษาวิชาชีพที่เกิดจากข้อตกลงระหว่างสถานศึกษากับสถานประกอบการ รวมถึงการร่วมกันจัดหลักสูตรการเรียนการสอนให้สอดคล้องกัน มีการวัดและการประเมินผล และเน้นการมีส่วนร่วมในการพัฒนาทักษะวิชาชีพ เพื่อสร้างเสริมความชำนาญในสายอาชีพ โดยมีนักเรียน นักศึกษาในสาขาวิชาเทคนิคเครื่องกล สาขางานเทคนิคยานยนต์ สาขาวิชาช่างยนต์ และสาขาวิชาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้มีโอกาสในการฝึกปฏิบัติในสถานประกอบการจริง รวมถึง Re-skill Up-skill และ New-skill ครูและบุคลากรทางการศึกษาให้มีทักษะขีดความสามารถในสาขาวิชาชีพเพิ่มขึ้น ความร่วมมือร่วมกับสถานประกอบการหรือหน่วยงาน จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งเพื่อพัฒนาผู้เรียนอาชีวศึกษาให้มีความชำนาญในสายอาชีพ จบแล้วสามารถทำงานได้อย่างมีคุณภาพ พร้อมเป็นกำลังคนอาชีวศึกษาสมรรถนะสูง ตอบโจทย์การพัฒนาประเทศ