สปอว. ร่วมมือ ม.ศรีปทุม และ สถาบันอุดมศึกษา 18 แห่ง เร่งขยายผลหลักสูตรพัฒนาบุคลากรตามแนวทาง CWIE+EEC Model Type A เน้นสหกิจศึกษา มุ่งผลิตบัณฑิตที่มีศักยภาพและสมรรถนะสูง สามารถปฏิบัติงานได้จริง ตอบสนองความต้องการของตลาดงาน

แชร์บทความ

Share on facebook
Share on twitter

ผศ.ดร.อัจฉราพร โชติพกฤษ์ ผู้ช่วยอธิการบดีด้านวิชาการ มหาวิทยาลัยศรีปทุม เป็นผู้แทนอธิการบดี ร่วมพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือทางวิชาการ (MOU) โครงการเร่งรัดและขยายผลการจัดหลักสูตรพัฒนาบุคลากรตามแนวทาง CWIE+EEC Model Type A (CWIE+EEC Model Type A Master Class) ในสถาบันอุดมศึกษา ประจำปีงบประมาณ 2567 โดยมี นายเพิ่มสุข สัจจาภิวัฒน์ ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เป็นประธานในการลงนาม พร้อมร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจความร่วมมือ ระหว่าง สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กับ สถาบันอุดมศึกษา 18 แห่ง โดยมี ดร.อภิชาต ทองอยู่ ประธานคณะทำงานประสานงานด้านการพัฒนาบุคลากรในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก นายสมบัติ รุ่งรัศมี ผู้อำนวยการกองยกระดับคุณภาพการจัดการศึกษาระดับอุดมศึกษา สำนักงานปลัดกระทรวง อว. คณะกรรมการบริหารโครงการฯ คณะทำงานดำเนินงานโครงการฯ ผู้บริหารสถาบันอุดมศึกษาและผู้สนใจ เข้าร่วมงาน ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารพระจอมเกล้า สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ถนนโยธี) กรุงเทพมหานคร เมื่อเร็ว ๆ นี้

นายเพิ่มสุข สัจจาภิวัฒน์ ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กล่าวว่า สำนักงานปลัดกระทรวง อว. มีพันธกิจสำคัญในการพัฒนากำลังคนให้มีความพร้อมทั้งองค์ความรู้ทางวิชาการ และทักษะในการดำรงชีวิต รวมถึงทักษะวิชาชีพที่มุ่งเน้นสมรรถนะ และทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 เพื่อสร้างทางเลือก สร้างโอกาส สนับสนุนเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงของประเทศ ตลอดจนขับเคลื่อนผลักดันงานตามนโยบายยุทธศาสตร์ชาติ เพื่อรองรับอุตสาหกรรมแห่งอนาคต สถาบันอุดมศึกษาจึงมีบทบาทสำคัญยิ่งต่อการพัฒนาประเทศ เพราะเป็นแหล่งผลิตและพัฒนากำลังคนคุณภาพสู่ตลาดแรงงาน อย่างไรก็ตาม สถาบันอุดมศึกษาไม่สามารถดำเนินภารกิจดังกล่าว เพื่อตอบโจทย์ประเทศในสภาวะการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีในปัจจุบันได้เพียงลำพัง จึงต้องร่วมมือกับทุกภาคส่วนในการร่วมกันกำหนดทักษะของบัณฑิตที่ตรงกับความต้องการ

นายเพิ่มสุข กล่าวต่อว่า สถาบันอุดมศึกษาต้องจัดคนและเร่งพัฒนาหลักสูตรที่ตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้บัณฑิต โดย สำนักงานปลัดกระทรวง อว. จะเป็นตัวกลางในการประสานจับคู่ความร่วมมือ ระหว่างความต้องการของภาคเอกชน และสถานประกอบการ กับ การพัฒนากำลังคนของภาคการศึกษา เพื่อให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติการอุดมศึกษา พ.ศ. 2562 มาตรา 35 ซึ่งระบุว่า สถาบันอุดมศึกษาพึงสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคอุตสาหกรรม เพื่อสนับสนุนการจัดการเรียนการสอนของสถาบันอุดมศึกษา เพื่อให้ผู้เรียนได้เรียนรู้โดยการปฏิบัติงานจริง และพัฒนาความรู้ ทักษะสมรรรถนะ และคุณลักษณะอื่นให้สอดดคล้องกับความต้องการของประเทศ ดังนั้น สถาบันอุดมศึกษาจึงควรมีหลักสูตรที่มีความร่วมมือกับสถานประกอบการ เพื่อให้นักศึกษาได้มีโอกาสเรียนรู้จากการปฏิบัติงานจริง อันเป็นแนวทางการจัดการศึกษาแบบเน้นประสบการณ์ (Experiential Learning) ซึ่งจะเป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนาทักษะและความพร้อมของผู้สำเร็จการศึกษาให้สามารถประยุกต์ใช้องค์ความรู้จากห้องเรียนเข้ากับบริบทของการทำงานจริง ซึ่งถือเป็นแนวทางจัดการศึกษาระดับอุดมศึกษาแบบใหม่ ทันต่อการเปลี่ยนแปลงและความต้องการจากตลาดแรงงาน ตอบโจทย์การพัฒนาประเทศอย่างเร่งด่วน พร้อมให้ผู้เรียนสามารถเรียนและทำงานไปพร้อมกันได้ สอดคล้องกับนโยบาย “เรียนดี มีความสุข มีรายได้” ของ นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รมว.อว. โดย สำนักงานปลัดกระทรวง อว. ส่งเสริมการจัดการศึกษาในรูปแบบสหกิจศึกษา และการศึกษาเชิงบูรณาการกับการทำงาน หรือ CWIE ซึ่งสอดคล้องกับการจัดการศึกษาของ EEC ในรูปแบบ EEC Model Type A โดยการจัดการศึกษา ทั้ง 2 รูปแบบ เป็นไปในแนวทางเดียวกัน คือ การมุ่งผลิตบัณฑิตที่มีศักยภาพและสมรรถนะสูง สามารถปฏิบัติงานได้จริง ตอบสนองความต้องการของตลาดแรงงาน โดยเฉพาะสถานประกอบการในเขตพื้นที่ EEC ที่เป็นพื้นพื้นที่การลงทุนขนาดใหญ่ที่สำคัญของรัฐบาล และมีความต้องการกำลังคนระดับอุดมศึกษาในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายจำนวนมาก เพื่อพัฒนาขีดความสามารถด้านการแข่งขันของประเทศ

“การลงนามในบันทึกความเข้าใจความร่วมมือทางวิชาการในครั้งนี้ จึงเป็นทั้งสัญลักษณ์และพันธะสัญญา (Commitment) ของความร่วมมือระหว่างภาครัฐ และภาคเอกชน ที่จะร่วมกันผนึกกำลัง ผลักดัน และช่วยกันส่งเสริมการศึกษาในรูปแบบ Demand Driven Education เพื่อให้เกิดการขยายผลไปในวงกว้าง และกระจายไปยังทุกกลุ่มสถาบันอุดมศึกษา รวมทั้งขยายภาคีความร่วมมือไปยังภาครัฐ ภาคเอกชน และสถานประกอบการอื่น ๆ ทั้งภายในพื้นที่เขต EEC และพื้นที่ต่าง ๆ ทุกภูมิภาคทั่วประเทศ” ปลัดกระทรวง อว. กล่าว

RANDOM

“อบจ.ภูเก็ต” หนุนจัดงานมหกรรมศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวเอกลักษณ์ไทย สู่นานาชาติ ครั้งที่ 6 และการไหว้ครูมวยไทยโลก ระหว่างวันที่ 10-17 มี.ค.นี้ มีนักกีฬา 1,200 คน จาก 50 ประเทศ เข้าร่วม

NEWS

สสส. ร่วมกับ สคล. เชิญชวนโรงเรียนประถมศึกษาเข้าร่วมกิจกรรม “มารู้จักเจ้าชายภูมิพลกันเถอะ” ดาวน์โหลดรายละเอียดกิจกรรมได้ที่เว็บไซต์ ‘โรงเรียนคำพ่อสอน.com’ พร้อมรับเกียรติบัตรจากทางโครงการฯ สมัครเข้าร่วมกิจกรรมได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ประกวดเขียนเรียงความภาษาอังกฤษ หัวข้อ “ASEAN-IPR Cybersecurity Youth Essay Competition” ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกจะได้เข้าร่วมการประชุม ASEAN-IPR Regional Conference on Cybersecurity และมีโอกาสนำเสนอเรียงความในที่ประชุมดังกล่าว สมัครด่วน หมดเขต 22 พ.ย. นี้

You cannot copy content of this page

error: Content is protected !!