จากความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนเยาวชนไทยในการพัฒนาทักษะและประสบการณ์ในสายอาชีพ เพื่อให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในโลกยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว นอกจากที่ มูลนิธิเอสซีจี ให้การสนับสนุนเรื่องทุนการศึกษาแล้ว ยังสนับสนุนการแข่งขันฝีมือแรงงานมาอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดสนับสนุนการแข่งขันฝีมือแรงงานระดับนานาชาติ WorldSkills Lyon 2024 ณ เมืองลียง สาธารณรัฐฝรั่งเศส และเป็นที่น่ายินดีที่เยาวชนที่เข้าร่วมแข่งขันในครั้งนี้ สามารถคว้าเหรียญรางวัลกลับมาได้ ซึ่งวันนี้เป็นโอกาสดีที่ได้พูดคุยกับน้อง ๆ ทั้ง 3 คน ซึ่งจะมาเล่าถึงประสบการณ์ครั้งสำคัญของชีวิตที่ได้รับจากการแข่งขัน
.
.
นางสาวอริยพร ลิ้มกมลทิพย์ หรือ น้องแก้ม พยาบาลวิชาชีพ จาก โรงพยาบาลรามาธิบดี ผู้เข้าแข่งขันในสาขาการดูแลผู้สูงอายุและผู้ป่วย (Health and Social Care) สามารถคว้ารางวัลเหรียญทอง (Gold Medal) เหรียญเดียวของไทยในปีนี้ และ รางวัล Best of Nation หลังจากทำคะแนนรวมได้สูงที่สุด น้องแก้ม เล่าว่า จุดที่ทำให้ได้รับรางวัล เชื่อว่าเป็นเพราะได้ลงมือทำอย่างเต็มที่กับทุกโจทย์ที่ได้รับมา แม้ว่าบางโจทย์ไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน แต่ก็พยายามทำออกมาให้ดีที่สุด รวมถึงการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารในการแข่งขันด้วย ซึ่งพยาบาลเป็นวิชาชีพที่ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในหลาย ๆ กรณี ต้องมีการเรียนรู้ที่ไม่สิ้นสุด การเป็นพยาบาลไม่ได้เพียงแค่เรียนจบหลักสูตรเท่านั้น แต่ต้องปฏิบัติตามมาตรฐานโลกในการขับเคลื่อนวิชาชีพ การเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา ไม่แค่จะทำให้อยู่รอดได้ แต่ยังช่วยให้ดำรงอยู่ในอาชีพนี้ได้เป็นอย่างดีด้วย ดังนั้น จึงต้องพัฒนาตัวเองตลอดเวลา ต้องก้าวตามโลกให้ทัน สำหรับโอกาสที่ได้เป็นตัวแทนประเทศไทยไปแข่งขัน World Skill นอกเหนือจากเหรียญรางวัลที่ได้รับแล้ว ยังได้รับประสบการณ์ที่ดีมากมาย ได้พบเพื่อนร่วมอาชีพจากประเทศต่าง ๆ ที่กลายเป็นคอนเน็คชันใหม่ต่อไป แก้ม มีความเชื่อว่า ไม่ควรนำตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น แต่ควรเปรียบเทียบกับตัวเองดีกว่า เราจะมองเห็นได้ชัดเจนว่า มีการพัฒนาตัวเองมากน้อยแค่ไหน สำหรับแผนชีวิตในอนาคต ตอนนี้เรียนจบแล้ว และได้รับทุนเรียนต่อในสายงานพยาบาล จาก คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล เมื่อใกล้ถึงเวลาจะตัดสินใจอีกครั้งว่าจะเลือกไปเรียนต่อที่ไหน
.
.
ด้าน นางสาวกนกวรรณ อินทะ หรือ น้องเพลง นักศึกษาชั้นปี 3 สาขาการโรงแรม วิทยาลัยอาชีวศึกษาชลบุรี ผู้เข้าแข่งขันสาขาบริการอาหารและเครื่องดื่ม เจ้าของรางวัลเหรียญฝีมือยอดเยี่ยม กล่าวว่า ที่ตัดสินใจเรียนสาขาการโรงแรม เพราะเชื่อมั่นว่างานสายโรงแรมจะยังไปได้ดี เพราะประเทศไทยเป็นเมืองท่องเที่ยว มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาจำนวนมาก นอกจากนี้ ยังมีความมั่นคง รายได้ดี มีเงินค่าตอบแทน และสวัสดิการอื่น ๆ และต่อยอดไปทำงานสายงานอื่นได้ง่าย สำหรับโอกาสที่ได้ไปแข่งขัน World Skill ในครั้งนี้ น้องเพลง เล่าว่า ถือเป็นเวทีการแข่งขันครั้งแรก และไม่คิดมาก่อนว่าจะผ่านเข้ามาได้ถึงระดับนี้ ไม่ได้กดดันตัวเอง ทำให้ไม่มีความเครียดหรือกังวลมากนัก ช่วงเวลาที่ไปแข่งขันก็รับฟังคำชี้แนะจาก Expert ที่เป็นพี่เลี้ยง ที่สอนให้หูไว ตาไว และตามให้ทันคนอื่นด้วย ต้องทำความเข้าใจกับสิ่งที่เรียนรู้มานั้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิด Learn to Earn เหมาะกับโลกยุคปัจจุบัน ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ ทำให้คนรุ่นใหม่เป็นคนที่เรียนรู้ตลอดเวลา ส่วนประสบการณ์ที่ได้รับจากการแข่งขัน คือ ได้ความรู้ใหม่ ได้เพื่อนใหม่ ได้คอนเน็คชันที่จะเอื้อต่อการทำงานต่อไปในอนาคต ซึ่งน้องเพลงตั้งใจไว้ว่า เมื่อเรียนจบก็จะทำงานสายโรงแรมตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ นอกจากนี้ ยังได้ฝากถึงคนรุ่นใหม่ว่า “การประสบความสำเร็จไม่ใช่สิ่งที่ได้มาง่าย ๆ ทุกอย่างที่ได้มามีราคาต้องจ่ายหมด ไม่ว่าจะด้วยความเหนื่อยล้า ความอดทน เสียสละ จ่ายแล้วก็ต้องทุ่มเทกับสิ่งที่อยากได้ เราจะภูมิใจเมื่อถึงวันที่เราทุ่มไปสุดตัว แล้วมองย้อนกลับมาดูเบื้องหลังหรือที่มาของความสำเร็จของเราที่ได้รับมา”
.
.
ทางด้าน นายธนกร ช่วงรัตนาวรรณ หรือ น้องกร นักศึกษาชั้นปี 2 วิทยาลัยดุสิตธานี ผู้เข้าแข่งขันสาขาการประกอบอาหาร ได้รับรางวัลเหรียญความทุ่มเทเสียสละ จาก กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กล่าวว่า แรงบันดาลใจมาจากการที่เป็นคนชอบทำอาหารและขนมมาตั้งแต่เด็ก จึงตัดสินใจเลือกเรียนในสิ่งที่ใช่ เพื่อจะได้ทำในสิ่งที่ชอบ นอกจากค้นหาตัวตนและความชอบได้เร็วแล้ว น้องกร ยังโชคดีที่ครอบครัวเข้าใจและให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ ทุกครั้งที่ทำอาหารและเกิดปัญหา ทำให้ได้รับประสบการณ์ใหม่ ๆ เสมอ เพราะการได้เรียนรู้จากปัญหา จะทำให้เราเก่งขึ้น เป็นประสบการณ์และเป็นครูที่ดี ที่จะนำไปใช้พัฒนาต่อในชีวิตประจำวันได้ และเป็นแรงผลักดันให้ก้าวขึ้นไปอยู่ในจุดที่สูงที่สุดได้ ซึ่งการได้ไปร่วมแข่ง World Skill ในครั้งนี้ ก็เป็นการเปิดโลกทัศน์ ได้รู้ว่าโลกไปถึงไหน ตัวเองควรพัฒนาและปรับปรุงอย่างไร เป็นประสบการณ์ที่ดี มีโอกาสได้เรียนรู้จากสิ่งที่ต้องการรู้จริง ๆ ที่ในตำราไม่มีสอน นอกจากนี้ ยังได้เพื่อนใหม่ ได้คอนเน็คชันใหม่ ๆ ที่อนาคตอาจจะได้มีโอกาสทำงานร่วมกัน ถือเป็นประสบการณ์ที่หาที่ไหนไม่ได้ และในอนาคตเมื่อเรียนจบแล้ว ก็จะทำงานในสายงานนี้ เก็บประสบการณ์และพัฒนาฝีมือไปจนถึงจุดอิ่มตัว ก็จะไปเปิดร้านเป็นของตนเอง
.
มูลนิธิเอสซีจี พร้อมสร้างโอกาสและแสวงหาเวทีให้เด็กและเยาวชนไทย ให้ได้มีพื้นที่ในการแสดงศักยภาพ ไม่ว่าจะเป็นทักษะเชิง Hard Skill หรือ Soft Skill ด้วยการส่งเสริมให้เกิดการสั่งสมความรู้ ทักษะ และประสบการณ์ตามแนวคิด LEARN TO EARN เรียนรู้ เพื่ออยู่รอด เพื่อนำมาพัฒนาทักษะของตนเองให้ดียิ่งขึ้ นำไปต่อยอดสู่ความเป็นเลิศในสายวิชาชีพต่อไป