บพท. หนุน ม.ฟาฏอนี พัฒนา “AHSAN Trustmark” มาตรฐานใหม่รับรองสินค้า นำร่องธุรกิจฮิญาบ เพิ่มรายได้ 61%

แชร์บทความ

Share on facebook
Share on twitter

AHSAN Trustmark (อาห์ซานทรัสมาร์ค) “มาตรฐานรับรองผลิตภัณฑ์” จากงานวิจัยโดย มหาวิทยาลัยฟาฏอนี ร่วมกับ กรอบการวิจัย “การพัฒนาขีดความสามารถของผู้ประกอบการในพื้นที่ (Local Enterprises) บนฐานทรัพยากรพื้นถิ่น เพื่อสร้างเศรษฐกิจฐานรากและเศรษฐกิจหมุนเวียนในพื้นที่” ที่ได้รับการสนับสนุนจาก หน่วยบริหารและจัดการทุนวิจัยด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) ภายใต้การกำกับดูแลของ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม พัฒนากุญแจดอกสำคัญ “เครื่องมือช่วยสื่อสารและนำเสนอสินค้า” เปิดโลกธุรกิจชุมชนให้กว้างขึ้น เจาะตลาดผู้บริโภคทั้งชาวมุสลิม ผู้บริโภคทั่วไป ตลอดจนคู่ค้าในกลุ่มประเทศอาหรับ ทั้งนี้ การรับรองมาตรฐาน AHSAN Trustmark ไม่ได้เกิดจากการกำหนดโดยหน่วยงานรัฐ แต่เกิดขึ้นมาจากการรวมกลุ่มที่เข้มแข็งของผู้ประกอบการ (Bottom-Up) ฮิญาบ ในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ เพื่อสร้างงาน สร้างรายได้ ให้กับคนในพื้นที่อย่างยั่งยืน

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.มัฮซูม สะตีแม จาก มหาวิทยาลัยฟาฏอนี เปิดเผยว่า มาตรฐานการรับรอง AHSAN Trustmark เกิดขึ้นจากการที่คณะวิจัยได้มีโอกาสขับเคลื่อนงานวิจัยเชิงพาณิชย์ ตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นมา และในโครงการอาห์ซานทรัสมาร์ค : ฮิญาบและวิถีอาชีพ ภายใต้กรอบการวิจัย Local Enterprises ของ บพท. ทำให้เกิดนวัตกรรม AHSAN Trustmark ซึ่งเป็นมาตรฐานรับรองผลิตภัณฑ์ ที่ผสานคุณค่าและความศรัทธาขั้นสูงสุดตามหลักพื้นฐานของศาสนาอิสลาม และชาวมุสลิมทั่วโลกเข้าใจความหมายของ AHSAN ดีว่าหมายถึง “สิ่งที่ดีที่สุด” เป็นการประกอบธุรกิจในวิถีมุสลิมที่ถูกต้องตามมาตรฐานสากล โดยไม่ขัดต่อระบบสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม เป็นการประกอบอาชีพ/ธุรกิจเพื่อสร้างรายได้หรือกำไรด้วยความมุ่งมั่นพยายาม และทำอย่างดีที่สุด เพื่อพัฒนาสินค้าที่มีคุณภาพและจริงใจต่อผู้บริโภค ซึ่งสอดคล้องและสามารถบูรณาการได้อย่างลงตัว กับ หลักการดำเนินธุรกิจชุมชนด้วยคุณค่า 5 ประการ (5L- Localism) ที่ได้เรียนรู้จาก “คน-ของ-ตลาด โมเดล” ของ บพท. ซึ่งเป็นกลไกสร้างคุณค่าและความยั่งยืนให้ธุรกิจชุมชนเกื้อกูล

ดังนั้น สินค้าที่ได้การรับรองจากมาตรฐาน AHSAN Trustmark จึงบ่งบอกถึงคุณภาพสินค้าและคุณค่าทางจิตใจและความศรัทธา โดยสินค้าจะต้องมาจากผู้ประกอบการที่มีหลักในการดำเนินธุรกิจชุมชน หรือ 5L ได้แก่ 1. Local Wisdom and Culture ในการดำเนินธุรกิจ จะต้องไม่ขัดกับหลักการศาสนาและวัฒนธรรมที่ดีงาม มีการสืบสานและต่อยอดภูมิปัญญาท้องถิ่น 2. Local Employment and Resources ยกระดับผู้ผลิตต้นน้ำ ให้มีการสร้าง/จ้างงานคนในพื้นถิ่น มีการใช้ทรัพยากรหรือวัตถุดิบในพื้นถิ่น หรือ แปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่า และมุ่งเน้นในเรื่องของ 3. Local Community & Network สร้างเครือข่ายชุมชน หรือ เครือข่ายธุรกิจชุมชน รวมกลุ่มเพื่อแลกเปลี่ยนแบ่งปันองค์ความรู้ เทคนิค วัตถุดิบ โอกาสหรือ ตลาดรองรับสินค้า ทั้งยังทำให้เกิด 4. Local Economy โดยทำให้ห่วงโซ่คุณค่าของธุรกิจชุมชนยาวขึ้น ชุมชนมีส่วนร่วมในกระบวนการผลิตมากขึ้น และสามารถเติบโตไปด้วยกัน และ 5. Local Support การคืนกำไรกลับสู่สังคม เมื่อธุรกิจสามารถดำเนินไปจนกระทั่งมีกำไรสุทธิ ร้อยละ 2.5 หรือที่เรียกว่า “ซะกาต” เพื่อดูแลและแบ่งปันให้กับบุคคล 8 กลุ่ม ตามหลักการของศาสนาอิสลาม ทั้งนี้ ผู้ประกอบการท้องถิ่นมักจะนำซะกาตไปช่วยเหลือผู้ยากไร้ ขัดสน หากมีการจัดระบบซะกาตที่มีประสิทธิภาพ จะสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตคนได้อีกมากมาย จากกระบวนการวิจัยดังกล่าว นับเป็นการพัฒนาความเข้มแข็งในระบบซะกาตของประเทศไทยต่อไปด้วย

นอกจากนั้น การรับรองมาตรฐาน AHSAN Trustmark ยังมีเงื่อนไขว่า ผู้ประกอบการควรนำกำไรไม่ต่ำกว่าร้อยละ 1 ไปบริจาคเพื่อสาธารณะกุศล หรือ ที่เรียกว่า วากัฟ ซึ่งเป็นการให้โดยสมัครใจ บ่งบอกถึงการเสียสละเพื่อส่วนรวม ขอย้ำว่า มาตรฐาน AHSAN Trustmark ไม่ได้พัฒนาขึ้นเพื่อผู้ประกอบการธุรกิจชาวมุสลิมเท่านั้น แต่เปิดโอกาสให้กับผู้ประกอบการธุรกิจทั่วไป ทั้งภายในประเทศไทยและต่างประเทศ ที่ต้องการจะส่งออกสินค้าให้กับผู้บริโภคชาวมุสลิม สามารถเข้ามามีส่วนร่วมในการขอรับรองมาตรฐานดังกล่าวได้ด้วย โดยยึดหลักธุรกิจชุมชน 5L- Localism ส่วนในเงื่อนไขการสนับสนุนชุมชน Local Support ผู้ประกอบการที่ไม่ใช่มุสลิม สามารถนำหลักฐาน/ใบเสร็จการนำกำไรของธุรกิจไปบริจาค หรือ ให้คืนกลับสู่สังคมมาแสดงในการขอรับรองมาตรฐานได้เช่นกัน

เจตนารมณ์แท้จริง คือต้องการให้ AHSAN Trustmark เป็นมาตรฐานรับรองทุกธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับหลักคิด Localism ทั่วประเทศไทย ดังนั้น การรับรองมาตรฐานสามารถยืดหยุ่นได้ในหลายระดับ เพียงแต่ใจความสำคัญ คือ ทุกธุรกิจควรมีการเกื้อกูลชุมชน เศรษฐกิจฐานราก เปิดโอกาสให้ผู้บริโภคสามารถเข้ามามีส่วนร่วมในการขยับเศรษฐกิจฐานรากด้วย นี่คือ คุณค่าที่เราใช้ในการสื่อสารกับผู้บริโภคหรือตลาดเกี่ยวกับสินค้าที่ได้รับรองมาตรฐานนี้”

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.มัฮซูม กล่าวเพิ่มเติมว่า ปีที่ผ่านมา ได้มีการนำร่องจำหน่ายสินค้าที่ได้รับรองมาตรฐาน AHSAN Trustmark ในประเภทเสื้อผ้า ฮิญาบมุสลิม สืบเนื่องจากการทำงานวิจัย ร่วมกับ กรอบการวิจัย Local Enterprises ของ บพท. ในปีแรก (2565) ได้ทำให้เกิดการรวมกลุ่มของผู้ประกอบการธุรกิจฮิญาบท้องถิ่นกว่า 10 ราย พร้อมทั้งสร้างความเข้มแข็งของเครือข่ายผู้ประกอบการที่เป็นทีมเวิร์ค สามารถแลกเปลี่ยน แบ่งปัน และมีส่วนร่วมกัน ทั้งการพัฒนาความรู้ เทคนิค วัตถุดิบการผลิต การเงิน การบริหาร และจับคู่ทางธุรกิจ การลดต้นทุน และตลาดผู้บริโภค ทำให้อัตราการเติบโตของยอดจำหน่ายรวมกันอยู่ที่ 48 ล้านบาท จากเดิมที่ต่างคนต่างทำ เพื่อหากำไรและแข่งขันกันเองภายในพื้นที่ ดังนั้น ในปีที่ 2 (2567) ของการวิจัย จึงใช้ ธุรกิจฮิญาบ เป็นสินค้านำร่อง ร่วมกับสินค้าอื่น ๆ โดยยอดจำหน่ายสินค้าที่ได้รับรองมาตรฐาน AHSAN Trustmark ของผู้ประกอบการ 15 ราย มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น ร้อยละ 61

“มาตรฐาน AHSAN Trustmark จึงเป็นคานงัดที่ทรงพลัง ในการทำให้ผู้ประกอบการธุรกิจชุมชนที่เข้ามาร่วมเรียนรู้และพัฒนาไปพร้อมกับ ม.ฟาฏอนี และ บพท. มีความเข้มแข็งและสามารถก้าวต่อได้ด้วยตัวพวกเขาเองอย่างยั่งยืน หรือที่เรามักพูดว่า “ปล่อยมือได้” เพราะนักวิจัยไม่สามารถอยู่กับผู้ประกอบการได้ตลอดไป แต่อย่างน้อยเราก็ได้มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากในพื้นที่สามจังหวัดภาคใต้ ให้เข้มแข็งขึ้นบ้างแล้ว”

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.มัฮซูม กล่าวทิ้งท้ายว่า ปัจจุบันได้เกิด สถาบันมาตรฐาน AHSAN Trustmark โดยตั้งอยู่ในพื้นที่อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา และยังเปิดศูนย์นวัตกรรม AHSAN Trustmark เพื่อสร้างอาชีพนักศึกษาและชุมชน มหาวิทยาลัยฟาฏอนี ซึ่งมีวิทยากรผู้เชี่ยวชาญคอยทำหน้าที่เป็นผู้ฝึกฝนทักษะอาชีพต่าง ๆ ให้ผู้สนใจ โดยในปีนี้ มีการนำร่องด้วยธุรกิจฮิญาบ

สำหรับผู้ประกอบการธุรกิจที่สนใจยื่นขอการรับรองมาตรฐาน AHSAN Trustmark ในเบื้องต้น สินค้าและผลิตภัณฑ์ของท่านจะต้องผ่านการรับรองคุณภาพการผลิตขั้นพื้นฐานจาก กรมทรัพย์สินทางปัญญา ก่อน ตามมาตรฐานการผลิตสินค้าประเภทต่าง ๆ อาทิ การรับรองจากมาตรฐานอาหารและยา (อย.), มาตรฐานฮาลาล โดยเฉพาะสินค้าประเภทอาหาร ผู้สนใจสามารถเข้าไปแสดงความประสงค์ได้ที่ เว็บไซต์ AHSAN Trustmark จากนั้นจะมีกระบวนการตรวจเยี่ยมสถานประกอบการ และตรวจสอบคุณสมบัติตามมาตรฐาน 5L-Localism ที่กล่าวไว้ข้างต้น โดยกระบวนการทั้งหมดใช้เวลาไม่นาน และมีค่าธรรมเนียมการรับรองมาตรฐาน 1,500 บาท ต่อประเภทสินค้า มีอายุการรับรองมาตรฐาน AHSAN Trustmark 1 ปี ซึ่งล่าสุด สถาบันมาตรฐาน AHSAN Trustmark สามารถให้การรับรองมาตรฐานให้แก่สินค้าได้ถึง 9 ประเภท ผู้สนใจสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.ahsan-trustmark.org

RANDOM

3 ประสาน กกท.-กองทุน และสมาคมกีฬาที่เกี่ยวข้อง วางงานเตรียมนักกีฬาสู่โอลิมปิกเกมส์ยาวเหยียด เพื่อเป็นเส้นทางให้นักกีฬาไทยและบุคลากรทางการกีฬาของแต่ละสมาคม “เดินหน้า” ไม่มีสะดุดทั้งการเงินและแผนการเตรียมความพร้อมลุยศึกแห่งความหวัง

เปิดตัวแล้ว “ส.ว.กีฬา” ชุดใหม่ พิศูจน์ รัตนวงศ์ รั้งเก้าอี้ประธานคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยวและการกีฬา วุฒิสภา ขณะที่ ธัชชญาณ์ณัช นั่งรองเบอร์ 1 ส่วน “จำลอง อนันตสุข” นั่งรอง 4 ควบโฆษกกรรมาธิการ

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ใช้คำสั่งของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.ยึดคืนการบริหารจัดการในมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ โดยมีผลใช้บังคับแล้วหลังประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วเมื่อ 21 ก.พ.2566

You cannot copy content of this page

error: Content is protected !!