จากกรณีที่การประชุมคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย หรือ บอร์ด กกท. มีมติเห็นชอบต่อวาระที่ 2  ให้กับ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ในการดำรงตำแหน่งผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 23 ก.พ. ที่ผ่านมา นั้น ที่มีเสียงท้วงติงจากผู้ที่จับตามองเรื่องการเร่งดำเนินการ ก่อนหมดวาระแรก ถึง 8 เดือน และมุมมองอื่น ๆ

ล่าสุด นายศิริศักดิ์ อ่อนละมัย อดีตประธานกรรมาธิการการกีฬา สภาผู้แทนราษฎร หรือที่เรียกกันว่า  ส.ส.กีฬา ได้มองถึงเรื่องนี้ว่า ตนเองติดใจเรื่องกระบวนการที่จะได้มาซึ่ง ผู้ว่าการ กกท.อย่างมาก และ อยากให้ บอร์ด กกท. ทบทวนหน่อย เพราะการตั้งแบบนี้โดยอำนาจบอร์ดมันง่าย แต่จะไม่มีความสง่างาม ทั้งผู้ให้และผู้รับ ในบอร์ด กกท. มีคนหลากหลายที่เป็นกรรมการน่าจะติดใจตรงนี้บ้าง ไม่ใช่อะไรก็ได้ เราควรยอมรับในเบื้องต้นว่า คนเก่งมีมาก ไม่ใช่ว่ามีแค่คนเดียวก่อน กระบวนการมันต้องมีการสรรหา เพื่อเปิดโอกาสให้คนมาสมัครเข้าสู่ขั้นตอนการพิจารณาคัดสรร ซึ่งเมื่อผลการพิจารณาทั้งหมดออกมาแล้ว ด้วยมุมมองที่เชื่อว่า กรรมการมีดีพอที่จะคัดเลือก และจะได้ใคร หรือ จะเป็นคนเดิมก็ได้ คงไม่มีใครขัด แต่นั่นจะเป็นเกียรติเป็นศักดิ์ศรีต่อทั้ง บอร์ด กกท. และผู้ที่ได้เป็น ผู้ว่าการ กกท. คนใหม่ ก็สง่างาม

การเปิดโอกาสให้คนเก่าและคนใหม่ สมัครเข้าสู่กระบวนการคัดสรรนั้น คนเก่าก็จะได้แจ้งการทำงานที่ผ่านมา มีข้อผิดพลาด หรือ มีข้อสำเร็จอย่างไร และจะทำอย่างไรต่อ ส่วนคนใหม่ที่มาสมัคร ก็จะได้แสดงภูมิปัญญาของตนเอง ในการที่จะทำงานในหน้าที่นี้ในอนาคตอย่างไร แต่การที่กรรมการใน บอร์ด กกท. เห็นชอบแบบรวบรัด ก็เหมือนสมรู้กันไปหมด

อดีตประธาน ส.ส.กีฬา กล่าวต่ออีกว่า ตนเองในฐานะคนกีฬาและรู้จักปรัชญากีฬาดี ก็ห่วงใยและไม่อยากเห็นภาพอย่างนี้ในสังคมกีฬา อยากเห็นภาพการเปิดโอกาส มีขั้นตอนคัดสรรที่โปร่งใส คนกีฬาต้องมีเกียรติ มีศักดิ์ศรีในการอยู่ร่วมกัน ไม่ควรทำในลักษณะที่ได้ตัดสินใจมาอย่างนี้ ต่อจากนี้ตนเองจะอาศัยช่องทางที่มีอยู่ เพื่อทำหนังสือถึงคณะรัฐมนตรี ที่จะเป็นผู้พิจารณาขั้นสุดท้าย และจะทำหนังสือถึงฝ่ายนิติบัญญัติที่ดูแลกีฬา รวมทั้งประธานบอร์ด กกท. และ นายกรัฐมนตรี ที่เป็นผู้มอบหมาย รองนายกรัฐมนตรี ไปเป็นประธานบอร์ด กกท. เพื่อให้ทุกคนได้รับทราบว่า วงการกีฬาควรหรือไม่ควรที่จะทำอย่างไร