จากการที่ นายสุนทร จารุมนต์ นายกสมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย ได้เดินทางเข้าพบ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รับปากจะช่วยสนับสนุนการจัดการแข่งขันสนุกเกอร์รายการใหญ่ของเมืองไทยให้พัฒนาต่อไป เพื่อความเป็นเลิศนั้น
เมื่อวันที่ 24 ก.พ. ที่ผ่านมา ที่ห้องรับรองชั้น 11 ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย นายสุนทร จารุมนต์ นายกสมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย “มิ้งค์ สระบุรี” ณัชชารัตน์ วงศ์หฤทัย จอมคิวหญิงวัย 22 ปี เจ้าของแชมป์สนุกเกอร์หญิงอาชีพโลก ที่ประเทศอังกฤษ และนายบริรักษ์ จงโชติชัชวาลย์ ผู้จัดการส่วนตัว น้องมิ้งค์ เข้าพบ ดร.ก้องศักดิ์ ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย เพื่อขอการสนับสนุนตามแนวทางที่รัฐมนตรีได้ปรารภไว้ เป็นการพูดคุยปรึกษาหารือกันกว่า 30 นาที
โดย ดร.ก้องศักด ยอดมณี กล่าวว่า ในทางของการกีฬาแห่งประเทศไทยนั้น พร้อมให้การสนับสนุนส่งเสริมสมาคมกีฬาทุกสมาคม โดยเฉพาะสมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย ตอนนี้นักกีฬามีผลงานสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ โดยเรื่องของน้องมิ้งค์นั้น ก็ได้มอบหมายให้ทางฝ่ายกีฬาอาชีพได้เข้ามาดูว่าจะสามารถช่วยเหลือตรงไหนได้บ้าง เพราะที่ผ่านมา กกท.ให้การสนับสนุนช่วยนักสนุกเกอร์อาชีพชายมาตลอด อย่าง ต๋อง ศิษย์ฉ่อย , เอฟ นครนายก , หมู ปากน้ำ และซันนี่ อาร์แบค คาดว่า การสนับสนุนน้องมิ้งค์จะได้เหมือนกับนักสนุ้กผู้ชายที่ทางฝ่ายอาชีพได้มอบให้ทุกปีที่ผ่านมา
ผู้ว่าการ กกท. กล่าวว่า ขณะที่ เรื่องการถอดกีฬาสนุกเกอร์ออกจาก พรบ.การพนัน การแก้ไขกฎหมายนั้น จะต้องทำรายละเอียด ศึกษาผลประโยชน์ที่ได้รับ และการป้องกันที่รัดกุม ซึ่งแต่ละกระบวนการต้องใช้เวลา อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นได้วางแผนและหารือกับทางสมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย ในการจัดตั้งศูนย์ฝึกกีฬาสนุกเกอร์ขึ้นมา เพื่อให้นักกีฬาเยาวชนได้มีสถานที่ฝึกซ้อมอย่างถูกวิธี ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการขึ้นทะเบียนศูนย์ฝึกให้ผ่านมาตรฐานตามเกณฑ์ของ กกท. ต่อไป
ส่วนเรื่องของการถ่ายทอดสดที่ทางสมาคมจะมอบสิทธิ์ให้กับทางช่องทีสปอร์ตนั้น ก็ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ดูว่าจะสามารถช่วยเหลือในส่วนไหนด้านบ้าง ยิ่งเรื่องงบประมาณจัดแข่งขันกีฬาอาชีพสนุกเกอร์อีก 6 สนาม และสนุกเกอร์ 6 แดงชิงแชมป์โลก จะพยายามดูช่วยเหลือ ในส่วนจะได้ขนาดไหนค่อยมาว่ากันอีกที
ด้าน นายสุนทร จารุมนต์ นายกสมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย เผยว่า วันนี้พยายามจะชี้แจงถึงเรื่องของการของบประมาณในการถ่ายทอดสดสนุกเกอร์อีก 8 รายการ ที่เหลือกับทาง ผู้ว่าการ กกท. เนื่องจากมองว่าสถานีช่องทีสปอร์ต หมายเลข 7 เป็นช่องกีฬาระบบดิจิตอลที่ประชาชนคนไทยสามารถเปิดรับชมได้ทั่วประเทศ รวมถึงการขอรับเงินสนับสนุนที่ทางรัฐมนตรีรับปากว่าจะช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ซึ่งต้องขอขอบคุณทาง ผู้ว่าการ กกท. และทีมงานที่รับฟังตน เชื่อว่า ในเวลาที่เหลือทางสมาคมจะเร่งทำเรื่องเอกสารชี้แจงเกี่ยวกับงบประมาณทั้งหมดให้เร็วที่สุด เพื่อต้องการให้วงการสนุกเกอร์ไทยเกิดการพัฒนาต่อไป