2539 ปีแห่งการเชือดบิ๊กกีฬา ภาค 1 : ดร.ณัฐต้องอำลาถิ่นหัวหมาก

แชร์บทความ

Share on facebook
Share on twitter

ภาค 1.เด้งรองณัฐ-ก่อนลาออก

บันทึกกีฬาไทยโดย Station THAI ขอเปิดประวัติศาสตร์วงการกีฬาปี พ.ศ.2539 โดยมองว่าปีนั้นทั้งปี แตกต่างจากปีอื่น ๆ แน่นอนเพราะ ระดับหัวแถวขององค์กรกีฬา โดนให้ออก ลาออก บีบออก ย้าย หรือโยกข้ามห้วยกันระนาว

บันทึกเหล่านี้ใครที่เกี่ยวข้องคงโต้แย้งยากครับเพราะเป็นบันทึกจากสื่อในยุคนั้น ที่เขียนถึงกันแบบถ้วนหน้า

เริ่มจากคำครหาและการลาออกของ “ดร.ณัฐ อินทรปาณ” ขณะนั้นเป็นรองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ฝ่ายวิชาการ….หาคำตอบว่า ทำไม.

จุดเริ่มต้นที่แตกหักคือ…..การประชุมคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย หรือ บอร์ด กกท. เมื่อวันที่ 25 เมษายน พ.ศ.2539 โดยมีนายปองพล อดิเรกสาร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีที่ทำหน้าที่ประธานบอร์ด กกท.โดยตำแหน่งนั้น หรืออาจจะเรียกง่าย ๆ ว่าเป็นรัฐมนตรีกีฬา ซึ่งเป็นประธานในที่ประชุม ได้นำเรื่องวาระอื่น ๆ เข้าสู่การหารือในบอร์ด กกท.ต่อกรณีการร้องเรียนเกี่ยวกับการประมูลอุปกรณ์ต่างๆ ในสนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติหัวหมาก (ที่กลายมาเป็นสนามราชมังคลากีฬาสถานในปัจจุบัน) ที่ตอนนั้นกำลังเริ่มวางแผนการก่อสร้าง และดำเนินการต่าง ๆ พร้อมๆ กัน ซึ่งพาดพิงถึงผู้ที่ดูแลการทำงานนี้อยู่คือ “ดร.ณัฐ”

ข่าวเหตุผลการเด้งที่โดนกล่าวหา

จนได้สรุปกันในการประชุมว่า ควรมีการเปลี่ยนแปลงผู้ที่ดูแลงานและรับผิดชอบนี้  โดยมติให้เปลี่ยนแปลงผู้ดูแลงาน จาก ดร.ณัฐ อินทรปาณ รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ฝ่ายบริหาร ที่ดูแลงานก่อสร้างและประมูลส่วนประกอบต่าง ๆ ของสนาม ให้สลับกับ นพ.เจริญทัศน์ จินตนเสรี รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ฝ่ายวิชาการ  ซึ่งหมายถึงให้ “หมอเจริญทัศน์” มาดูแลเรื่องสนามทั้งหมดแทน

พร้อมต่อเนื่องถึงระดับฝ่าย คือให้เปลี่ยนนายชลัท พัทธโนทัย ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาสถานกีฬา การกีฬาแห่งประเทศไทย ที่ดูแลงานเรื่องสนามกีฬาในสายเดียวกับ ดร.ณัฐ ออกไป สลับและให้ นายวิวัฒน์ วิกรานตโนรส ผู้อำนวยการสำนักผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทยมาทำหน้าที่แทน

และการปรับตำแหน่งนี้ บอร์ด กกท.เห็นชอบในวันนั้นทันที….โดยในมุมเหตุผลก็คือ เพื่อให้เกิดความโปร่งใสตามต้นเรื่อง “หนังสือร้องเรียน-คำครหา” ที่ได้นำเข้าสู่การหารือนั่นเอง

จริงไม่จริงไม่มีใครพิสูจน์ได้…แต่คนถูกเปลี่ยนก็เหมือนมีความผิด หรือถูกเข้าใจผิด เสียหาย

จากนั้นปฏิบัติการของ “คนมีพวก” ก็เกิดแรงกระเพื่อมใน การกีฬาแห่งประเทศไทย มีการวางหรีดดำ โดยไม่รู้ใคร แต่พอที่จะรู้ฝ่ายใด ซึ่งด้วยความหมายของการวางหรีดดำก็คือ เพื่อไว้อาลัยให้คน กกท.ที่โดนรังแกจากฝ่ายการเมือง ซึ่งเล่นเอา ดร.สมชาย ประเสริฐศิริพันธ์ ที่เป็นผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทยในยุคนั้นต้องเรียกเคลียร์ทั้งภายในคือคน กกท.ตัวเอง และภายนอกที่ก็คือกลุ่มการเมืองที่ครอบ กกท.อยู่

แต่เป็นที่รู้กันว่าเรื่องพวกนี้เคลียร์ไม่จบ เพราะฝ่ายที่ใช้อำนาจเปลี่ยนแปลงเขาใช้อำนาจแล้ว แต่ข้าราชการประจำ ที่อยู่ภายใต้ผู้มีอำนาจก็มีแต่แสดงออกแต่ไม่มีสิทธิอะไร ที่จะไปต่อรองหรือพลิกคำตัดสิน

เรื่องนี้คุกรุ่นในทุ่งหัวหมากช่วงนั้นยิ่งนัก…และก็เป็นจริง!!!

หลังจากนั้นอีกไม่ถึงยี่สิบวัน เพราะวันที่ 8 พ.ค.2539 ด้วยวัย 58 ปี ดร.ณัฐ อินทรปาณ รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ฝ่ายวิชาการ (หลังจากที่ถูกสลับตำแหน่ง) และถูกพาดพิงจากคำกล่าวหา ก็ยื่นใบลาออกจากตำแหน่งที่นั่งอยู่ แล้วก็เก็บของออกจากการกีฬาแห่งประเทศไทยไป หลังจากที่เข้าสู่ถิ่น กกท.ตั้งแต่ปี 2532

ข่าวสารผ่านสื่อมวลชนยุคนั้นเป็นบันทึกจริงๆ ต่อมาก็คือ

สาเหตุที่ ดร.ณัฐ หรือ อาจารย์ณัฐ ที่สื่อรวมทั้งศิษย์ทุกคนเรียกนั้น ท่านได้เปิดเผยว่า “ จริง ๆ แล้วนั้นตนเองจะลาออกตั้งแต่ต้นปี 2538 แล้ว เพื่อเปิดทางให้คนรุ่นใหม่มาทำหน้าที่แทน แต่พอดีปรึกษาผู้ใหญ่ที่นับถือแล้ว ท่านได้ขอให้ช่วยงานซีเกมส์ครั้งที่ 18 ปลายปี 2538 ก่อน ก็เลยอยู่ต่อเพื่อช่วยงานดังกล่าว และในงานศพคุณพ่อก็ได้หารือกับผู้ใหญ่ที่นับถืออีกครั้งและก็สามารถตัดสินใจได้ ก็เลยยื่นใบลาออก ซึ่งบังเอิญมาเจอช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงพอดี ตนเองก็คงไม่มีอะไรต้อพูดมาก เมื่อตัดสินใจแล้ว เดินหน้าแล้วก็ต้องเดิน เพราะถอยหลังไม่เป็น แต่เมื่อลาออกแล้วไม่ใช่ว่าจะจากวงการกีฬา เพราะยังมีตำแหน่งในคณะกรรมการโอลิมปิกสากลอยู่”

ดร.ณัฐแจงเหตุผล

นั่นคือคำอธิบายที่อาจารย์ณัฐบอกกับสื่อกีฬาถึงสาเหตุของการยื่นใบลาออก

เป็นการอธิบายเหตุผลที่สอดคล้องกับการตัดสินใจที่ดูดีเยี่ยมง่ายๆสบายๆแล้วจบ

แต่ในเชิงลึกๆแล้วมันไม่จบ เพราะจริง ๆ แล้ววันนั้นไม่มีใครเชื่อตามท่านอาจารย์ณัฐอย่างนั้นเลยว่ามีเหตุผลแค่นั้นแบบ 100%…นี่คือเรื่องจริง.

#รอติดตามภาค 2 ผู้ว่า กกท.สมชาย ประเสริฐศิริพันธ์”….ก็หนีไม่พ้นการลาออก!!!

RANDOM

โค้งสุดท้าย…ประกวดออกแบบอาคารรักษ์โลกระดับประเทศ The NOVA Stage of Designers Award ปี 2 หัวข้อ แปลงโฉมอาคารให้เป็น Senior Living Building ภายใต้แนวคิด Green Innovation Revolution ชิงุทนการศึกษารวมกว่า 230,000 บาท หมดเขตสมัคร 15 พ.ย. นี้

รัฐบาลญี่ปุ่น ร่วมกับ หอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) จัดประกวดภาพยนตร์สั้น หัวข้อ “สิ่งที่ฉันต้องการ” ในโครงการ JENESYS 2023 คัดเลือกตัวแทนเยาวชนไทยไปร่วมกิจกรรม ที่เมืองมินามิอาวาจิ จ.เฮียวโงะ ประเทศญี่ปุ่น

NEWS

ราชภัฏลำปาง เชิญชวนผู้ประกอบการ นักวิชาการ นักศึกษา อบรมเชิงปฏิบัติการฟรี “การจัดการองค์ความรู้ด้านประวัติศาสตรและวัฒนธรรมสู่การพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ในนิเวศวัฒนธรรม 3 ภูมิภาค พื้นที่จังหวัดลำปาง” 26 – 27 เม.ย. นี้ รับจำนวนจำกัด 100 ท่าน ผู้สนใจสมัครด่วน

You cannot copy content of this page

error: Content is protected !!