จุดจบรับน้องโหด รุ่นน้องตาย รุ่นพี่ติดคุก ค่านิยมแบบผิด ๆ ในรั้วมหาวิทยาลัย

แชร์บทความ

Share on facebook
Share on twitter

ประเพณีการรับน้อง เป็นประเพณีที่มีมานานแล้ว มีรากเหง้ามาจากทวีปยุโรป มาจากระบบ Penalism ในยุโรป และระบบแฟกกิง ในอังกฤษ ระบบ Penalism เกิดขึ้นในสมัยกลางประมาณ 700 ปีก่อน เนื่องจากเชื่อว่าน้องใหม่ที่เข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัยยังขาดการศึกษาจึงต้องขัดเกลาด้วยความลำบาก ก่อนที่จะได้รับชีวิตใหม่ที่ดีในรั้วมหาวิทยาลัย เพื่อให้รู้จักประพฤติตัวให้เหมาะสม โดยจะมีการบังคับให้ใส่ชุดแปลก ๆ ถูกทำร้ายร่างกาย ถูกเล่นตลกที่หยาบคาย ถูกรีดไถเงินหรืออาหาร 200 ปีต่อมา ระบบนี้ได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการในมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ทั่วยุโรป แต่ทว่าเป็นระบบที่อันตราย มีการบันทึกเรื่องคนเจ็บและคนตายจากกิจกรรมนี้ จนผู้ปกครองนักศึกษาหวาดกลัวประเพณีนี้ เมื่อสิ้นสุดสมัยกลางใน 100 ปีถัดมา ระบบนี้จึงได้ถูกยกเลิกไป

สำหรับ การรับน้องแบบรุนแรง หรือ ระบบว๊าก หรือที่เรียกกันว่า “ระบบโซตัส” รุ่นพี่จะนำระบบนี้มาใช้กดดันรุ่นน้องด้วยการกลั่นแกล้ง เพราะคิดว่าจะเป็นการละลายพฤติกรรม ลดทอนความต่างของฐานะให้นิสิตใหม่รู้สึกเท่าเทียมกัน มีความรักสามัคคี “ดร.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ” ได้พูดถึงที่มาของระบบว๊าก หรือระบบโซตัส ในหนังสือ “หนุ่มหน่ายคัมภีร์” ของ สุจิตต์ วงษ์เทศ ว่า ตัวอย่างของประเพณีประเภทนี้แผ่ขยายเข้ามาในเมืองไทยจนเห็นได้ชัด ในกรณีของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ คือ ประเพณีการคลุกโคลนปีนเสา ซึ่งมีที่มาจาก มหาวิทยาลัยคอร์แนล ที่มีการปีนเสาทรมาน ประเพณีการปีนเสานี้ได้แผ่ขยายไปยังฟิลิปปินส์ ซึ่งในสมัยนั้นฟิลิปปินส์เป็นเมืองขึ้นของสหรัฐอเมริกา และมหาวิทยาลัยคอร์แนลก็ได้มีส่วนร่วมในการก่อตั้งมหาวิทยาลัยแห่งฟิลิปปินส์ ประเพณีการปีนเสาจึงได้รับการถ่ายทอดมาด้วย จะเห็นได้ว่า มหาวิทยาลัยในประเทศไทยรับระบบการรับน้องแบบโซตัสในช่วงที่การรับน้องแบบนี้ยังเป็นที่นิยมในสหรัฐอเมริกาและฟิลิปปินส์

เหตุผลที่แท้จริงของการรับน้อง มีขึ้นเพื่อให้นักศึกษาใหม่ได้คุ้นเคย และทำความรู้จักกับรุ่นพี่ ที่จะสามารถสอนวิธีการปฏิบัติตัวในสังคมได้ การรับน้องถือเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์ในอดีต รุ่นน้องได้รู้จักรุ่นพี่ นอกจากนี้ ยังทำให้ทุกคนรู้รักสามัคคีกัน รู้จักปรับตัว รู้จักการวางตัว รวมทั้งกิริยามารยาทที่ควรปฏิบัติในการอยู่ร่วมกันในสังคม แต่เนื่องจากกิจกรรมรับน้องจัดโดยรุ่นพี่ที่อยู่ในสถานศึกษานั้นมาก่อน หลายครั้งที่ผู้อาวุโสกว่าจะมีการวางตัวข่มขู่เพื่อให้รุ่นน้องยำเกรง นำไปสู่การใช้อำนาจในสังคมการศึกษาอย่างไม่ถูกไม่ควร โดยอ้างเหตุผลของการรับน้อง ตัวอย่างเช่น การที่รุ่นพี่ไม่ชอบหน้ารุ่นน้อง สั่งให้รุ่นน้องทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่น สั่งใหวิ่งรอบสนาม การให้ผู้ชายสองคนจับอวัยวะเพศของกันและกัน หรือ การสั่งให้ถอดเสื้อผ้ากลางที่สาธารณะ เป็นต้น โดยถ้ารุ่นน้องไม่ปฏิบัติตามจะถูกรุ่นพี่กล่าวหาว่าไม่เคารพรุ่นพี่ และนำการรับน้องมาใช้เป็นเหตุผลในการทำโทษอย่างรุนแรง

และจากกรณีของ น้องเปรม-นายพัดยศ ชลภักดี อายุ 19 ปี นักศึกษา ปวส.ชั้นปีที่ 1 สาขาช่างกลโรงงาน วิทยาลัยนวัตกรรมวิชาชีพ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ที่เสียชีวิตจากการถูกกลุ่มรุ่นพี่ทำร้ายร่างกายในกิจกรรมรับน้องใหม่ที่แอบจัดนอกสถานที่ ความคืบหน้าล่าสุด อาจารย์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสานได้นำตัวกลุ่มนักศึกษา ปวส.ชั้นปีที่ 2 ซึ่งเป็นรุ่นพี่ และกลุ่มนักศึกษา ปวส.ชั้นปีที่ 1 รุ่นน้อง จำนวนกว่า 30 คน ที่เข้าร่วมในกิจกรรมรับน้องใหม่ และยังไม่ได้ให้ปากคำ เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สภ.มะเริง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งตำรวจได้เรียกผู้ที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมรับน้อง ทั้งกลุ่มรุ่นพี่ที่เป็นนักศึกษา ปวส.ปีที่ 2 และกลุ่มรุ่นน้องนักศึกษา ปวส.ปีที่ 1 อีกประมาณ 30 คน รวมทั้งอาจารย์ที่ดูแลนักศึกษามาสอบปากคำทั้งหมด เพื่อดำเนินการสอบสวนหาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ซึ่งขณะนี้ ตำรวจยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาใครเพิ่มเติม มีเพียงกลุ่มรุ่นพี่ 7 คนเท่านั้นที่ถูกแจ้งข้อหาร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย แต่หากการสอบสวนพบว่าใครมีส่วนร่วมในการกระทำผิด ก็จะดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมต่อไป

ด้าน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ขณะนี้ได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนเรื่องที่เกิดขึ้น เพื่อดำเนินการหาตัวผู้ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดทั้งหมดมาลงโทษตามระเบียบของทางมหาวิทยาลัยต่อไป ส่วนในเรื่องการเยียวยาครอบครัวของน้องเปรม เบื้องต้นทางมหาวิทยาลัยจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทุกอย่างในเรื่องการจัดการศพ ซึ่งจากการหารือพูดคุยกับทางพ่อแม่ของน้องเปรม มีความประสงค์จะนำศพน้องกลับไปบำเพ็ญกุศลที่จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยทางมหาวิทยาลัยพร้อมรับผิดชอบทั้งเรื่องค่าเดินทาง และค่าใช้จ่ายในการจัดงานศพ ส่วนความช่วยเหลืออื่น ๆ ทางมหาวิทยาลัยก็พร้อมเยียวยาครอบครัวของน้องเปรมให้ดีที่สุด

การรับน้องที่ใช้ความรุนแรงยังคงมีให้เห็นในสังคมไทยมาช้านาน แม้ว่าทางมหาวิทยาลัยจะพยายามกวดขันและห้ามปรามการจัดงานรับน้องที่รุนแรงเช่นนี้อย่างเข้มข้น แต่ก็มักจะมีรุ่นพี่หัวโจกแอบลักลอบจัดงานรับน้องที่รุนแรงเช่นนี้อยู่เรื่อย ๆ คงถึงเวลาที่ต้องลด ละ เลิก การจัดงานรับน้องที่ไร้สติเช่นนี้เสียที เพราะมีแต่จะสูญเสียทุกฝ่าย รุ่นน้องเสียชีวิต รุ่นพี่เสียอนาคต และมหาวิทยาลัยเสียชื่อเสียง มีแต่คนเสียประโยชน์ ไม่เห็นจะมีใครได้ประโยชน์จากเรื่องนี้เลย

 

 

RANDOM

วิทยาลัยพยาบาลศาสตร์ฯ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ร่วมกับ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ให้ทุนหลักสูตรประกาศนียบัตรผู้ช่วยพยาบาล (การดูแลผู้สูงอายุ) เรียนฟรี มีเงินเดือน รับสมัครถึง 13 มี.ค. 66

จุฬาฯ ชวนวิ่งการกุศลเนื่องในโอกาส 107 ปี แห่งการสถาปนาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย “CHULA 107 CHULA RUN 2024” สมทบทุนจัดซื้อเครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าอัตโนมัติ (AED) 107 เครื่อง ลงทะเบียนร่วมวิ่งฟรี ตั้งแต่บัดนี้ – 10 มี.ค. 67

You cannot copy content of this page

error: Content is protected !!