จากกรณีที่ Station THAI ติดตามเรื่องราวที่มีการแชร์มาถึงด้วยการบอกเล่าของผู้เกี่ยวข้องที่อยากจะให้ผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องได้ช่วยลองพิจารณา ปัญหาของนักกีฬาคนพิการทีมชาติในกีฬาชนิดหนึ่ง ที่ต้องย้ายไปเก็บตัวที่ต่างจังหวัด แต่ในส่วนตัวนักกีฬาเองนั้นพบปัญหา ปัจจัยต่าง ๆ ไม่เอื้อในความเป็นนักกีฬาคนพิการของตน จึงปรึกษาคุณแม่ตัวเองและขออนุญาตโค้ชที่ดูแล เพื่อขอกลับมาซ้อมที่การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) หัวหมาก
จากนั้นมีระดับฝ่ายบริหารของสมาคมกีฬาคนพิการได้โพสต์ใน Facebook ของตัวเอง ในลักษณะพาดพิงถึงนักกีฬาคนนั้น ว่าไม่ทน ขณะที่คนอื่น ๆ สามารถทำตามกติกาที่ทางสมาคมวางไว้ได้ และปรากฏว่ามีคนคอมเมท์และแชร์ เรื่องราวดังกล่าว ที่ส่วนใหญ่ต่อว่าคนที่ไม่สามารถทำตามกติกาได้
และจากนั้น “คุณแม่” ของนักกีฬาที่ขอตัวกลับไปซ้อมที่ กกท.หัวหมาก ก็โพสต์ใน Facebook ของตัวเองเพื่ออธิบายเรื่องราวเหตุผลของลูกพร้อมยืนยันว่าจะยอมรับหากผู้ใหญ่จะพิจารณาจนกระทั่งหลุดจากทีมชาติไป เพราะเข้าใจลูกและห่วงลูก
กระแสนี้ Station THAI ติดตามความคืบหน้าเพราะเชื่อว่าสมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทย และการกีฬาแห่งประเทศไทย จะไม่นิ่งเฉยและนิ่งเฉยไม่ได้กับกรณีดังกล่าวในด้านการเคลียร์ทั้งสองฝ่ายเพื่อหาเหตุหาผล ให้ทุกอย่างจบลงด้วยดี
แต่ล่าสุดทางฝ่าย “คุณแม่” ของน้องนักกีฬาคนพิการ นั้นได้ส่งข้อมูลถึงทีมงาน ด้วยความยินดีที่ผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้อง อย่าง คุณสุปราณี คุปตาสา ผู้จัดการก้องทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ที่เป็นเจ้าของเงินในการสนับสนุนวงการกีฬาไทย นั้นได้เข้าไปคุยกับคุณแม่ของน้องนักกีฬาและพร้อมที่จะเป็นตัวกลางหาข้อยุติ
โดยเนื้อหาที่ผู้จัดการกองทุนฯ ได้ส่งถึงคุณแม่ผ่านทาง Facebook นั้น สรุปว่า เพิ่มทราบว่าเป็นกรณีของน้อง…ซึ่งเป็นนักกีฬาที่อยู่ในโครงการของกองทุน อยากให้พวกเรามาคุยกันบนโต๊ะและจบบนโต๊ะ เพื่อที่จะหาทางออก จึงอยากจะเรียนเชิญน้อง คุณแม่น้อง และผู้แทนสมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทยมาร่วมพูดคุยในรายละเอียดของน้องแล้วก็ตัดสินใจเดินหน้าด้วยกัน เพราะกองทุนใช้เงินภาษีประชาชนพัฒนานักกีฬา
คุณแม่น้องนักกีฬาบอกว่าได้ตอบกลับไปแล้วว่ายินดีที่จะพาน้องไปพบ และ บอกกับทีมงาน Station THAI ว่าดีใจที่เห็นผู้ใหญ่ให้ความสำคัญลงมาช่วยเหลือกับเรื่องนี้แบบรวดเร็วและห่วงใย จากการมองเห็นการโพสต์เล็ก ๆ ของเราที่อยากจะอธิบายเพื่อปกป้องลูกเท่านั้น