จากเรื่องราวของนักกีฬาคนพิการทีมชาติไทยชุดเตรียมทีมเพื่อร่วมศึกระดับนานาชาติ ได้ขอออกจากค่ายฝึกซ้อมต่างจังหวัดซึ่งสมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทยจัดให้ เนื่องจากว่าไม่สามารถอยู่ได้เพราะปัจจัยหลายอย่างไม่เอื้อ จนมีการโพสต์ผ่านสื่อออนไลน์จากผู้บริหารสมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทยท่านหนึ่ง ถึงการไม่พร้อมของนักกีฬา และทางด้านคุณแม่ของนักกีฬาก็โพสต์ลงเพื่ออธิบายถึงสาเหตุของลูกที่ต้องขอกลับเข้ามาฝึกซ้อมที่การกีฬาแห่งประเทศไทย หัวหมาก
จากกระแสเรื่องราวนี้ ผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ “สุปราณี คุปตาสา” ได้ทราบข่าวและติดต่อเพื่อนัดคุยระหว่างคุณแม่และน้องนักกีฬา กับสมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทย เพื่อที่จะเป็นตัวกลางในการทำความเข้าใจของทั้งสองฝ่าย ให้ทุกอย่างจบในการเจรจากันให้เร็วที่สุด
ขณะที่ทางการกีฬาแห่งประเทศไทย โดยผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ดร.ก้องศักด ยอดมณี ซึ่งได้รับการติดต่อและรับทราบปัญหาจากฝ่ายของนักกีฬามาแล้ว ในเรื่องเดียวกันนี้ ได้มอบหมายให้ “ประชุม บุญเทียม” รองผู้ว่าการฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา เป็นผู้ดำเนินการแก้ไขปัญหา
ซึ่ง “รองประชุม” ได้เปิดเผยว่า วันนี้ได้คุยกับทุกฝ่าย คือทางคุณไมตรี คงเรือง เลขาธิการสมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทย ทางคุณแม่ของนักกีฬาคนดังกล่าว พร้อมทั้งอีกท่านหนึ่งที่มีชื่อเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยกับการตัดสินใจของนักกีฬาและผู้ปกครอง ซึ่งโดยเบื้องต้นนั้นทางเลขาสมาคมยืนยันว่าทุกอย่างไม่ได้มีปัญหา เพราะนักกีฬากลุ่มเดียวกันนั้นทุกคนยกเว้นนักกีฬาคนดังกล่าวก็พร้อมที่จะร่วมกันเก็บตัว ขณะที่ทางฝ่ายคุณแม่ของนักกีฬาหรือผู้ปกครองนั้นก็มีเหตุผลในความไม่สะดวกหลายอย่าง ตนเองก็อยากให้ปัญหาเรื่องนี้จบลงโดยเร็วก็เลยนัดวันที่ทุกคนพร้อมที่สุดคือ วันที่ 5 เม.ย.ที่จะถึงนี้ เพื่อให้ทุกฝ่ายเข้ามานั่งคุยกันว่าจะแก้ไขหรือจะสรุปอย่างไรต่อ ซึ่งทุกฝ่ายรับปากที่จะมาร่วมหารือกัน
เมื่อสอบถามถึงเรื่องปัญหาที่เกิดขึ้นเพราะอะไรนั้น “รองชุม” กล่าวว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนหากจะให้กล่าวตอนนี้คงต่างฝ่ายต่างก็จะพูดกันอีกยาวไปในมุมของตัวเอง จึงอยากให้รอฟังการสรุปในวันที่ 5 เม.ย.นี้ที่จะคุย นอกจากเรื่องนี้แล้ว ยังมีเรื่องที่มีการร้องเรียนการทำงานของสมาคมกีฬาที่เกี่ยวข้องนี้ในด้านต่าง ๆ ซึ่งก็จะถือโอกาสนั้นในการสอบถามข้อมูลและตรวจสอบข้อมูลต่างๆ ให้จบไปด้วยในวันเดียวกัน
“เรื่องนี้คงไม่ยาก แต่ทุกคนต้องหันหน้ามาพูดความจริงกันและยอมรับบทสรุปร่วมกัน” รองประชุม บุญเทียมกล่าว.