Station Thai วันนี้ เอาเรื่องการตัดไม้หวงห้ามมาฝากครับ สืบเนื่องมาจากช่วงนี้ มีฝนตกหนักบ่อยครั้ง ส่งผลให้ต้นไม้ที่ปลูกไว้ตามบ้านเรือน รวมทั้งวัชพืญเติบโตเร็วมาก รวมทั้งบ้านของแอดมินด้วย เลยต้องใช้บริการช่างให้มาตัดแต่งต้นไม้ให้ โชคดีที่บ้านแอดมินไม่มีไม้หวงห้ามเลย แต่ถ้าบ้านของท่านใดปลูกไม้หวงห้ามเอาไว้ ก่อนจะตัดแต่งต้นไม้ อย่าลืมแจ้งเจ้าหน้าที่ก่อนนะครับ ไม่เช่นนั้นอาจต้องรับโทษได้
ชนิดของต้นไม้ในที่ดินกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครอง ก่อนตัดจะต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ก่อน
ไม้หวงห้ามประเภท ก ไม่ว่าจะขึ้นอยู่ที่ใดในประเทศไทย แม้จะปลูกไว้ในที่ดินของตนเอง หรือจะกระทำการใด ๆ ต่อไม้ ต้องยื่นคำขออนุญาตทำไม้ เพื่อการใช้สอยส่วนตัวต่ออำเภอ หรือสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดในท้องที่ ตามขั้นตอนการขออนุญาตทำไม้สักและไม้ยางในที่ดินกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครอง ตามข้อกำหนดฉบับที่ 17 (พ.ศ. 2530)
ทั้งนี้ ไม้หวงห้ามประเภท ก ได้แก่ ไม้พะยูง ไม้สัก ไม้กระพี้เขาควาย ไม้ชิงชัน ไม้ยาง เป็นต้น เป็นไม้ที่ห้ามตัดเอง ต้องได้รับอนุญาตจากทางการเสียก่อน ถึงจะดำเนินการได้ ไม่ว่าต้นไม้เหล่านั้น จะขึ้นอยู่ที่ใดในผืนแผ่นดินประเทศไทยก็ตาม หรือปลูกไว้ในบริเวณที่ของตนเอง หรือจะทำอะไรกับไม้ก็ตาม เช่น ตัด ฟัน โค่น เลื่อย ถอน ขุด เป็นต้น ถ้าหากฝ่าฝืนมีความผิด มีโทษจำคุก 1 – 20 ปี และถูกปรับ ตั้งแต่ 50,000 บาท ถึง 2,000,000 บาท
กรณีขออนุญาตตัดไม้
หากมีความจำเป็นจะต้องตัดไม้ในพื้นที่ของตนเอง ซึ่งมีเอกสารสิทธิ ต้องแจ้ง สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งอยู่ที่ศาลากลางทุกจังหวัด โดยให้เตรียมเอกสาร ดังนี้
1.สำเนาทะเบียนบ้าน
2.สำเนาบัตรประชาชน
3.หลักฐานแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดิน
4.แผนที่ โดยสังเขป (ถ้ามี)
กรณีเหตุจากภัยธรรมชาติ
หากต้นไม้หวงห้าม เกิดโค่นล้มตามภัยพิบัติตามธรรมชาติ หรือ ไม้ล้มขอนนอนไพร คือ ไม้ที่ล้มตายเอง และอาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน เช่น กีดขวางทางเดิน หรือล้มทับบ้านเรือน ในบริเวณเขตที่ดินสาธารณะหรือของตนเอง ให้แจ้งกำนัน หรือ ผู้ใหญ่บ้าน ไปติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ ร่วมกันให้ความช่วยเหลือ
ขั้นตอนการขออนุญาต ตัดไม้หวงห้าม 5 ชนิด
1. ผู้ขอยื่นคำร้อง
2. นายอำเภอท้องที่ ส่งเรื่องให้จังหวัดพิจารณา ภายใน 7 วัน เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเอกสารที่ดินกับกรมที่ดิน
3.ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจารณา (ผ่านสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม) แจ้งสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ท้องที่เพื่อพิจารณา เจ้าหน้าที่ตรวจสอบสถานที่ และตำแหน่งของไม้ พร้อมความเห็นตามหลักเกณฑ์
4. กรณีอนุญาต ให้รับใบอนุญาตทำไม้ ไม่ต้องเสียค่าภาคหลวง แต่เสียค่าธรรมเนียม (20 บาท และ 5 บาท) ออกใบเบิกทางนำไม้ไปใช้ประโยชน์ตามคำขอ กรณีไม่อนุญาต แจ้งผู้ขอให้ทราบ
5.รายงานกรมป่าไม้
ที่มา : กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ สำนักงานกิจการยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม ร่วมกับ กรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
สายด่วนกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ โทร. 1111 กด 77
สายด่วนกรมป่าไม้ โทร. 1310 กด 3
ขอบคุณข้อมูล จาก สำนักงานกิจการยุติธรรม