สถานีความคิด

ตอนที่ 2 : ระบบการศึกษาในประเทศอังกฤษ แปลโดย ดร.นิพัทธ์ อึ้งปกรณ์แก้ว

ตอนที่ 2 ระบบการศึกษาในประเทศอังกฤษ             คูเบอร์แต็งเข้าชมโรงเรียนและมหาวิทยาลัยอังกฤษและไอริชเพื่อสังเกตการณ์หลายครั้ง โดยเขาตั้งคำถามแก่ครูและนักเรียนเพื่อความเข้าใจถ่องแท้ต่อการศึกษาที่เปลี่ยนจากที่คาดคิดก่อนคริสต์ศตวรรษสิบเก้า เขาชี้ความแตกต่างของการศึกษาที่ก้าวหน้าขึ้นจากความสำเร็จของผู้ริเริ่มที่โด่งดังสองท่านตามที่โดยเทเน (Taine) อ้างถึงกับประสบการณ์ตนเองในชั้นมัธยมศึกษาและระบบการศึกษาฝรั่งเศสที่กำลังปฏิบัติและติดหล่มอยู่             งานนิพนธ์ระบบการศึกษาในประเทศอังกฤษจำนวน 326 หน้าประกอบด้วยบทนำและอีกสิบหกตอนดังนี้ การเยี่ยมโรงเรียนพับลิก โรงเรียนอีตัน โรงเรียนฮาร์โรว์ โรงเรียนรักบี้ โรงเรียนเวลลิงตัน โรงเรียนวินเชสเตอร์ โรงเรียนมาร์ลโบโร โรงเรียนชาร์เตอร์เฮ้าส์ โรงเรียนคูเปอร์สฮิลล์ โรงเรียนเวสต์มินสเตอร์ โรงเรียนไครสต์ฮอสพิตัล ความเห็นทั่วไปและสรุป โรงเรียนคาทอลิก ความทรงจำมหาวิทยาลัย ทอย์นบีฮอลล์ ปัญหาและการแก้ไข             คูเบอร์แต็งใช้วิธีการสังเกตของเลอ เพลย์  (Le Play) ซึ่งเป็นสิ่งใหม่ในเวลานั้น เพื่อแสวงหาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของระบบการศึกษาอังกฤษที่มีชื่อเสียงมากในขณะนั้นกล่าวคือ การเกื้อหนุนนักเรียนให้ค้นพบศักยภาพมนุษย์ของตนเองและการอบรมเด็กให้ดำรงชีวิตในฐานะมนุษย์ เกิดบูรณาการในตนเองและอยู่ในสังคมที่มีความคาดหวังต่อพลเมืองในระดับสูง ตอน หนึ่ง             ผู้อ่านที่รัก สิ่งที่ข้าพเจ้ากำลังนำเสนอแก่ท่านในหน้าต่างๆนี้ไม่ใช่บัญญัติการศึกษา แต่เป็นความประทับใจที่เกิดขึ้นระหว่างการเข้าชมโรงเรียนพับลิกในประเทศอังกฤษ             เป็นเวลานานแล้วที่ข้าพเจ้าได้ยินคุณพร่ำบ่นถึงสถานการณ์ของเด็กฝรั่งเศส คุณกล่าวถึงสิ่งต่างๆที่หนักหน่วงถึงขนาดว่า เด็กถูกริดลอนสิทธิขั้นพื้นฐาน             เด็กทั้งหลายกำลังถูกยัดเยียดความรู้             เด็กทั้งหลายกำลังกลายเป็นพจนานุกรมที่เดินได้             เด็กทั้งหลายทำงานหนักเกินตัว สิ่งเหล่านี้เป็นคำสรรเสริญ …

ตอนที่ 2 : ระบบการศึกษาในประเทศอังกฤษ แปลโดย ดร.นิพัทธ์ อึ้งปกรณ์แก้ว Read More »

ตอนที่ 1 บทนำ : อุดมการณ์โอลิมปิกของคูเบอร์แต็ง : แปลโดย ดร.นิพัทธ์ อึ้งปกรณ์แก้ว

     ปิแอร์ เดอ คูเบอร์แต็ง (Pierre de Coubertin) เป็นที่รู้จักจากนานาชาติด้วยความสำเร็จในการรื้นฟื้นโอลิมปิกเกมส์ในรูปแบบสมัยใหม่แต่มุมมองสรุปนี้ต่อคูเบอร์แต็งก็เพิ่งปรากฎไม่นานนี้ บทความพิเศษชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ค.ศ.1908 นำเสนอคูเบอร์แต็งในฐานะ‘นักปฏิรูปการศึกษาฝรั่งเศสที่น่ายกย่อง’โดยไม่กล่าวถึงงานของเขาในการฟื้นฟูโอลิมปิกเกมส์ตราบจนคริสต์ทศวรรษ 1930 ชื่อเขาก็ยังคงปรากฎในสารานุกรมของประเทศต่างๆเฉพาะในสาขาการศึกษาเท่านั้น ภาคแรกของฉบับนี้คือ‘การเปิดเผย’แสดงถึงอุดมคติและมิติการศึกษาของกีฬาของคูเบอร์แต็งในรูปแบบต่างๆที่สร้างแรงบันดาลใจให้แก่ตนเองโดยอุดมการณ์โอลิมปิกได้ปรากฎขึ้นในประวัติพัฒนาการของแนวคิดทั่วไปของปรัชญาและการศึกษาซึ่งทำให้ภาคสองคือ‘มิติต่างๆของโอลิมปิก’มีความสำคัญยิ่งต่อกรอบสาระของฉบับนี้โดยเหตุที่สิ่งพิมพ์จำนวนมากก่อนหน้าก่อให้เกิดมุมมองหลากหลายจึงมีการเรียกร้องต่อการทำความชัดเจนให้ปรากฎด้วยเอกสารที่ชัดแจ้ง จากมุมมองเชิงประวัตินี้ทำให้ทราบว่าขั้นตอนเช่นนี้นำไปสู่การยอมรับโอลิมปิกเกมส์ทุกสี่ปีในฐานะจุดสูงสุดของโลกกีฬาและทำให้การเล่นกีฬาเกิดขึ้นได้ซึ่งมีต้นกำเนิดจากบริบทเฉพาะของประเทศอังกฤษและแพร่หลายไปยังนานาชาติตลอดคริสต์ศตวรรษยี่สิบ การแสวงหาความเป็นสากลคือหนึ่งในเหตุผลหลายประการที่ทำให้โอลิมปิกเกมส์รักษาไว้ซึ่งความแข็งแกร่งและความน่าสนใจต่อชีวิตของพวกเราโดยเหตุนี้งานนิพนธ์ต่างๆที่นำเสนอในภาคสองจึงเป็นภาพสะท้อนกีฬานานาชาติในคริสต์ศตวรรษยี่สิบเช่นกัน เนื้อหาส่วนนี้เริ่มต้นด้วยแนวคิดการปฏิรูปการศึกษาของคูเบอร์แต็งและย้ำทวนแผนปฏิบัติต่างๆที่เกี่ยวข้องเพื่อจะนำเสนอวิวัฒนาการทางมโนทัศน์ของอุดมการณ์โอลิมปิกของคูเบอร์แต็งในหลายรูปแบบโดยมุ่งเน้นในสามมิติกล่าวคือ – มิติประวัติ – มิติปรัชญาและการศึกษา – มิติโครงสร้างองค์กร ด้วยการพิจารณาลักษณะนี้ จะมีเพียงมุมมองโอลิมปิกเท่านั้นที่ทำให้งานนิพนธ์เหล่านี้มีความโดดเด่นจากเนื้อหาวิชาการด้านกีฬาของภาคแรกโดยนับประมาณได้ร้อยละสามสิบของงานนิพนธ์ทั้งหมดของคูเบอร์แต็งในภาคสองนี้พวกเราได้รวบรวมบทความ 98 ชิ้นที่มีความหลากหลายเป็นอย่างมากทั้งรูปแบบและความยาวโดยบทความเหล่านี้มีจำนวนเกือบร้อยละสามสิบของ‘งานนิพนธ์โอลิมปิก’ของคูเบอร์แต็งซึ่งประกอบด้วยบทความหนังสือพิมพ์และวารสารเนื้อหาประกอบของงานสะสมและส่วนของหนังสือต่างๆ นอกจากนี้ยังรวมถึงสุนทรพจน์จำนวนมากซึ่งได้รับการจัดพิมพ์ภายหลังอยู่บ่อยครั้ง นอกเหนือจากสิ่งพิมพ์แล้ว เนื้อหาส่วนนี้ประกอบด้วยจดหมายเวียนที่เขียนโดยคูเบอร์แต็งซึ่งดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการโอลิมปิกนานาชาติ (IOC) ในขณะนั้นคำถามสำคัญต่างๆของยุทธศาสตร์โอลิมปิกได้ถูกตั้งขึ้นภายในจดหมายเหล่านี้โดยได้รับการขยายความและประกอบเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับงานนิพนธ์อื่นของตัวเขาเองแม้ด้วยลักษณะความเป็นทางการของจดหมายเวียนนี้และจำนวนคนที่ได้รับจะจำกัดก็ตามแต่ก็มีความเหมาะสมในการจัดเก็บเนื่องเพราะสามารถเปรียบได้กับสิ่งพิมพ์อื่นของคูเบอร์แต็งในด้านลีลาและเนื้อหา ทั้งนี้บทความมิติประวัติมีจำนวน 68 ชิ้น มิติปรัชญาและการศึกษามีจำนวน49 ชิ้นมิติโครงสร้างองค์กรมีจำนวน 21 ชิ้น รวมอีก3 ชิ้นเกี่ยวกับเมืองโลซานน์ในฐานะเมืองโอลิมปิกและ6ชิ้นที่เหลือเป็นมุมมองทั่วไป ผู้อ่านในปัจจุบันอาจพบว่าภาคสอง‘มิติต่างๆของโอลิมปิก’ค่อนข้างเป็นประวัติ แต่กระนั้นก็ต้องไม่ลืมว่าในฐานะประธาน IOC นั้นคูเบอร์แต็งต้องหยิบจับประเด็นในขณะนั้นที่เกี่ยวข้องกับโอลิมปิกเกมส์ โดยหากตรวจสอบอย่างถี่ถ้วนจะพบเสมอว่า พวกเราสามารถมองข้ามมิติประวัติเพื่อเข้าใจประเด็นต่างๆที่ยุทธศาสตร์โอลิมปิกกำลังถกเถียงในปัจจุบัน ความพลาดพลั้งบางประการอาจหลบเลี่ยงได้ด้วยการศึกษาประสบการณ์ในอดีต คำพรรณนาส่วนใหญ่ของรายการโอลิมปิกจะเกี่ยวเนื่องกับเนื้อหาต่างๆของประวัติร่วมสมัยข้อเสนอแนะต่างๆสำหรับการปรับปรุงการรณรงค์โอลิมปิกคำวิพากษ์ต่อความผิดที่เกิดขึ้นและการร้องขอต่อความร่วมมือในระดับสูงขึ้นที่โดยบ่อยครั้งจะปรากฎขึ้นในที่ประชุมซึ่งคูเบอร์แต็งจะแสดงพรสวรรค์ในการพูดต่อสาธารณะเพื่อนำเสนอวัตถุประสงค์ด้านโอลิมปิกแก่ผู้ฟังจำนวนมากของเขาได้อย่างน่าเชื่อถือที่จะกระตุ้นให้พวกเขาลงมือปฏิบัติ บทความของบท4‘มิติประวัติของอุดมการณ์โอลิมปิก’ได้รับการถ่ายทอดตามลำดับเวลาซึ่งสะท้อนการต่อสู้ยาวนานนับทศวรรษที่คูเบอร์แต็งมีความมุ่งมั่นต่อความเห็นของตนเองอัตชีวประวัติของเขาในระหว่าง ค.ศ.1887-1908 ใช้ชื่อที่สื่อความหมายมากคือ ‘A Twenty-One …

ตอนที่ 1 บทนำ : อุดมการณ์โอลิมปิกของคูเบอร์แต็ง : แปลโดย ดร.นิพัทธ์ อึ้งปกรณ์แก้ว Read More »

บทความ : สตรีเพศกับการกีฬา โดย ดร.นิพัทธ์ อึ้งปกรณ์แก้ว แห่งสถาบันวิทยาการโอลิมปิคไทย

โอลิมปิกเกมส์ที่กรุงปารีสในอีกสองปีข้าง (Paris 2024) จะเป็นการสืบสานจิตวิญญาณโอลิมปิกที่เริ่มต้นอย่างเป็นทางการเมื่อ 776 ปีก่อนคริสตกาล Paris 2024 จะเฉลิมฉลอง 2,800 ปี ชาตะกาลของโอลิมปิกเกมส์โบราณ !!! กรุงปารีส เคยเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกเกมส์สองครั้งใน ค.ศ. 1900 และ ค.ศ. 1924 ความโดดเด่นของ Paris 1900 นั้น นอกจากจะเกิดขึ้นในประเทศฝรั่งเศสซึ่งเป็นมาตุภูมิของ ปิแอร์ เดอ คูเบอร์แต็ง บิดาของโอลิมปิกเกมส์สมัยใหม่ แล้ว ยังเป็นจุดกำเนิดของการรณรงค์ให้สตรีเข้าร่วมในการกีฬาระดับโลกอย่างเป็นทางการอีกด้วย โดยแม้คูเบอร์แต็งเองจะไม่ใคร่จะเห็นด้วยกับการเข้าร่วมแข่งขันกีฬาของสตรีเพศ แต่ก็ไม่ได้กีดขวาง  นับแต่นั้นมา แนวคิดสิทธิการเล่นกีฬาของมนุษยชาติก็ขยายไปสู่การห้ามไม่ให้มีการกีดกันทางเพศ ศาสนา สัญชาติ เชื้อชาติ การเมือง เศรษฐกิจ รวมถึงเพศวิถี ซึ่งถือปฏิบัติเป็นหลักพื้นฐานของอุดมการณ์โอลิมปิกในปัจจุบัน Paris 2024 ตอกย้ำความสำคัญในเรื่องนี้ด้วยคำขวัญของเกมส์คือ Games Wide Open เพื่อเปิดประสบการณ์สู่ (ก) สุนทรียภาพของการกีฬา (ข) ศักยภาพของทุกคน และ (ค) …

บทความ : สตรีเพศกับการกีฬา โดย ดร.นิพัทธ์ อึ้งปกรณ์แก้ว แห่งสถาบันวิทยาการโอลิมปิคไทย Read More »

แต่งตั้งรองผู้ว่าการ กกท.2 ตำแหน่งไม่ได้ข้อยุติ เส้นทางที่ชาวหัวหมากซึ่งคุมเกมเองไม่ได้ ก็คงทำได้แค่…ต้องทนได้และทนต่อไป

ตามที่ รองผู้ว่าการ การกีฬาแห่งประเทศไทย ได้เกษียณอายุราชการ เมื่อวันที่ 30 ก.ย.2565 พร้อมกันทั้ง 2 คน จากนั้นการกีฬาแห่งประเทศไทย โดย ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการ กกท. ได้เริ่มกระบวนการสรรหาภายในเพื่อหาผู้ที่จะขึ้นมาแทน และ มีพนักงานระดับ 9 ของการกีฬาแห่งประเทศไทย ร่วม สมัครเข้าสู่การคัดเลือกลุ้นสู่ระดับ 10 (รองผู้ว่าการ) ที่เขามีสิทธิ และคณะทำงาน ที่ผู้ว่าการ กกท.ผู้ที่มีอำนาจโดยตรงในการเลือกรองผู้ว่าการฯ ได้ตั้งขึ้นมา  ได้ช่วยดำเนินการสรรหา คัดเลือกผู้ที่เหมาะสมแล้วเสร็จสิ้นขั้นตอนตั้งแต่เดือน ก.ย.2565 และได้เสนอผลต่อ ดร.ก้องศักด เรียบร้อยแล้ว จากนั้นเรื่องก็ไม่มีอะไรคืบหน้ามาก จนบัดนี้ (30 ต.ค.2565)  ก็ไม่ได้มีการนำเสนอชื่อผู้ที่ผ่านการคัดเลือกสู่คณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย หรือ บอร์ด กกท. ที่มีพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นประธานกรรมการ เพื่อขอ (แค่) ความเห็นชอบก็จะได้รองผู้ว่าการ กกท.มาทำงาน เพื่อให้จบกระบวนการแต่อย่างใด…และวันนี้ ก็เลยยังไม่มีรองผู้ว่าการ กกท.คนใหม่ …

แต่งตั้งรองผู้ว่าการ กกท.2 ตำแหน่งไม่ได้ข้อยุติ เส้นทางที่ชาวหัวหมากซึ่งคุมเกมเองไม่ได้ ก็คงทำได้แค่…ต้องทนได้และทนต่อไป Read More »

ชาวมวยไทยดีใจเก้อ กับรางวัลศิลปินแห่งชาติ สาขามวยไทย เพราะ 1 ปีผ่านไปยัง “ไร้ความหวัง” ที่จะเห็น

1ปีเต็มๆ ที่ผ่านมา มีข่าวสารที่น่ายินดี “1ข่าว” คือความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการผลักดันให้ “บุคลากรกีฬามวยไทย” ให้เข้าสู่การเป็นศิลปินแห่งชาติสาขาหนึ่ง เสมือนศิลปินแห่งชาติ สาขาอื่น ๆ ที่กระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งเป็นเจ้าของงานนี้ เมื่อมีการเรียกร้องกันถึงเจ้าของงานเมื่อปีที่ผ่านมา ทางกระทรวงวัฒนธรรม โดยท่าน อิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการฯ รับข้อเสนอจากคณะกรรมาธิการการกีฬา สภาผู้แทนราษฏร ที่มีท่าน บุญลือ ประเสริฐโสภา เป็นประธาน ซึ่งได้เสนอไปยังกระทรวงวัฒนธรรมให้พิจารณา และก็ทันที เมื่อ “รมว.อิทธิพล” ได้นำเรื่องที่เสนอด้วยเหตุผลต่าง ๆ นานา เข้าสู่การประชุมคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติครั้งที่ 3/2564 เมื่อ 19 ส.ค.2564 โดยที่ประชุมนั้นมีมติ 2 ข้อ และได้ตอบกลับมายัง “ประธานบุญลือ” ว่ากันชัด ๆ คือ ข้อ 1.ยินดีที่จะดำเนินงานในการยกย่องบุคคลจากวงการมวยไทยให้เป็น “ศิลปินแห่งชาติ”  ข้อ 2.ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ช่วยดูแลเรื่องสวัสดิการและประโยชน์ตอบแทนของผู้ที่จะได้เป็น ศิลปินแห่งชาติในสาขานี้ ให้เป็นไปในหลักเกณฑ์เช่นเดียวกันกับศิลปินแห่งชาติสาขาอื่น ๆ ที่กระทรวงวัฒนธรรมได้ ได้ดูแลในทุกสาขา …

ชาวมวยไทยดีใจเก้อ กับรางวัลศิลปินแห่งชาติ สาขามวยไทย เพราะ 1 ปีผ่านไปยัง “ไร้ความหวัง” ที่จะเห็น Read More »

เมื่อ “บิ๊กป้อม” บัญชา-ประกาศิตเอง ให้เคลียร์เงินค้างท่อ ค้างจ่าย กกท.ที่ผิดพลาดมาตลอด ก็จำต้องวิ่งไล่ล่า “7-15 ก.ย.นี้” จับตาการสะสางปัญหา ได้หรือไม่!!!

  จากที่ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะประธานกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย (บอร์ด กกท.) ได้บัญชา เรื่องให้แก้ปัญหาลูกหนี้เงินยืมคงค้างของ กกท./ เงินค้างจ่าย/ รายได้ค้างรับ ที่มีสั่งสมค้างเติ่งมาเป็นระยะเวลายาวนาน โดยปัญหานี้ที่ต้องบัญชาให้ กกท.จัดการเพราะคำท้วงติงมาจากสำนักงานคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง. และคงเป็นความกังขาของผู้เกี่ยวข้องด้วยว่า “ปัญหานี้ค้างกันได้อย่างไรและทำไม กกท.ต้องโดนสั่งทั้งที่ควรเป็นหน้าที่” โดยสรุปก็คือเงินที่สมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย มีการยืมทดรองจ่ายไปค้างนาน รวม ๆ มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2552 และจนถึงปัจจุบัน ง่าย ๆ คือ “ยืมเงินไปแล้วไม่เคลียร์คืน” นอกนั้นก็เงินค้างจ่ายที่ กกท.อนุมัติโครงการให้สมาคมกีฬาฯแล้วแต่ไม่มาเคลียร์ในหลาย ๆ ปีต่อมา “ได้เงินแล้วไม่จัดการ”  รวม ๆ แค่ 2 ส่วนนี้ก็ “ร้อยกว่าล้านบาท” นี่คือประเด็นที่ต้องสะสาง “ตามบัญชาหรือประกาศิต” บิ๊กป้อม ทำไมปล่อยให้ค้างนานขนาดนั้น “นี่คือความสิ่งที่ทุกคนกังขา” คำตอบที่หนีไม่พ้นสรุปง่าย ๆ คือ กระบวนการที่ผิดนี้เป็นเรื่องของ กกท.ทั้งมวล ที่ต้องรับผิด ไม่ว่าจะเป็นยุคเก่า ๆ …

เมื่อ “บิ๊กป้อม” บัญชา-ประกาศิตเอง ให้เคลียร์เงินค้างท่อ ค้างจ่าย กกท.ที่ผิดพลาดมาตลอด ก็จำต้องวิ่งไล่ล่า “7-15 ก.ย.นี้” จับตาการสะสางปัญหา ได้หรือไม่!!! Read More »

คำสัญญาเมื่อ 4 ปีก่อนของ “ดร.ก้องศักด” ต่อคนวงการกีฬา ที่จะทำ 12 โปรเจกต์ให้บังเกิด วันนี้ถึงไหนแล้ว…เชื่อว่าคนที่เชียร์และอยากเห็น คงยังไม่ลืม

เดือนกันยายนนี้ คาดว่าคงจะเป็นเดือนที่ การต่อวาระการทำงานของตำแหน่งผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย จะเสร็จสิ้นกระบวนการสุดท้ายคือการรับทราบ-เห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีตามที่คณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย (บอร์ด กกท.) ได้เสนอ หลังจากผ่านการพิจารณา การต่อวาระให้กับผู้ว่าการการกีฬาคนเดิมคือ ดรก้องศักด ยอดมณี ให้ทำงานต่อไปอีก 4  ปี ในบอร์ด กกท.เมื่อเดือน  ก.พ.ที่ผ่านมา                 ถ้าหากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงแบบฟ้าผ่าจริง ๆ “ดร.ก้องศักด ยอดมณี” จะเป็นผู้ว่าการคนที่ 2 ที่ได้นั่งตำแหน่งนี้ต่อเนื่องในเดือนตุลาคมที่จะถึง                 Station THAI : นำกลับไปย้อนดูเมื่อ 4 ปีก่อนที่ “ผู้ว่าก้อง” ได้ให้สัญญาไว้ ทันทีที่ได้นั่งในตำแหน่งผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทสไทยในช่วงต้นๆ สมัยแรก ที่ให้พันธะสัญญาว่า จะเดิน 12 โปรเจกต์ หรือ โครงการนี้ให้ได้…ทั้งหมดนั้นประกอบด้วย โครงการยกระดับการให้บริการของ กกท. (Smart National Sports Park) จัดตั้งศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติ หรือ National Training Center (NTC) ที่มีขนาดใหญ่และทันสมัยที่สุด …

คำสัญญาเมื่อ 4 ปีก่อนของ “ดร.ก้องศักด” ต่อคนวงการกีฬา ที่จะทำ 12 โปรเจกต์ให้บังเกิด วันนี้ถึงไหนแล้ว…เชื่อว่าคนที่เชียร์และอยากเห็น คงยังไม่ลืม Read More »

จากบทเรียนการเลือกตั้งผู้นำสมาคมกีฬา ที่การคัดกรองผู้เลือกอ่อนแอจนเอื้อให้เกิดความไม่สง่างาม จึงต้องตามติดว่า กกท.จะมีมาตรการแก้ไขอย่างไร

ในวาระการประชุมใหญ่ของสมาคมกีฬาต่าง ๆ ที่จะมีการเลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาคนใหม่ ถือเป็นเรื่องสำคัญ บางสมาคมกีฬาก็แทบจะหาคนมานั่งทำงานนายกไม่ได้ แต่บางสมาคมกีฬาตำแหน่งนายกฯก็เป็นที่ถวิลหา มีผู้เสนอตัวมากกว่า 1 คน ซึ่งผู้ที่สนใจจะสมัครต้องหาเสียง หาพวกจากสมาชิกที่มีสิทธิในการออกเสียงเพื่อให้มาเลือกตัวเอง นั่นคือวิถีทางของ “ชาวกีฬา” ที่การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) กำกับดูแล ตามพระราชบัญญัติการกีฬาแห่งประเทศไทยให้อำนาจไว้ Station-THAI ติดตามเรื่องราวการเลือกตั้งนายกสมาคมของสมาคมกีฬาโดยเฉพาะสมาคมที่เป็นแห่งประเทศไทย สิ่งที่พบว่ายังเป็นความคลุมเครือมากที่สุดคือ เรื่องของผู้มีสิทธิออกเสียงได้ในการเลือกตั้งได้ นั่นคือสมาชิกของแต่ละสมาคมกีฬานั้น ๆ ซึ่งมีระเบียบ ข้อบังคับของสมาคมกีฬานั้น ๆ ที่แตกต่างกันไป แต่ก็มีจุดสำคัญที่เหมือน ๆ กัน ในการกำหนดคุณสมบัติสมาชิก การเป็นสมาชิก และการพ้นสภาพการเป็นสมาชิก ที่สมาคมแต่ละแห่งระบุคล้าย ๆ กัน เช่น สมาชิกนั้นต้องมีส่วนร่วมในกิจกรรมของสมาคมกีฬาในช่วงเวลาที่กำหนด มีการเสียค่าสมาชิก หรือการให้ความร่วมมือกับสมาคมกีฬานั้น ๆ ต่อเนื่อง และหากว่าสมาชิกนั้นไม่ทำตามระเบียบข้อบังคับของสมาคม “สมาชิกนั้นจะพ้นสภาพ” และจะไม่ได้รับสิทธิใด ๆ ในการร่วมกิจกรรมของสมาคม แม้แต่ การออกเสียงเลือกตั้ง นั่นคือกระบวนการที่การกีฬาแห่งประเทศไทย ในฐานะผู้ที่กำกับดูแล มอบให้แต่ละสมาคมจัดการดูแลกันตามระเบียบข้อบังคับของสมาคม ที่สมาคมเป็นผู้สร้างข้อตกลงนี้ขึ้นมาในกลุ่ม โดยทั่วไป “นายทะเบียนสมาคม” …

จากบทเรียนการเลือกตั้งผู้นำสมาคมกีฬา ที่การคัดกรองผู้เลือกอ่อนแอจนเอื้อให้เกิดความไม่สง่างาม จึงต้องตามติดว่า กกท.จะมีมาตรการแก้ไขอย่างไร Read More »

สมาคมกีฬาคือกลไกการนำวิทยาศาสตร์การกีฬาไปใช้ที่สำคัญ วันนี้ผู้นำ ผู้ฝึกสอน ควรพิจารณาประโยชน์อย่างเข้าใจและเชื่อมั่น

บิ๊กกีฬาระดับชาติให้ความสำคัญกับวิทยาศาสตร์การกีฬา ที่จำเป็นต้องนำลงสู่วงการกีฬาให้มากขึ้นและมากที่สุด ก็เป็นโอกาสดีที่ได้มีโอกาสพูดคุยกับกูรูหลาย ๆ ท่านทางด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา ซึ่งท่านเหล่านี้ที่ต้องเรียกว่าระดับเกรดเอ.ของศาสตร์ด้านนี้ของไทยและของระดับโลกด้วยซ้ำไป 3 ท่าน ก็ได้ข้อสรุปและนำมาถ่ายทอดง่าย ๆ (ด้วยตัวเอง) ว่า ทำไมวิทยาศาสตร์การกีฬายังไม่เข้าไปเป็นเนื้อเดียวกันกับวงการกีฬา เป็นข้อๆ ดังนี้ครับ 1.ผู้นำสมาคมไม่ให้ความสำคัญ…เริ่มต้นจากผู้นำสมาคมกีฬาหรือนายกสมาคมกีฬาพร้อมทั้งฝ่ายบริหารของสมาคมกีฬา ไม่ว่าจะเป็นสมาคม ชมรมระดับใดๆ ก็ตามยังไม่มีความเข้าใจในการใช้ประโยชน์จากศาสตร์แห่งวิทยาศาสตร์การกีฬา จึงไม่ได้มุ่งเน้นหรือกำหนดการนำมาให้ทีมงานในสมาคมกีฬาปฏิบัติอย่างชัดเจน 2.ผู้ปฏิบัติไม่เปิดรับศาสตร์ใหม่ๆ….ผู้ฝึกสอนหรือหัวหน้าสตาฟฟ์ทำงาน ที่จะเรียกเป็นอย่างก็ตามซึ่งเป็นผู้ปฏิบัติ ไม่มีความทันสมัยกับศาสตร์นี้ นั่นอาจจะรวมถึง ใจที่อาจจะยังไม่เปิดรับด้วยความคิดเก่า ๆ ที่เคยปฏิบัติมามองว่าตัวเองรู้แล้วและมีความสามารถด้านการนำวิทยาศาสตร์การกีฬาแล้วจึงไม่เปิดรับศาสตร์ทางด้านนี้ใหม่ๆ ที่มีความทันสมัยไปใช้ ใช้แค่ฐานความรู้เก่านำปฏิบัติต่อๆ ไป เนื่องจากไม่รู้ ขี้เกียจหรือไม่ยอมรับว่าศาสตร์ทางวิทยาศาสตร์การกีฬานั้นมีการพัฒนาตลอด มีศาสตร์และความรู้ใหม่เกิดขึ้นเสมอ 3.ผู้ปฏิบัติเปิดรับแต่ยังใช้ไม่เป็น….ผู้ฝึกสอนหรือสตาฟฟ์ มีความสนใจในการเรียนรู้และนำวิทยาศาสตร์การกีฬาที่ทันสมัยไปใช้ แต่ไม่เข้าใจศาสตร์เบื้องลึกของการนำไปใช้ที่ซ่อนอยู่อย่างแท้จริง ตัวอย่างเช่นการเรียนรู้แบบฝึกแล้วนำไปใช้โดยรวมทั้งทีม แต่ไม่ได้คำนวณถึงความเหมาะสมที่จะนำไปใช้กับนักกีฬาแต่ละคน ซึ่งแต่ละรูปแบบหรือวิธีการใช้ของนักกีฬาแต่ละคนก็มีความแตกต่างกัน รูปแบบการใช้จึงต้องแตกต่างกันในแต่ละคน 4.ทำไมผู้ฝึกสอนควรต้องใช้…คือ นอกเหนือจากประโยชน์ต่อทีมดังที่กล่าวมาแล้วนั้นการที่ผู้ฝึกสอนนำวิทยาศาสตร์การกีฬาที่แท้จริงมาใช้ด้วยการให้ความสำคัญนั้น เมื่อนักกีฬาระดับชาติได้เรียนรู้และเข้าใจอย่างถ่องแท้แล้ว หากต่อไปเขาพ้นวาระรับใช้ชาติและออกไปเป็นผู้ฝึกสอนตามระดับและโอกาสต่าง ๆ เขาก็จะได้นำความความรู้จากเชื่อถือ ความมั่นใจในศาสตร์นี้ไปถ่ายทอดต่อๆ ไป ก็จะถือเป็นการเรียนรู้และต่อยอดสิ่งที่ดีกระจายต่อๆกันไป 5.นำวิทยาศาสตร์การกีฬาสู่รากหญ้า…กูรูด้านนี้ ได้เปิดใจว่าเรื่องของวิทยาศาสตร์การกีฬา กับนักกีฬา เป็นเรื่องที่ใกล้ตัวมาก การที่การกีฬาแห่งประเทศไทย หรือหน่วยงานองค์กรกีฬาอื่น …

สมาคมกีฬาคือกลไกการนำวิทยาศาสตร์การกีฬาไปใช้ที่สำคัญ วันนี้ผู้นำ ผู้ฝึกสอน ควรพิจารณาประโยชน์อย่างเข้าใจและเชื่อมั่น Read More »

สมาคมช่างเหมาไฟฟ้าและเครื่องกลไทย ลุยนำองค์ความรู้ลงสู่ชุมชน ร่วมสร้างงานให้ เพื่อได้ไปสู่การพัฒนา

นวัตกรรมขุมชน จากรากหญ้า สู่องค์ความรู้ระดับชาติ ผลงาน CSV นายกสมาคมช่างเหมาไฟฟ้าและเครื่องกลไทย TEMCA เมื่อสังคมต้องการความช่วยเหลือ คุณบุญศักดิ์ เกียรติจรูญเลิศ นายกสมาคมช่างเหมาไฟฟ้าและเครื่องกลไทย TEMCA และในฐานนายกสมาคมศิษย์เก่าสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ไม่รอช้าที่จะนำองค์ความรู้มาต่อยอด และส่งต่อให้กับชุมชนตามแนวคิด  CSV (Creating Shared Value) ลงสู่สังคม เพื่อพัฒนาความยั่งยืนให้กับชุมชน ด้วยการจับมือกันก้าวผ่านวิกฤตเศรษฐกิจด้วยงานวิศกรรมฯ งานระบบ ต่อยอดเทคโนโลยี ยกระดับชุมชนให้สามารถยืนหยัดด้วยตนเอง

You cannot copy content of this page

error: Content is protected !!