สถานีความคิด

รมต.กีฬา สั่งกกท.เคลียร์ข้อครหาใช้เงิน-โอลิมปิคไทยเกินหน้าที่-ไม่มีการประชุมฝ่ายจัด-ฝ่ายกีฬาถูกตัดดิ้นพล่าน แต่ยังไง’เอเชียนอินดอร์เกมส์’ไทยก็น่าจะได้จัด เพราะรัฐยืนยัน และทั้งงาน แล้วก็ผลประโยชน์เดินหน้าแล้ว

#ที่มาของเรื่อง      การที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเอเชียนอินดอร์และมาเชี่ยลอาร์ทเกมส์ครั้งที่ 6      -ไทยลงนามกับสภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย (OCA) เพื่อรับเป็นเจ้าภาพอย่างเป็นทางการ วันที่ 23 เม.ย.2563      -ไทยเลื่อนมา 4 ครั้ง จากเดิมที่กำหนดจะจัด 21-30 พ.ค.2564 และเจอปัญหาโควิด และปัญหาต่าง ๆ จนกระทั่งสุดท้าย ขอเลื่อนครั้งที่ 4 ที่มติคณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ เมื่อ 23 เม.ย.2567 ซึ่งกำหนดจะจัดเป็น 21-30 พ.ย.2567 #เรื่องเงินค่าใช้จ่ายในการจัดการแข่งขัน      -คณะรัฐมนตรีมีมติ เมื่อวันที่ 24 ต.ค.2566 เห็นชอบในกรอบวงเงินค่าใช้จ่ายในการเป็นเจ้าภาพ 1,745,002,552 บาท โดยให้การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ใช้จ่ายจาก 1. เงินนอกงบประมาณ 1,207,011,276 บาท เงินสะสมของ กกท.250,000,000 บาท เงินกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ …

รมต.กีฬา สั่งกกท.เคลียร์ข้อครหาใช้เงิน-โอลิมปิคไทยเกินหน้าที่-ไม่มีการประชุมฝ่ายจัด-ฝ่ายกีฬาถูกตัดดิ้นพล่าน แต่ยังไง’เอเชียนอินดอร์เกมส์’ไทยก็น่าจะได้จัด เพราะรัฐยืนยัน และทั้งงาน แล้วก็ผลประโยชน์เดินหน้าแล้ว Read More »

สัมผัสแรกของ “สุริยะ-เสริมศักดิ์” กับการนำพา บอร์ด กกท.และบอร์ดกองทุนกีฬา 6 มิ.ย.2567 นี้ ที่ต้องจับตาดูศักยภาพผู้มาใหม่

     วันที่ 6 มิ.ย.2567 นี้ต้องถือเป็นครั้งแรกอย่างเป็นทางการ หลังจากที่มีการเปลี่ยนแปลงในฝ่ายบริหารรัฐบาล ที่จะมีการนับ 1 ในการประชุม คณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย (บอร์ด กกท.) และ คณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ “บอร์ดกองทุนกีฬา” ในวันเดียวกัน      โดย รองนายกรัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี คือ ท่านรองนายกฯ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ในฐานะประธานทั้ง2 บอร์ด ที่ถือเป็นกลไกสำคัญของวงการกีฬา จะนั่งเป็นหัวโต๊ะทั้ง 2 บอร์ด เป็นครั้งแรก หลังได้รับมอบหมายมา ขณะที่ท่านรัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช ก็จะนั่งในฐานะรองประธานทั้ง 2 บอร์ด เป็นครั้งแรกเช่นกัน      นี่คือการเข้ามาใหม่ของฝ่ายบริหารรัฐบาลในตำแหน่งใหญ่ แทน 2 ท่านเก่าจากพรรคเพื่อไทยด้วยกัน ที่ผ่านไปซึ่งสรุปผลงานได้ง่ายมาก คือ “ไม่ปรากฏผลงานที่เป็นรูปธรรมเลย”      ในนามสื่อ Station THAI เอ่ยถึงวันนี้ เพื่อย้ำฝากถึงประธาน 2 บอร์ด ว่า …

สัมผัสแรกของ “สุริยะ-เสริมศักดิ์” กับการนำพา บอร์ด กกท.และบอร์ดกองทุนกีฬา 6 มิ.ย.2567 นี้ ที่ต้องจับตาดูศักยภาพผู้มาใหม่ Read More »

มีของฝากถึง “รองปานปรีย์” และ “รมต.สุดาวรรณ” เพื่อพิจารณา เรื่องปัญหา ของเงินกองทุนกีฬา กับปัญหา ในมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ

      ปฐมบทของรัฐบาลชุดใหม่ นี้ เริ่มต้นในการบริหารงานอย่างเป็นทางการ วันที่ 1 กันยายน 2566 เมื่อถึงวันนี้ (18 ก.พ.2567) ก็จะ 6 เดือนแล้ว กับการทำหน้าที่ ในกระทรวงต่าง ๆ       ในวงการกีฬาคงโฟกัสง่าย ๆ ไปที่ รองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลกีฬา นายปานปรีย์ พหิทธานุกร และ นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่ถือเป็นฝ่ายบริหารสูงสุดใน “องคาพยพชาวกีฬาไทย”       กับการทำหน้าที่ดูแล “การบริหารจัดการทั้งหมด”       ภาพที่เห็นที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่า ทั้งโดยหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับกีฬา และ ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารด้านอื่น ๆ ที่ได้รับควบคู่กับกีฬานั้น ทั้ง 2 ท่าน ที่มาจากพรรคเพื่อไทย มีมากจริง ๆ …

มีของฝากถึง “รองปานปรีย์” และ “รมต.สุดาวรรณ” เพื่อพิจารณา เรื่องปัญหา ของเงินกองทุนกีฬา กับปัญหา ในมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ Read More »

กับประเด็นที่มีนักกีฬาทีมชาติ บ่นระทมใจ เพราะมีเงินเดือนน้อยกว่าผู้ใช้แรงงานขั้นต่ำเสียอีก…ที่นี่มีคำตอบ และ มีทางออกให้ครับ

     เรื่องไม่ร้อนมาก กับประเด็นเรื่องเงินเดือนนักกีฬา ที่มีอดีตนักกีฬาทีมชาติ และนักกีฬาปัจจุบันออกมาพูดถึง ดั่งน้อยอกน้อยใจว่า เงินเดือนน้อยกว่า คนงานที่ได้ค่าจ้างขั้นต่ำรายวันที่จะได้ต่อเดือนอีก      “ไม่รู้จริงหรือ ไม่เข้าใจ หรือมีวาระอะไรซ่อนเร้นไม่รู้”      แต่ขอเล่าถึง “เรื่องเงินเดือนนักกีฬาก่อน”      สรุปเริ่มต้นก่อนเลยเรื่องเงินเดือนนักกีฬาไม่เคยมีครับ      เพราะวงการกีฬาไทย นักกีฬาสมัครเล่น หรือ กีฬาเพื่อความเป็นเลิศนั้น เขาไม่มีการให้เงินเดือนเลย ตั้งแต่ไหนแต่ไรมา ในส่วนของนักกีฬาของสมาคมกีฬาต่าง ๆ ทั้งที่เป็นสมาคมกีฬาซึ่งลงท้ายด้วยแห่งประเทศไทย ของนักกีฬาปกติ และ นักกีฬาคนพิการ      และขอสรุปง่าย ๆ ต่ออีกก็คือ…เงินที่เกี่ยวข้องกับนักกีฬาทีมชาติ จะมีก็แต่เป็นเบี้ยเลี้ยง ค่าอาหาร ค่าที่พัก (ซึ่งให้เป็นรายหัว ต่อวัน) และ อีกส่วนคือ เงินรางวัลหากว่ามีผลงานตามเกณฑ์ที่กำหนด ซึ่งทุกบาททุกเม็ดนั้นมาจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ที่จัดให้      ซึ่งการจ่ายเบี้ยเลี้ยง-ค่าอาหาร-ค่าที่พัก นั้นก็จะแบ่งเป็น 2 …

กับประเด็นที่มีนักกีฬาทีมชาติ บ่นระทมใจ เพราะมีเงินเดือนน้อยกว่าผู้ใช้แรงงานขั้นต่ำเสียอีก…ที่นี่มีคำตอบ และ มีทางออกให้ครับ Read More »

บทสะท้อนจากความห่วงใยและสงสัย ต่อสมาคมมวยสากลกับวิธีคิด “การเปลี่ยนแปลงที่มองไม่เห็นฝั่งฝัน” ในความหวังโอลิมปิกเกมส์ 2024

     มวยสากลสมัครเล่น เป็นกีฬาความหวังสูง ในการแข่งขันกีฬาระดับโอลิมปิกเกมส์ ของไทยในทุก ๆ ครั้ง       “ทีมมวยสากล” ของไทย ในเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่ประเทศจีนที่ผ่านมา ซึ่งถึงแม้จะไร้เหรียญทอง แต่ก็สามารถคว้าโควตา ไปแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2024 ถึง 4 คน 4 รุ่น      ผลงานจากเอเชี่ยนเกมส์ที่ได้โควตาไปโอลิมปิกเกมส์ ถือว่ารับได้บ้างกับผลงาน  แต่มันคงไม่ใช่แค่นั้น เพราะโจทก์ต่อไปของสมาคมกีฬามวยสากล คือการมุ่งไปที่ “ความหวัง” ของวงการกีฬา หรือประเทศ ในการประสบความสำเร็จในโอลิมปิกเกมส์ในปีหน้า ที่กรุงปารีส      แต่ด้วยมุมที่ว่า ขนาดระดับทวีปเอเชียเรายังไม่ถึงเหรียญทอง แล้วโอลิมปิกเกมส์ ที่รวมสุดยอดนักชกแต่ละรุ่น จากแต่ละทวีปนั้น เราจะไปถึงเป้าหมายได้หรือไม่ และควรต้องทำอย่างไร      ทุกคนที่เฝ้าดู เล็งไปที่การปรับปรุงทุกอย่างใน กระบวนการหรือขบวนการทำทีมของ “มวยสากล” ทั้งการวางแนวทางการพัฒนาให้นักชก 4 …

บทสะท้อนจากความห่วงใยและสงสัย ต่อสมาคมมวยสากลกับวิธีคิด “การเปลี่ยนแปลงที่มองไม่เห็นฝั่งฝัน” ในความหวังโอลิมปิกเกมส์ 2024 Read More »

ตอนที่ 42 : การกีฬาคือผู้รักษาสันติภาพ : หนังสืออุดมการณ์โอลิมปิกของคูเบอร์แต็ง : แปลโดย : ดร.นิพัทธ์ อึ้งปกรณ์แก้ว

การกีฬาคือผู้รักษาสันติภาพ             ในช่วงลำบากของการเมืองโลก คูเบอร์แต็งได้เขียนแสดงความเห็นในเรื่องนี้ ตามคำขอจากวารสารลารีวิวสปอร์ตีพอิลัสตรีของเบลเยียม มีการอภิปรายดุเดือดในสหรัฐอเมริกาเกี่ยวกับการไม่เข้าร่วมโอลิมปิกเกมส์ในกรุงเบอร์ลินต่อประเด็นการเข้าร่วมของชาวเยอรมันเชื้อสายยิว ท่านไม่ได้กล่าวเฉพาะเจาะจงในเรื่องดังกล่าวแต่ตีความประเด็นหัวข้อจากมุมมองมานุษยวิทยาตามแบบฉบับตนเองในบทความชื่อ งานเขียนเรื่องจิตวิทยาการกีฬา ตัวแปรหลักสองประการในการควบคุมนักกีฬาเพื่อต่อสู้กับสงครามและสันติภาพคือ กล้ามเนื้อและวินัย             วารสารรีวิวสปอร์ตีพอิลัสตรีซึ่งเป็นมิตรเก่าและน่านับถือได้ขอความเห็นจากข้าพเจ้า “สองสามบรรทัด” สำหรับวารสารฉบับแรกของ ค.ศ.1935 ข้าพเจ้าจะปฏิเสธได้อย่างไร? แต่ผู้อ่านหลายท่านตระหนักดีถึงความยากลำบากเป็นอย่างยิ่งในการสร้างความเข้าใจและจัดเนื้อหาให้เหมาะสมเพียง “สองสามบรรทัด” มากกว่าจะเป็นสิ่งพิมพ์แผ่นพับ และในบางครั้งจะง่ายยิ่งขึ้นด้วยหนังสือเล่มเล็กมากกว่าสิ่งพิมพ์แผ่นพับ             ทั้งนี้ ในบรรดาประเด็นการกีฬาที่เป็นข่าวปัจจุบัน (จำนวนไม่มากในขณะนี้) เรื่องหนึ่งใดที่ข้าพเจ้าเลือกคงต้องการคำสาธยายยืดยาว แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีความจำเป็นที่จะต้องตอบสนองอย่างฉับพลันต่อสัญญาณเตือนภัย ได้รับการหยิบยกขึ้นมาเกี่ยวกับการใช้ความแข็งแกร่งของการกีฬาต่อการสงครามและการปฏิวัติ “ชาติกระหายสงคราม” ในชื่อหนึ่งและ “โลกสากลที่สาม” ในอีกชื่อหนึ่งคือคำกล่าวหาต่อการวางแผนสิ่งเลวร้ายสุดที่เป็นไปได้ซึ่งอยู่ภายใต้กลุ่มองค์กรนักกีฬาที่คุกรุ่นไปได้แรงปรารถนาต่อการล้างเลือดหรือยั่วยุเกลียดชังสังคม             ประเด็นข้างต้นเกี่ยวข้องต่อสองสิ่งคือ กล้ามเนื้อและวินัย เป็นที่แน่นอนว่า ผู้คนที่ผูกพันกับการกีฬาทรงพลังหรือแม้กระทั่งการกีฬาที่รุนแรงจะรักใคร่และเสริมสร้างความเข้มแข็ง แต่ไม่ใช่ว่าพวกเขารักใคร่และเสริมสร้างวินัยอย่างไม่ลืมหูลืมตา ในทางกลับกัน แปดในสิบคนของนักกีฬาเข้มแข็งนั้น เป็นที่พึ่งแห่งตน ตัวอย่างเช่น ความสามารถในการบังคับข้อจำกัดแก่ตนเองเพื่อให้เกิดชัยชนะแก่ทีมตนเองหรือแก่กลุ่มสีของสโมสรตนเอง ข้อจำกัดที่อาจแม้เป็นการปฏิเสธตนเอง สิ่งทั้งปวงนี้เป็นไปตามเงื่อนไขว่า เขารักษาความเป็นนายของตนเองและการเสียสละเพื่อกลุ่มนั้น ก็เป็นไปตามความต้องการของตนเองเพื่อกลุ่มเท่านั้น โดยเหตุดังนั้น หากเยาวชนรักชาติหรือฝักใฝ่ปฏิวัติได้รับการฝึกซ้อมกีฬาอย่างขมักเขม้นและสม่ำเสมอ ย่อมเป็นที่ชัดแจ้งว่า กลุ่มเยาวชนเหล่านี้จะได้รับคุณประโยชน์จากความเพียรของตนเองดังคติพจน์โบราณที่ว่า “ประเทศแข็งแกร่ง พลเมืองกล้าหาญ” (civium vires, …

ตอนที่ 42 : การกีฬาคือผู้รักษาสันติภาพ : หนังสืออุดมการณ์โอลิมปิกของคูเบอร์แต็ง : แปลโดย : ดร.นิพัทธ์ อึ้งปกรณ์แก้ว Read More »

ตอนที่ 41 : ธรรมนูญปฏิรูปการกีฬา : หนังสืออุดมการณ์โอลิมปิกของคูเบอร์แต็ง : แปลโดย : ดร.นิพัทธ์ อึ้งปกรณ์แก้ว

ธรรมนูญปฏิรูปการกีฬา                 วันที่ 13 กันยายน ค.ศ.1930 คูเบอร์แต็ง ในฐานะผู้แทนทางการของรัฐบาลกรีซ ได้กล่าวสุนทรพจน์เพื่อนำเสนอและอธิบายธรรมนูญปฏิรูปการกีฬาของตนเองแก่สมาคมแห่งชาติในกรุงเจนีวา                 ท่านได้รับการสนับสนุนในเรื่องนี้จากสหายชาวกรีกคือ โจอานิส คริสซาฟิส ผู้อำนวยการการพลศึกษา กระทรวงวัฒนธรรมกรีซ และเป็นหนึ่งในสมาชิกขันแข็งจำนวนน้อยของสำนักการพลศึกษาและสหภาพการสอนนานาชาติที่ริเริ่มโดยคูเบอร์แต็งใน ค.ศ.1926                 คูเบอร์แต็งอธิบายว่า วันนี้คือช่วงสำคัญของประวัติศาสตร์การกีฬา การจัดพิมพ์ฉบับพิเศษได้รับการเผยแพร่ในภาษาเยอรมัน อังกฤษ ฝรั่งเศส สเปนและอิตาลี เพื่อทำให้ธรรมนูญการกีฬาเป็นที่แพร่หลายทั่วโลก นอกจากนี้ ยังมีการจัดพิมพ์รูปแบบโปสเตอร์ไว้ที่สถานที่จัดแสดงในเมืองบอนน์ภายหลังจากนั้นไม่นาน เป็นต้น                 คำคัดค้านต่อต้านการกีฬาอาจแบ่งเป็นสามกลุ่ม ดังนี้                 การกีฬา บังคับและทรมานร่างกายมากเกินควร                 การกีฬา บั่นทอนสติปัญญา                 การกีฬา เผยแพร่จิตวิญญาณการค้าและบ่มเพาะความรักต่อเงินตรา                 เป็นไปไม่ได้ที่จะปฏิเสธการดำรงอยู่ของภูติผีปีศาจเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม ความรับผิดชอบไม่ได้ตกอยู่ที่การกีฬาแต่ประการใด ผู้กระทำผิดคือ พ่อแม่ ครูใหญ่ พนักงานรัฐ …

ตอนที่ 41 : ธรรมนูญปฏิรูปการกีฬา : หนังสืออุดมการณ์โอลิมปิกของคูเบอร์แต็ง : แปลโดย : ดร.นิพัทธ์ อึ้งปกรณ์แก้ว Read More »

ตอนที่ 40 : จดหมายเปิดผนึกถึง มร.ฟรานท์ซ-ไฮเคล : หนังสืออุดมการณ์โอลิมปิกของคูเบอร์แต็ง : แปลโดย : ดร.นิพัทธ์ อึ้งปกรณ์แก้ว

            ภายหลังการลาจากคณะกรรมการโอลิมปิกนานาชาติ คูเบอร์แต็งได้ทุ่มเทตนเองอย่างเต็มที่แก่งานปฏิรูปการศึกษา ในเรื่องนี้ ท่านมีความกังวลโดยเฉพาะต่อการศึกษาผู้ใหญ่ซึ่งได้รับความสำคัญในประเทศอื่นของยุโรปเช่น แผนการศึกษาผู้ใหญ่ช่วงเย็นในทศวรรษ 1920 คูเบอร์แต็งไม่มีมายาคติเกี่ยวกับการนำแผนงานไปปฏิบัติ จึงพยายามด้วยวิธีนี้ในการร้องขอความช่วยเหลือจากมิตรสหายเก่าจากกองทัพในฝรั่งเศส บุคคลเหล่านี้รวมถึง มร.ฟรานท์ซ–ไฮเคล เลขาธิการของเจ้าภาพโอลิมปิกเกมส์ 1924 โดยคูเบอร์แต็งขอให้ มร.ไฮเคล ยื่นมือช่วยเหลือต่อแผนงานโรงยิมกีฬาชุมชนในฝรั่งเศส เพื่อมอบโอกาสแก่ผู้ใช้แรงงานให้สามารถเข้าถึงการกีฬาในการสร้างเสริมสุขพลานามัยและสุขภาวะ             สหายที่รัก             เมื่อท่านหวนระลึกถึงความทรงจำร่วมกันของพวกเรา ในฐานะผู้นำการกีฬาศึกษาของฝรั่งเศส นับเป็นเวลาสี่สิบปีสำหรับตัวข้าพเจ้าและในไม่ช้าสำหรับท่าน ข้าพเจ้าไม่ทราบว่าท่านพึงพอใจในผลงานที่เกิดขึ้นหรือไม่ สำหรับข้าพเจ้า ยังไม่พอใจนัก ความสว่างไสวของโอลิมปิกเกมส์ไม่ได้ปิดตาข้าพเจ้าแม้แต่น้อย โอลิมปิกเกมส์มีเป้าหมายที่อภิสิทธิ์ชนอย่างแน่นอนเนื่องเพราะเป้าหมายคือการสรรเสริญและยกย่องบรรดาเหล่านักกีฬาที่พละกำลังพิเศษจะจุดประกายความทะเยอทะยานและการลอกเลียนแบบซึ่งจำเป็นต่อการรักษาไว้ซึ่งกิจกรรมกีฬามวลชน อย่างไรก็ตาม ในทางตรงข้ามกับอภิสิทธิ์ชน ยังมีมวลชนซึ่งรวมถึงบุคคลทั้งปวงที่เล่นกีฬาแต่ไม่ต้องการความเป็นเลิศแต่ประการใด ในบรรดาคนเหล่านี้ แม้จะมีพัฒนาการใหญ่หลวงในด้านทักษะการเล่นกีฬาแต่ความแข็งแกร่งด้านปริมาณยังอ่อนแอมาก จำนวนร้อยละของนักกีฬาแท้จริงในประชากรเป็นเศษเสี้ยว การโอ่และประชาสัมพันธ์กลบเกลื่อนสถานการณ์จริงไว้ การหวดของสื่อมวลชนและสายธารของการแข่งขันชิงแชมป์ทำให้สาธารณชนหลงทิศผิดทาง ประเทศยังไม่มีความเป็นกีฬาจริงแท้จนกระทั่งพลเมืองส่วนใหญ่รู้สึกถึงความจำเป็นของการกีฬาในวันหนึ่ง หากใช้เกณฑ์ตัดสินนี้ ข้าพเจ้าไม่ทราบว่า กระทั่งอเมริกาจะใช่ชาติกีฬาหรือไม่ หากผู้คนทั้งปวงที่พูดถีงการกีฬาถูกบังคับไม่ให้พูดในวันพรุ่งนี้แล้ว ผู้คนที่เล่นกีฬาคงจะดูเหมือนกลุ่มคนที่กลายเป็นจุดทศนิยมไป             หากจะกล่าวถึงเฉพาะฝรั่งเศส สถานการณ์เป็นเช่นนี้ เพราะว่า พวกเราสนับสนุนการกีฬาเยาวชนและทีมมากเกินควรจนเกิดความเสียหายต่อผลประโยชน์หลักในมุมมองชาติพันธุ์ ข้าพเจ้าหมายถึง ปัจเจกชนผู้ใหญ่ สุขอนามัยจะมีความหมายอย่างไรหากพวกเราจัดเตรียมสถานที่ชำระร่างกายเพียงแก่เด็กและผู้ใหญ่จะต้องจัดทีมเพื่อให้ได้รับบริการนั้น? …

ตอนที่ 40 : จดหมายเปิดผนึกถึง มร.ฟรานท์ซ-ไฮเคล : หนังสืออุดมการณ์โอลิมปิกของคูเบอร์แต็ง : แปลโดย : ดร.นิพัทธ์ อึ้งปกรณ์แก้ว Read More »

ตอนที่ 39 : การปฏิรูปและความแพร่หลายของการศึกษาประวัติศาสตร์: ลักษณะและผลที่เกิดขึ้น : หนังสืออุดมการณ์โอลิมปิกของคูเบอร์แต็ง : แปลโดย : ดร.นิพัทธ์ อึ้งปกรณ์แก้ว

การปฏิรูปและความแพร่หลายของการศึกษาประวัติศาสตร์: ลักษณะและผลที่เกิดขึ้น             ณ ที่ประชุมของสถาบันวิทยาการเอเธนส์ ค.ศ.1927 คูเบอร์แต็งเน้นย้ำความจำเป็นต่อการศึกษาประวัติศาสตร์โลกด้วยวิธีการคือ “ประการแรก พวกเราต้องใช้มุมมองแบบปริซึมแก่มนุษย์และวัตถุทั้งหลาย ประการที่สอง พวกเราต้องปรับแนวคิดจาก ‘สาเหตุ’ ให้เป็น ‘สมการ” ในตอนที่สองของสุนทรพจน์นั้น คูเบอร์แต็งกล่าวถึงผลทางการเมืองจากการใช้ประโยชน์ด้านประวัติศาสตร์ว่า “ประวัติศาสตร์จะปกป้องสันติภาพสากล…ประวัติศาสตร์ยังคงทำได้มากขึ้นต่อสันติสุขสังคมในปัจจุบัน” ทั้งนี้ ท่านแสดงสิ่งได้เรียนรู้จากอาจารย์ทั้งสองคือ อัลเบิร์ต โซเรล และ พอล เลอรอย-บูลิว ที่มหาวิทยาลัยรัฐศาสตร์             ท่านประธานและสมาชิกของสถาบัน             นับเป็นเกียรติสูงส่งที่ได้กล่าวในสถานที่โด่งดังเช่นนี้ซึ่งเป็นเกียรติยิ่งขึ้นโดยการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากท่านทั้งหลาย วานก่อน กรุงเอเธนส์ให้เกียรติข้าพเจ้าด้วยการรื้อฟื้นหนึ่งในประเพณีที่ถือเป็นความภาคภูมิสูงสุดของเมืองโบราณ ในวันนี้ ตามรอบปีโอลิมปิกที่ข้าพเจ้าได้พยายามจะฟื้นฟูจิตวิญญาณ นับเป็นความโชคดีของข้าพเจ้าที่จะเสนอผลงานวิชาการบริสุทธิ์แก่ทุกท่านซึ่งได้รวบรวมและแต่งขึ้นในระหว่างเวลาว่างที่ตำแหน่งประธานคณะกรรมการโอลิมปิกพอจะมีให้แก่ข้าพเจ้า เพื่อทำให้ทุกสิ่งรายล้อมข้าพเจ้ามีความเป็นกรีกเท่าที่จะเป็นไปได้ ข้าพเจ้าต้องวิพากษ์งานตนเองในที่นี้ตามแนวคิดที่โด่งดังของโซเครตีสซึ่งยังคงเป็นพื้นฐานของปรัชญาทั้งปวงที่พวกเรากำลังกล่าวถึงในปัจจุบันที่มหาวิทยาลัยเนื่องเพราะเป็นการปฏิรูปและพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งเหตุผลของมนุษย์ ตอนที่หนึ่ง             ท่านสุภาพชน ประการแรก ข้าพเจ้าเสนอให้เขียนประวัติศาสตร์โลกด้วยการใช้ประโยชน์ในทุกโอกาสเพื่อให้งานลุล่วง ข้อเท็จจริงที่ว่า สิ่งต่างๆในปัจจุบันมีลักษณะเปลี่ยนแปลงนั้น ดูเหมือนจะเป็นการยืนยันที่ไม่ถูกต้องนัก โดยหากท่านติดตามใกล้ชิด การตรวจสอบข้อเท็จจริงจะยืนยันในสิ่งที่ข้าพเจ้ากล่าวข้างต้น เพื่อให้เกิดประโยชน์ การศึกษาประวัติศาสตร์โลกจำต้องมีข้อมูลสมบูรณ์และแม่นยำทั้งสถานที่และเวลาซึ่งความคิดสามารถสืบค้นกลับไปได้ตลอดเวลา สะดวกและง่าย เงื่อนไขเหล่านี้เพิ่งมีความพร้อมสรรพไม่นานมานี้ …

ตอนที่ 39 : การปฏิรูปและความแพร่หลายของการศึกษาประวัติศาสตร์: ลักษณะและผลที่เกิดขึ้น : หนังสืออุดมการณ์โอลิมปิกของคูเบอร์แต็ง : แปลโดย : ดร.นิพัทธ์ อึ้งปกรณ์แก้ว Read More »

ตอนที่ 38 : การกีฬาคือพระราชา : หนังสืออุดมการณ์โอลิมปิกของคูเบอร์แต็ง : แปลโดย : ดร.นิพัทธ์ อึ้งปกรณ์แก้ว

การกีฬาคือพระราชา             คูเบอร์แต็งใช้การเปิดสมัยประชุมสมัชชาที่ 19 ของคณะกรรมการโอลิมปิกนานาชาติ ค.ศ.1920 ในการนำเสนอแก่กษัตริย์เบลเยียมเพื่อพิจารณาความสำคัญเร่งด่วนของการกีฬาภายใต้คำขวัญ “การกีฬาคือพระราชา”             สุนทรพจน์ประกอบด้วยสามตอนคือ ผลงานก้าวหน้า การอุทิศตนไม่ย่อท้อต่ออุดมคติเหนือผลประโยชน์ส่วนตน และการเป็นสาธารณูปการแก่ทุกคนในทุกวัน             ตามความเห็นของคูเบอร์แต็ง การกีฬาสร้างหลักพื้นฐานของกติกาทั้งปวงในระบอบประชาธิปไตย โดยเหตุนี้ ท่านจึงใช้สุนทรพจน์นี้เรียกร้องให้เยาวชนผู้ยากไร้ได้รับโอกาสเข้าถึงการกีฬา             ใต้ฝ่าพระบาท ท่านเจ้าเมืองผู้ทรงเกียรติ ท่านสุภาพชน              การกีฬาคือพระราชา             พวกเรายังคงมีข้อกังวลค้างคาใจอีกหรือไม่ต่อเกียรติภูมิที่พวกเราได้ฟังในปัจจุบันถึงคำพิสูจน์ชัดเจนต่อผลที่เกิดขึ้นทุกวันบนเส้นทางโอลิมปิกเกมส์สมัยใหม่ที่กำลังฟื้นฟูอย่างมั่นคงสถาพรยิ่งกว่ายุคโบราณ โดยเฉพาะข้อเท็จจริงภายหลังช่วงเวลาเลวร้ายยิ่งของความรุนแรงและขอบเขตกว้างขวางอย่างไม่น่าเชื่อ? เบลเยียมคือกุญแจหลักแห่งความสำเร็จนี้โดยแท้ซึ่งได้แสดงความหวังที่จะเพิ่มเติมเกียรติภูมิที่ได้รับใน ค.ศ.1914 และเสริมแต่งใน ค.ศ.1920 จากการจัดโอลิมปิกเกมส์อย่างชาญฉลาดและรวดเร็ว หรือหากข้าพเจ้าขอแสดงออกอย่างเปิดเผยกว่าในทางวิชาการคือ เกียรติภูมิของความพร้อมซึ่งทรัพยากร เบลเยียมทำลายสถิตินี้เช่นกัน ภายใต้สถานการณ์ต่างๆ เกียรติภูมิของเบลเยียมช่วยส่งเสริมมากกว่าลดทอนความแข็งแกร่งของการกีฬาซึ่งโอลิมปิกเกมส์เป็นทั้งสัญลักษณ์และการแสดงออก             ความซื่อสัตย์ทุกรูปแบบมีภัยคุกคาม อนาคตของการกีฬาก็ไม่มีข้อยกเว้น แม้จะได้รับการยกย่องสรรเสริญจากประชาชนและความกระตือรือร้นของเยาวชนก็ตามที พวกเราคือกลุ่มคนบนวิถีทางนี้ ในเขตอำนาจที่เป็นไปได้ อนุญาโตตุลาการของพวกเราทั่วโลกจะต้องประกันถึงความมั่นคงของอำนาจตนด้วยการทำให้อำนาจนี้มีประสิทธิผลและทรงศักดิ์มากขึ้น ปัจจัยใดที่เป็นเสถียรภาพแท้จริงของบัลลังก์? …

ตอนที่ 38 : การกีฬาคือพระราชา : หนังสืออุดมการณ์โอลิมปิกของคูเบอร์แต็ง : แปลโดย : ดร.นิพัทธ์ อึ้งปกรณ์แก้ว Read More »

You cannot copy content of this page

error: Content is protected !!