สถานีความคิด

ตอนที่ 31 : บาทหลวงดิดอง : หนังสืออุดมการณ์โอลิมปิกของคูเบอร์แต็ง : แปลโดย : ดร.นิพัทธ์ อึ้งปกรณ์แก้ว

บาทหลวงดิดอง             บทความชิ้นนี้คือคำอุทิศแก่มิตรสหายคราวบิดาของคูเบอร์แต็งคือ อองรี ดิดอง นักบวชเชื้อสายโดมินิกัน ซึ่งได้จากไปในวันที่ 13 มีนาคม ค.ศ.1900 ซึ่งทราบกันดีว่า คำขวัญโอลิมปิก “เร็วกว่า สูงกว่า แข็งแรงกว่า” มาจากท่านนี้และในระหว่างการเยือนของคูเบอร์แต็ง ท่านได้สร้างความประทับใจแก่นักเรียนตนเองด้วยคำขวัญข้างต้นในพิธีเปิดเทศกาลกีฬาโรงเรียนในอะครูอิลเมื่อวันที่ 17 มีนาคม ค.ศ.1891 ซึ่งคูเบอร์แต็งได้ใช้เป็นคำขวัญโอลิมปิกใน ค.ศ.1894 อย่างไรก็ตาม บทความชิ้นนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่เป็นการแสดงความชื่นชมต่อผลสัมฤทธิ์รอบด้านของมนุษย์ผู้ยิ่งใหญ่ในฐานะพระนักเทศน์ ครูผู้สอนและพลเมืองฝรั่งเศสที่น่านับถือ คูเบอร์แต็งชื่มชมจิตวิญญาณเสรีและความเห็นเชิงวิพากษ์ของบาทหลวงดิดองภายในกรอบศาสนจักรฝรั่งเศส             คล้อยหลังจากการก่อตั้งอนุสาวรีย์ของพระคาดินัลลาวิจ์รีย์ ซึ่งเป็นนักชาตินิยมและผู้นำอารยธรรมที่เข้มแข็งบนชายฝั่งแอฟริกาไม่นาน ความพลัดพรากได้มาเยือนเร็วเกินไปแก่พระนักบวชที่เสมือนเป็นลาวิจ์รีย์ของการศึกษาในฝรั่งเศส             ไม่ว่าใครก็ตามที่เกี่ยวข้องกับบาทหลวงดิดอง จะได้สัมผัสถึงดวงวิญญาณของท่านที่สิงสถิตย์อยู่เบื้องหน้าบนยอดภูเขาเสมอ ซึ่งเพ่งมองอนาคตและพินิจพิจารณาด้วยสายตาเรียบง่ายตลอดเวลา แรงปรารถนาประการแรกของท่านคือความบากบั่นโดยท่านค้นหาแม้กระทั่งในตัวนักเรียน ท่านกล่าวแก่ข้าพเจ้าในวันหนึ่งว่า “เป็นเรื่องตลกที่ข้าพเจ้ารู้สึกเหมือนเป็นอัมพฤกษ์เมื่อกลุ่มนักเรียนไม่มีการต่อต้านแก่ข้าพเจ้า จึงเป็นเหตุให้ข้าพเจ้าลงมือกระทำเกินกว่าเหตุในบางครั้ง เพื่อบังคับให้พวกเขาก่อการปฏิรูป”             แรงปรารถนาประการต่อมาคือ การทำงาน และประการสุดท้ายคือ สมัยใหม่นิยม ข้าพเจ้าจำได้ถึงสุนทรพจน์ที่ท่านได้กล่าวในพิธีมอบรางวัลต่อหน้านักเรียนที่ตั้งใจฟังและพ่อแม่ที่กังวลใจ ด้วยความหาญกล้าไม่มีใครเปรียบ บาทหลวงดิดอง ประเดิมการจู่โจมซึ่งหน้าต่อสิ่งที่น่ารังเกียจยิ่งในขณะนั้น กล่าวคือ การต่อต้านชาวยิว โดยใช้คำเรียกที่เปิดเผยว่า ความขี้เกียจ ซึ่งก่อให้เกิดความเจ็บปวดแก่สังคมไร้จิตวิญญาณที่พร่ำบ่นถึงการถูกครอบงำและควบคุมจากกลุ่มคนยิว             …

ตอนที่ 31 : บาทหลวงดิดอง : หนังสืออุดมการณ์โอลิมปิกของคูเบอร์แต็ง : แปลโดย : ดร.นิพัทธ์ อึ้งปกรณ์แก้ว Read More »

ตอนที่ 30 : ระหว่างการศึกสองครา จากอุดมการณ์โอลิมปิกถึงมหาวิทยาลัยมวลชน : หนังสืออุดมการณ์โอลิมปิกของคูเบอร์แต็ง : แปลโดย : ดร.นิพัทธ์ อึ้งปกรณ์แก้ว

ระหว่างการศึกสองครา จากอุดมการณ์โอลิมปิกถึงมหาวิทยาลัยมวลชน             ในช่วงนั้น เทคโนโลยีที่แพร่หลายไปทั่วด้วยประโยชน์เชิงประสิทธิผลซึ่งปรากฏขึ้นในสังคมที่กำลังปฏิวัติอุตสาหกรรมอย่างสมบูรณ์นั้น โดยแม้จะเคยนำไปสู่การปฏิรูป แต่กลับไม่ได้รับการเอาใจใส่โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ การเพิกเฉยต่อองค์ประกอบด้านมนุษย์อย่างมีนัยสำคัญ              เชาวน์ปัญญาและความกล้าหาญคือสิ่งจำเป็นต่อการพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งคุณค่าสูงสุดของมนุษย์ ทั้งนี้ ไม่ขึ้นอยู่กับสถานะของบุคคลโดยเฉพาะชนชั้นสังคมในขณะนั้น             ถึงเวลาต่อการเรียกร้องด้านจริยศึกษาและการปฏิรูปการศึกษาที่จะส่งเสริมให้แต่ละบุคคลเข้าถึงศักยภาพเต็มเปี่ยมของตนเองอย่างอิสระในความหมายที่แท้จริง ปิแอร์ เดอ คูเบอร์แต็งได้เกิดความเข้าใจในสิ่งนี้ครั้นเริ่มต้นความพยายามด้านการศึกษาตั้งแต่ ค.ศ.1890 โดยพัฒนาแผนงานและเริ่มมองหาพันธมิตร               ณ ทอย์นบีฮอลล์ ซึ่งเป็นสถานศึกษาเอกชนไม่คิดค่าใช้จ่ายแก่ผู้ใช้แรงงานในย่านยากจนข้นแค้นของไวท์ชาเพิลในกรุงลอนดอน คูเบอร์แต็งได้สังเกตถึงการกระทำเพื่อพัฒนาอนาคตของผู้มีชะตาชีวิตน่าเศร้าบนความขมขื่นและหดหู่โดยปราศจากความหวัง โดยแม้นักเรียนจะขัดสนด้านวัสดุสิ่งของ จริยธรรมและกายภาพ แต่ก็สามารถจัดการศึกษาด้วยตนเองอย่างสม่ำเสมอด้วยการอุทิศตนของนักศึกษามหาวิทยาลัยอาสาสมัครซึ่งทำให้ค้นพบถึงความเป็นมนุษย์ที่เต็มเปี่ยมของผู้ใช้แรงงานแต่ละคนและการทำให้ความเป็นมนุษย์นั้นเกิดมรรคผลด้วยการปลุกจิตวิญญาณสร้างสรรค์ วัฒนธรรมเรียนรู้และวัฒนธรรมทางกายจึงจะสามารถบรรลุผลอย่างไม่ลำบากโดยไม่ต้องการสิ่งใดเว้นแต่การเค้นความแข็งแกร่งจากความหาญกล้าเท่านั้น ด้วยการแสดงออกอย่างอิสระ แต่ละบุคคลกลับมาเป็นเจ้าของตนเองอีกครั้งหนึ่งและกาลปัจจุบันได้กลายเป็นคำสัญญาแห่งอนาคต ผลสำเร็จเหล่านี้ยืนยันสิ่งที่คูเบอร์แต็งเชื่อว่า เมืองที่ควรคู่กับชื่อเสียงเรียงนามนั้น เหนือสิ่งอื่นใด จะต้องเป็นชุมชนของพลเมืองอิสระที่ปฏิบัติตนตามจริยธรรมขั้นสูง นักมนุษยนิยมต้องไม่แยกบุคคลออกจากสังคม              คูเบอร์แต็งทุ่มเทตลอดชีวิตทำงานด้วยแรงปรารถนาต่อการจัดตั้งมหาวิทยาลัยมวลชนที่จะสามารถเกื้อหนุนความเจริญก้าวหน้าของปัจเจกชนทุกคน             เพื่อนทั้งหลายของข้าพเจ้าดูประหลาดใจว่า ตั้งแต่ที่ข้าพเจ้ามีชัยเหนือการศึกโอลิมปิกในวงกว้างกว่าที่พวกเขาทำนายไว้เป็นการทั่วไปนั้น ข้าพเจ้าไม่ยอมหยุดที่จะอิ่มอกอิ่มใจในการเก็บเกี่ยวผลงานที่ปรากฎ พวกเขากลับประหลาดใจที่ข้าพเจ้าพาตนเองเข้าสู่การศึกอีกแห่งที่มีสนามรบไม่ชัดเจนพร้อมด้วยเหล่าทหารจำนวนน้อยและรุ่งอรุณแห่งการปฏิวัติสังคมที่วุ่นวายซึ่งเป็นที่ประจักษ์แก่สายตา             แผนงานของข้าพเจ้าไม่ได้เกิดจากความเร่งรีบหรือบุ่มบ่ามทั้งสิ้น …

ตอนที่ 30 : ระหว่างการศึกสองครา จากอุดมการณ์โอลิมปิกถึงมหาวิทยาลัยมวลชน : หนังสืออุดมการณ์โอลิมปิกของคูเบอร์แต็ง : แปลโดย : ดร.นิพัทธ์ อึ้งปกรณ์แก้ว Read More »

ตอนที่ 29 : จุดกำเนิดและขีดจำกัด ความก้าวหน้าของการกีฬา : หนังสืออุดมการณ์โอลิมปิกของคูเบอร์แต็ง : แปลโดย : ดร.นิพัทธ์ อึ้งปกรณ์แก้ว

จุดกำเนิดและขีดจำกัดความก้าวหน้าของการกีฬา             เดือนมิถุนายน ค.ศ.1936 ก่อนโอลิมปิกเกมส์ที่กรุงเบอร์ลินนั้น บทความทั้งสี่ตอนนี้ได้ปรากฎในหนังสือพิมพ์เบอร์ลิน (BZ am Mittag) อีกสองปีต่อมาภายหลังการจากไปของคูเบอร์แต็ง ต้นฉบับภาษาฝรั่งเศสได้รับการตีพิมพ์ในวารสารโอลิมปิกรีวิว ซึ่งบทความนี้เป็นเสมือนมรดกการกีฬาที่คูเบอร์แต็งได้สรุปเน้นย้ำความเห็นหลายประการด้านการกีฬาสมัยใหม่ของตนเอง คูเบอร์แต็งแยกแยะการพัฒนาระหว่างร่างกายมนุษย์ คุณลักษณะเชาวน์ปัญญาและมิติจิตวิทยา และเงื่อนไขการเล่นกีฬาแต่ละชนิด โดยเปรียบเทียบความเพียรพยายามเหล่านี้กับแนวคิดอรรถประโยชน์ยิมนาสติก (Utilitarian Gymnastics) ที่ตนเองได้นำเสนอเป็นครั้งแรกใน ค.ศ.1902 ประเด็นการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อมีความสำคัญไม่แพ้กัน ในตอนที่สามของบทความนี้ คูเบอร์แต็งพิจารณาอิทธิพลของผู้ชมกีฬาซึ่งเป็นส่วนทำให้จิตวิทยาการกีฬามีบทบาท และในตอนที่สี่ ท่านตอบคำถามว่าจะมีขีดจำกัดของการพัฒนาศักยภาพนักกีฬาหรือไม่ ในเรื่องนี้ ท่านเล็งเห็นความแตกต่างระหว่างการพัฒนาส่วนบุคคล และส่วนรวมซึ่งนำไปสู่ข้อสงสัยว่า ส่วนบุคคลหรือสายพันธุ์มีบทบาทสำคัญมากกว่ากัน ดังที่ปรากฎในโบราณกาล การกีฬาจึงเป็นองค์ประกอบสำคัญของความเจริญก้าวหน้าใน ค.ศ.1936 ตอนที่หนึ่ง             ความก้าวหน้าของการกีฬาในวัยรุ่นและหนุ่มสาวอาจมาจากสามแหล่งที่มา ที่แรกคือกล้ามเนื้อของร่างกายที่สามารถถูกพัฒนาขึ้นได้ แท้จริงแล้ว ร่างกายสามารถพัฒนาอย่างมีนัยสำคัญให้แข็งแกร่ง ยืดหยุ่น ทรหดขึ้น มีทักษะรวมทั้งดุลยภาพสูงขึ้นได้ ผลลัพธ์นี้สามารถเกิดขึ้นได้ผ่านความเพียรพยายามในการออกกำลังกายและการฝึกซ้อมที่ถูกต้องอย่างดี โดยเฉพาะภายใต้สิ่งแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อความสำเร็จนี้             อย่างไรก็ตาม คุณลักษณะเชาวน์ปัญญามีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาร่างกายมนุษย์เพื่อเป้าประสงค์ความสำเร็จทางการกีฬาเช่นกัน ต้องไม่ลืมว่า รอบปีโอลิมปิกสมัยใหม่เกิดขึ้นจากการวิ่งมาราธอนที่สำเร็จของคนยากไร้ แม้ว่าเขาจะมีความแข็งแกร่งโดยธรรมชาติ แต่ก็ไม่มีการเตรียมพร้อมด้านวิทยาศาสตร์แต่ประการใด   ยิ่งกว่านั้น เขากลับเตรียมตัวด้วยการอดอาหารและสวดมนต์ต่อหน้าพระผู้เป็นเจ้าที่ตนเองนับถือ ข้าพเจ้าขอกล่าวเสริมว่า นับจากนั้นในทุกโอลิมปิกเกมส์ ข้าพเจ้าพบอยู่เสมอถึงความหนักแน่นของเจตจำนงและความสงบนิ่งที่ …

ตอนที่ 29 : จุดกำเนิดและขีดจำกัด ความก้าวหน้าของการกีฬา : หนังสืออุดมการณ์โอลิมปิกของคูเบอร์แต็ง : แปลโดย : ดร.นิพัทธ์ อึ้งปกรณ์แก้ว Read More »

ตอนที่ 28 : การใช้ประโยชน์ของกิจกรรมกีฬาเพื่อการศึกษา : หนังสืออุดมการณ์โอลิมปิกของคูเบอร์แต็ง : แปลโดย : ดร.นิพัทธ์ อึ้งปกรณ์แก้ว

การใช้ประโยชน์ของกิจกรรมกีฬาเพื่อการศึกษา             องค์กรการสอนกีฬานานาชาติได้เริ่มงานการประชุมและตามด้วยการจัดเลี้ยง ณ เดอะพาเลซ ในเดือนพฤศจิกายน 1928 ซึ่งอยู่ภายในบริเวณของมหาวิทยาลัยโลซานน์ภายใต้การอุปถัมภ์ของเมืองโลซานน์ คูเบอร์แต็งซึ่งยินยอมรับตำแหน่งผู้นำองค์กรนี้ ได้กล่าวสุนทรพจน์เกี่ยวกับการใช้ประโยชน์ของกิจกรรมกีฬาทางการศึกษาเพื่อเป็นเกียรติแก่วาระโอกาสนี้ ส่วนใหญ่ของสุนทรพจน์นี้ได้รับการตีพิมพ์ซ้ำไว้ที่นี่ซึ่งถือเสมือนเป็นคำแถลงการณ์อย่างแท้จริง             ตามรายงานของนิตยสารสปอร์ตสวิส คูเบอร์แต็งเริ่มต้นด้วยการอารัมภบทเชิญชวนโดยเปรียบเทียบสไตล์พ่อหัวร้อนของปิแอเรฟูชองกับภาพลักษณ์สง่างามของแจ็ก เปย์โรนิ และบรรยายกัปตันฟุตบอลรุ่นเยาว์คือ มองเตลองต์ ซึ่ง “อายุสิบสี่รูปร่างป้อมที่มีอำนาจความเป็นผู้นำทีม เน้นสุขอนามัยกีฬา เป็นนักเรียนขยัน สุขภาพดี ธรรมดาสามัญ แต่น่ากวนใจในความถือตัวที่ซ่อนไว้” จากนั้น ท่านกล่าวถึงขอบเขตจำกัดที่เห็นว่ายังมีโอกาสในการปรับปรุงสถานการณ์ได้ ภายหลังการขีดวงปัญหาในเชิงภูมิศาสตร์ คูเบอร์แต็งกล่าวว่า “พวกเราต้องหมายถึงนักยิมนาสติก นักฟันดาบ นักว่ายน้ำและนักพายเรือนอกเหนือจากกลุ่มคนที่มนุษย์หัวร้อนเหยียดหยามหรือไม่? แต่ละบุคคลนี้ทุจริตหรือไม่? เมื่อให้การยกเว้นแก่บุคคลที่ถูกต้อง โดยหากที่เหลือมีแต่นักฟุตบอลและนักเทนนิสหรือนักกรีฑา ท่านต้องยอมรับถึงการขีดวงแคบแก่สนามกีฬาในรายใดก็ตาม” บุคคลเหล่านี้จะมีขอบเขตความรับผิดชอบเพียงใด? มีหลายสิ่งที่เกิดขึ้นเพื่อทำลายพวกเขาซึ่งเริ่มต้นจากจำนวนเพิ่มขึ้นของสนามกีฬา ใช่หรือไม่?             บทความต่อไปนี้ผสมผสานสุนทรพจน์ของคูเบอร์แต็งพร้อมความเห็นของนักเขียนนิตยสาร              สนามกีฬาจำนวนมากเกินควร              “สนามกีฬาถูกสร้างขึ้นอย่างไม่รอบคอบในทุกหนแห่ง ความใคร่รู้เหล่านี้มีมากพอให้ปรากฎผ่านการตีพิมพ์ถึงเก้าครั้งในวารสารเดอะรีวิวโอลิมปิกรายเดือนซึ่งเป็นสิ่งพิมพ์ทางการของคณะกรรมการโอลิมปิกนานาชาติ โดยจะพบการเตือนไม่ให้การกีฬาเป็นการแสดงโชว์และผลที่เกิดขึ้นจากการใช้แนวทางการเขียนบทความเมื่อสิบแปด ยี่สิบและยี่สิบสองปีก่อน ในขณะที่ข้าพเจ้าได้กล่าวว่า เมื่อที่นั่งสำหรับผู้ชมจำนวนสี่หมื่นคนได้ถูกสร้างขึ้น ท่านจะต้องจัดคนให้เต็มและหมายถึงการดึงดูดฝูงชน …

ตอนที่ 28 : การใช้ประโยชน์ของกิจกรรมกีฬาเพื่อการศึกษา : หนังสืออุดมการณ์โอลิมปิกของคูเบอร์แต็ง : แปลโดย : ดร.นิพัทธ์ อึ้งปกรณ์แก้ว Read More »

ตอนที่ 27 : จดหมายโอลิมปิก ฉบับที่ยี่สิบ : หนังสืออุดมการณ์โอลิมปิกของคูเบอร์แต็ง : แปลโดย : ดร.นิพัทธ์ อึ้งปกรณ์แก้ว

จดหมายโอลิมปิก ฉบับที่ยี่สิบ: เหตุผลที่พลเมืองโลซานน์ควรพายเรือ             เมื่อไดัรับการสอบถามใน ค.ศ.1912 ว่า กีฬาชนิดใดเป็นกีฬาในอุดมคติ คูเบอร์แต็งตัดสินใจเลือก เรือพาย โดยท่านรัก และฝึกพายเรือ แม้อายุมากขึ้น และยังได้ตีพิมพ์บทความจำนวนมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ จดหมายโอลิมปิกฉบับนี้กล่าวถึงพลเมืองโลซานน์และเยาวชนที่อาศัยในเขตคองตองเดวูด์ ซึ่งท่านกระตุ้นพวกเขาให้ใช้สภาพที่ดีเลิศ ซึ่งเหมาะยิ่งต่อการพายเรือของทะเลสาบเจนีวา              ผู้อ่านที่รัก หุ่นกระบอกนิยมหมุนสามรอบก่อนจะหายตัวไป ข้าพเจ้าขออนุญาตทำสิ่งตรงข้ามและ “หมุนรอบใหญ่และหันกลับมา” อุดมการณ์โอลิมปิกไม่ได้ลาจากท่านเป็นครั้งสุดท้าย แต่จะหลีกหายไปอยู่หลายเดือน พวกเราจะพบกันใหม่อีกครั้งในฤดูใบไม้ร่วงตามเจตนารมณ์ของพระเจ้า และในวันนี้ที่ความหวานชื่นของปีได้มาถึง คือโอกาสของท่านที่จะกระทำตามคำแนะนำของข้าพเจ้า ซึ่งไม่เพียงแก่ร่างกายของลูกท่าน และของท่านด้วย ท่านมีวันแดดออกรออยู่ข้างหน้าและสายน้ำเหยียดยาวไร้คู่เปรียบ จงใช้ประโยชน์ต่อสิ่งเหล่านี้ ขอให้จดจำไปพร้อมกับการชกมวยว่า การพายเรือคือกีฬายอดเยี่ยมที่สุดในการดำรงอยู่และการไม่ใช้ประโยชน์จากทะเลสาบที่งดงาม ถือเป็นอาชญากรรมสำหรับชาวเมืองโลซานน์ ขบวนเรืออูชี่ไม่เลวร้าย ซึ่งห่างไกลจากความจริงมาก และหากท่านกระตุ้นให้มากขึ้นก็จะพัฒนาขึ้นมาก มีเรือแคนูที่สมดุลย์บางลำที่ท่านจะสามารถร่างแบบเครื่องกลที่ปรารถนาได้ ขออย่าประหลาดใจกับภาษานี้ ลำเรือ ฝีพาย และไม้พายประกอบกันเป็นเครื่องจักรกลโดยความสมบูรณ์ และความรื่นรมย์ของการเคลื่อนที่ จะขึ้นอยู่กับสัมพันธภาพที่เกิดขึ้นระหว่างองค์ประกอบเหล่านี้ จะเป็นความรื่นรมย์ของฝีพายในการรู้สึกว่าตนเอง คือเครื่องจักรกลแห่งความคิดที่จะรับรู้ในแต่ละจ้วงพายถึงความแข็งแกร่ง ที่ก่อขึ้นภายในกาย ขยายวงและกระจายตัวไปรอบ จังหวะคล้ายดนตรีและการเกิดขึ้นในศูนย์กลางธรรมชาติระหว่างอากาศ และน้ำ …

ตอนที่ 27 : จดหมายโอลิมปิก ฉบับที่ยี่สิบ : หนังสืออุดมการณ์โอลิมปิกของคูเบอร์แต็ง : แปลโดย : ดร.นิพัทธ์ อึ้งปกรณ์แก้ว Read More »

ตอนที่ 26 : จดหมายโอลิมปิก ฉบับที่สิบเก้า : หนังสืออุดมการณ์โอลิมปิกของคูเบอร์แต็ง : แปลโดย : ดร.นิพัทธ์ อึ้งปกรณ์แก้ว

จดหมายโอลิมปิก ฉบับที่สิบเก้า: ความรื่นรมย์ทางกีฬา             จดหมายฉบับนี้ คูเบอร์แต็งกล่าวถึงการอภิปรายเกี่ยวกับจิตวิทยาการกีฬาที่สภาโอลิมปิก 1913 ในเมืองโลซานน์ โดยจะต้องจับคู่ “ความรื่นรมย์ทางกีฬา” กับสัญชาติญาณกีฬาซึ่งท่านอธิบายไว้ในหนังสือตนเองคือ La gymnastique utilitaire (Useful lifetime sports) เท่านั้น จึงจะทำให้การกีฬารักษาคุณลักษณะของตนเองไว้ได้             ในหลายวันนี้ บางท่านอาจประหลาดใจที่ข้าพเจ้าได้กล่าวในสองครั้งเกี่ยวกับคุณลักษณะความน่าปรารถนาของสัญชาติญาณกีฬา แต่ก็เป็นคำที่ถูกต้อง การออกกำลังกายจะไม่ใช่การกีฬาหากไร้ซึ่งความน่าปรารถนา อย่างไรก็ตาม ขอให้ท่านลองทำให้สักคนที่ไม่เคยประสบถึงความเข้มข้นของความสุขทางกายให้เกิดความเข้าใจในสิ่งนี้ และไม่ใช่ทุกคนที่จะมีประสบการณ์ต่อสิ่งนี้ด้วยเช่นกัน หลายคนที่เกือบพลาดโอกาสเริ่มต้นในเวลาอันควร แต่อีกหลายคนยังคงต่อต้านความเบิกบานนั้น ประเด็นของ “ความรื่นรมย์ทางกีฬา” ได้รับการอภิปรายก่อนหน้าที่สภาโอลิมปิก 1913 ในเมืองโลซานน์  ข้าพเจ้าจำถึงสิ่งหนึ่ง ที่ครูยิมนาสติกฝรั่งเศสที่มีการศึกษา และชื่อเสียงมากที่สุดท่านหนึ่งคือ พอล คริสต์มานน์ ได้นำการเน้นย้ำความเชื่อจากประสบการณ์ยาวนาน ต่อแนวคิดที่พวกเราทั้งหลายต่างสนับสนุนโดยท่านกล่าวว่า “ร่างกายจำเป็นต้องมียาขนานหนึ่งของความรื่นรมย์และความรื่นรมย์ไม่ใช่สุขภาวะ แต่เป็นความรื่นรมย์ทางกายที่เข้มข้น ในวันนี้ การกีฬามอบความรื่นรมย์ เช่น ความรื่นรมย์ทางกายที่เข้มข้น สิ่งนี้คือเหตุผลที่เด็กหนุ่มเมื่อให้เลือกระหว่างความรื่นรมย์ที่จะทำให้ตนตกต่ำลงกับความรื่นรมย์ที่จะยกตนให้สูงขึ้น จะชื่นชอบความรื่นรมย์อย่างหลังมากกว่าอย่างแรก ดังนั้น …

ตอนที่ 26 : จดหมายโอลิมปิก ฉบับที่สิบเก้า : หนังสืออุดมการณ์โอลิมปิกของคูเบอร์แต็ง : แปลโดย : ดร.นิพัทธ์ อึ้งปกรณ์แก้ว Read More »

ตอนที่ 25 : จดหมายโอลิมปิก ฉบับที่สิบแปด : หนังสืออุดมการณ์โอลิมปิกของคูเบอร์แต็ง : แปลโดย : ดร.นิพัทธ์ อึ้งปกรณ์แก้ว

จดหมายโอลิมปิก ฉบับที่สิบแปด: อุปกรณ์             จดหมายฉบับนี้ คูเบอร์แต็งส่งเสียงคัดค้านการรณรงค์ในฝรั่งเศส ต่อการเลิกใช้อุปกรณ์ยิมนาสติก โดยท่านพยายามอธิบายให้ผู้อ่านเข้าใจถึงความลึกล้ำของอุปกรณ์นี้ ที่มีต่อขั้นตอนการเรียนรู้ ซึ่งเกิดผลอันทรงพลังแก่สติปัญญาพร้อมด้วยคุณค่าภายในระดับสูง             ข้าพเจ้าควรจะกล่าวเล็กน้อย เกี่ยวกับบุคคลที่โชคร้ายสี่ท่าน ซึ่งถูกขับไล่จากบ้านและทารุณกรรมทุกรูปแบบ แต่พวกเขาต่างเคยได้รับการเชิดชูเกียรติในการพัฒนากล้ามเนื้อแก่เยาวชนในช่วงเวลาที่ภารกิจนี้ได้รับการยกย่องเป็นอย่างยิ่ง ทั้งนี้เนื่องเพราะ ความเป็นเลิศของพวกเขาขาดซึ่งการสนับสนุนจากมติมหาชน บุคคลผู้น่าสงสัยเหล่านี้คืออุปกรณ์ยิมนาสติกดั้งเดิมซึ่งหมายถึง ราวเดี่ยว ห่วง ม้าหูและราวคู่ โดยเป็นที่น่าขบขันที่สังเกตถึงความเคียดแค้นที่มีต่อพวกเขา จากบุคคลที่ไม่เคยพบเจอ และไม่ทราบถึงความสนุกสนาน และมีประโยชน์ต่อสุขภาพจากมิตรภาพของพวกเขา บันทึกที่ลงรายละเอียดมากควรพร้อมด้วยวิชาการ (มีรายละเอียดถี่ยิบยิ่งกว่าวิชาการ) มีรายการความไม่ถูกต้องในจินตนาการของส่วนประกอบในอุปกรณ์เหล่านี้ ก่อนหน้านี้พวกเขาเคยมีความชำนาญอย่างไม่แปรเปลี่ยน ซึ่งเป็นความจริง แม้ในสาขาการออกกำลังกายที่จิตวิญญาณคร่ำครึของบุคคลที่ไม่ได้รับการสอนที่ดี ก็ยังคงมีหนทางใช้งานได้ ในปัจจุบันกระแสนิยมเปลี่ยนไป และเห็นถึงความทันสมัยยิ่งที่โรงยิมจะไม่มีเชือกและความเงาวับของพื้นปาร์เก้เหมือนห้องจัดเลี้ยงพร้อมลายจุดของผืนพรมขนาดเล็ก เหมือนที่ใช้เรียกศรัทธาของนักบวชอิสลาม             สิ่งนี้คือทุกส่วนของความผิดพลาดพื้นฐานที่ทำให้ผู้เชี่ยวชาญไม่เห็นสิ่งใด ยกเว้นมิติสรีรวิทยาของกิจกรรมกีฬาและการแสวงหา “ระเบียบวิธี” อย่างดื้อรั้นต่อลำดับขั้นของสิ่งทั้งหลายซึ่งมีแรงปรารถนาเป็นพื้นฐาน วิธีทาง “วิทยาศาสตร์” ที่สุดจะไม่มีค่าใด หากไม่ได้รับการบ่มเพาะจากพลังจิตของผู้ฝึกสอนที่ใช้อุปกรณ์นี้.

จับตา อลป.ไทย ประชุม 30 มิ.ย.66 นี้ จะสรุปทางเดินอย่างไรในกรณีลูกพี่ใหญ่ IOC ตัดขาด IBA แล้วเราต้องเดินตาม …อีกไม่นานรู้เรื่อง!!!

          วันที่ 30 มิ.ย.2566  จะมีการประชุมคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ งานนี้ ประเด็นที่น่าจับตามองคือ โอลิมปิคไทยจะไปทางไหน กรณี ที่คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) หรือ IOC “ตัดขาด” กับ สหพันธ์มวยสากลนานาชาติ  หรือ IBA โดยไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับงานของ IOC อีกต่อไป             ที่น่าจับตาเพราะ สมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย วันนี้ยังอยู่ในสังกัดของ IBA ที่โดน IOC ตัดขาดในการยุ่งเกี่ยวกับงานกีฬาใด ๆ ที่ IOC ดำเนินการ ใกล้ ๆ ก็คือ เอเชี่ยนเกมส์ครั้งที่ 19 และต่อเนื่องถึง โอลิมปิกเกมส์ 2024             ที่น่าจับตา เพราะว่าปรากฏการณ์แบบนี้ ไม่เคยมีมาก่อน ที่ข้อขัดแย้งใหญ่ ได้กระทบถึงองคาพยพวงการกีฬาที่สำคัญของไทยโดยตรงแบบนี้มาก่อน ที่ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง             22 มิ.ย.2566 การประชุมใหญ่วิสามัญของ IOC มีมติ “ถอนการรับรอง” …

จับตา อลป.ไทย ประชุม 30 มิ.ย.66 นี้ จะสรุปทางเดินอย่างไรในกรณีลูกพี่ใหญ่ IOC ตัดขาด IBA แล้วเราต้องเดินตาม …อีกไม่นานรู้เรื่อง!!! Read More »

ตอนที่ 24 : จดหมายโอลิมปิก ฉบับที่สิบเจ็ด : หนังสืออุดมการณ์โอลิมปิกของคูเบอร์แต็ง : แปลโดย : ดร.นิพัทธ์ อึ้งปกรณ์แก้ว

จดหมายโอลิมปิก ฉบับที่สิบเจ็ด: การออกกำลังกายและเงื่อนไข             ในจดหมายโอลิมปิกนี้ คูเบอร์แต็งแสดงความเห็นต่อการรณรงค์ของฝรั่งเศส ค.ศ.1918 ที่จะบังคับการเล่นกีฬาตั้งแต่อายุหกปี โดยท่านหักล้างความคิดนี้จากหลักการศึกษาที่ว่า การกีฬาไม่สามารถฝึกหัดด้วยการฝืนใจ หากจะต้องการให้เกิดผลตลอดชีวิต นอกจากนี้ การบังคับให้เล่นกีฬาคือสิ่งเป็นไปไม่ได้ในทางปฏิบัติ             มีคำกล่าวว่า ฝรั่งเศสชนกลุ่มหนึ่งต้องการให้บัญญัติกฎหมายที่จะมีบทบัญญัติแรกว่า “พลเมืองฝรั่งเศสทุกคนจะเข้าสู่วัฒนธรรมทางกายตั้งแต่อายุหกปี” โดยหากเนื้อความนี้ไม่ผิด ย่อมเป็นความไร้เดียงสา บ่อยครั้งแค่ไหนในประวัติศาสตร์ที่คำสั่งคล้ายคลึงกันได้ถูกรณรงค์ในเรื่องนี้หรือเรื่องอื่นและทุกคนก็รับรู้ถึงชะตากรรมเดียวกันที่ทำให้สิ่งเหล่านี้ไร้ผลและเป็นโมฆะในชั่วประเดี๋ยวหากไม่ใช่ในวันที่ร่างกฎหมายนั้น ซึ่งเป็นแนวทางเดียวกันกับมาตรการใดก็ตามที่เรียกร้องเงื่อนไขภายนอกหรือภายในเพื่อการรักษาอำนาจไว้ อย่างไรก็ตาม คงจะไม่สามารถกล่าวซ้ำบ่อยครั้งว่า ความเพียรทางกายเป็นสิ่งไม่ปรกติของมนุษย์ซึ่งจะบังคับตนเองภายใต้แรงกดดันของความจำเป็นเฉพาะหน้าหรือเป็นเพราะแรงขับของความปรารถนาที่เปลี่ยนสู่ความจำเป็นเท่านั้น ตามตัวอย่างนี้ อะไรจะเป็นชนิดของข้อจำกัดและใครจะเป็นคนบังคับใช้? ท่านคิดจริงหรือว่า ครอบครัวจะรับผิดชอบภารกิจนี้? ด้วยผลกระทบของเหตุการณ์ปัจจุบันและการประโคมของสื่อมวลชน ก็อาจเป็นไปได้ในสองสามปี หลังจากนั้น หนังสือพิมพ์จะเริ่มคิดถึงเรื่องนี้ พ่อแม่ก็คงเป็นเช่นเดียวกัน จะมีการแต่งตั้งบุคคลประเภทผู้ตรวจกล้ามเนื้อที่รับผิดชอบสอดส่องบ้านเรือนเพื่อตรวจสอบว่า เด็กเล็กก่อนเข้าโรงเรียนจะต้องออกกำลังกายอย่างแข็งขันภายในสายตาของพ่อแม่ตนเอง?…ท่านจะให้เวลากี่เดือนแก่ระบบนี้ก่อนที่พวกเขาจะส่งผู้ตรวจการไปที่ประตูบ้าน? “และจะเป็นสิ่งที่ถูกต้อง” ดังสูตรโบราณที่เคยมี             ในเรื่องนี้ เงื่อนไขจะไม่สำเร็จ ไม่ส่งผลประการใดอย่างแท้จริง โดยจะยังคงต้องการอุปนิสัยใหม่ที่จำเป็นและจะสามารถบรรลุผลทุกประการ ทั้งนี้เนื่องเพราะสิ่งนี้เกิดขึ้นแล้วในอังกฤษ ในสหรัฐอเมริกา ในโบฮีเมีย…โดยพวกเขาสามารถรับมือกับศัตรูร้ายกาจอย่างไม่ทันตั้งตัวได้ และเนื่องเพราะสิ่งนี้กำลังถือกำเนิดขึ้นฝรั่งเศสที่ความทรหดอดทนของประเทศนี้เป็นสิ่งเหนือความคาดหมายทั้งปวง ชาวเยอรมันง่วนอยู่กับการพัฒนาสิ่งนี้ให้เกิดขึ้นในช่วงเวลาแห่งสงครามแต่ก็สายเกินไป ขอให้พวกเราพินิจพิจารณาข้อเท็จจริงเหล่านี้ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการลงมือปฏิบัติ ขอให้พวกเราจงเหยาะเกลือลงบนศรัทธาที่หอมหวานของนักทฤษฎีทั้งหลาย  

IOC เนรเทศ IBA สงครามมวยสากลโลกแตกหัก “ลูกน้องอย่างไทย” ที่เดินตามทั้ง 2 องค์กรจะทำอย่างไรเมื่อลูกพี่แยกทางกัน…ไม่เลือกก็ต้องเลือกข้าง!!!

    ก็ไม่น่าแปลกใจครับกับการที่ คณะกรรมการโอลิมปิกสากล หรือ ไอโอซี (IOC) ลงมติไล่ส่ง สหพันธ์มวยสากลนานาชาติ หรือ ไอบ้า (IBA) ออกจากขบวนการโอลิมปิก ที่  IOC เป็นผู้กำกับดูแลอยู่ ซึ่งนั่นหมายถึงว่า กิจกรรมหรืองานใดของ IOC จะไม่มี IBA ร่วมอยู่ด้วยตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป     เพราะความขัดแย้งทั้ง 2 องค์กรนี้เกินเยียวยาในการร่วมงานกันได้ ด้วยเหตุผลที่มากมาย    จากนี้ไป คณะกรรมการโอลิมปิกสากล ก็จะเดินงานของตัวเองตามหน้าที่ต่อไป อย่างโอลิมปิกเกมส์ ในส่วนของกีฬามวยสากลที่ เคยมี IBA ดูแลช่วยอยู่ โดยต่อไปนี้ IOC ก็จะเป็นผู้ดำเนินการเองทั้งหมดก่อน    ส่วนทางด้าน  IBA นั้นก็ยังเป็นองค์กรกีฬาอยู่ต่อไป แต่ก็ต้องไปเดินงานของตัวเอง เช่น ชิงแชมป์ระดับใด ของตัวเองหรืองานอื่น ๆ ที่แล้วแต่จะทำ เพียงแต่จะไม่ได้เข้าไปยุ่งในกีฬาที่ IOC ดูแลอย่างเช่น โอลิมปิกเกมส์ เอเชี่ยนเกมส์ …

IOC เนรเทศ IBA สงครามมวยสากลโลกแตกหัก “ลูกน้องอย่างไทย” ที่เดินตามทั้ง 2 องค์กรจะทำอย่างไรเมื่อลูกพี่แยกทางกัน…ไม่เลือกก็ต้องเลือกข้าง!!! Read More »

You cannot copy content of this page

error: Content is protected !!