สถานีความคิด

ตอนที่ 25 : จดหมายโอลิมปิก ฉบับที่สิบแปด : หนังสืออุดมการณ์โอลิมปิกของคูเบอร์แต็ง : แปลโดย : ดร.นิพัทธ์ อึ้งปกรณ์แก้ว

จดหมายโอลิมปิก ฉบับที่สิบแปด: อุปกรณ์             จดหมายฉบับนี้ คูเบอร์แต็งส่งเสียงคัดค้านการรณรงค์ในฝรั่งเศส ต่อการเลิกใช้อุปกรณ์ยิมนาสติก โดยท่านพยายามอธิบายให้ผู้อ่านเข้าใจถึงความลึกล้ำของอุปกรณ์นี้ ที่มีต่อขั้นตอนการเรียนรู้ ซึ่งเกิดผลอันทรงพลังแก่สติปัญญาพร้อมด้วยคุณค่าภายในระดับสูง             ข้าพเจ้าควรจะกล่าวเล็กน้อย เกี่ยวกับบุคคลที่โชคร้ายสี่ท่าน ซึ่งถูกขับไล่จากบ้านและทารุณกรรมทุกรูปแบบ แต่พวกเขาต่างเคยได้รับการเชิดชูเกียรติในการพัฒนากล้ามเนื้อแก่เยาวชนในช่วงเวลาที่ภารกิจนี้ได้รับการยกย่องเป็นอย่างยิ่ง ทั้งนี้เนื่องเพราะ ความเป็นเลิศของพวกเขาขาดซึ่งการสนับสนุนจากมติมหาชน บุคคลผู้น่าสงสัยเหล่านี้คืออุปกรณ์ยิมนาสติกดั้งเดิมซึ่งหมายถึง ราวเดี่ยว ห่วง ม้าหูและราวคู่ โดยเป็นที่น่าขบขันที่สังเกตถึงความเคียดแค้นที่มีต่อพวกเขา จากบุคคลที่ไม่เคยพบเจอ และไม่ทราบถึงความสนุกสนาน และมีประโยชน์ต่อสุขภาพจากมิตรภาพของพวกเขา บันทึกที่ลงรายละเอียดมากควรพร้อมด้วยวิชาการ (มีรายละเอียดถี่ยิบยิ่งกว่าวิชาการ) มีรายการความไม่ถูกต้องในจินตนาการของส่วนประกอบในอุปกรณ์เหล่านี้ ก่อนหน้านี้พวกเขาเคยมีความชำนาญอย่างไม่แปรเปลี่ยน ซึ่งเป็นความจริง แม้ในสาขาการออกกำลังกายที่จิตวิญญาณคร่ำครึของบุคคลที่ไม่ได้รับการสอนที่ดี ก็ยังคงมีหนทางใช้งานได้ ในปัจจุบันกระแสนิยมเปลี่ยนไป และเห็นถึงความทันสมัยยิ่งที่โรงยิมจะไม่มีเชือกและความเงาวับของพื้นปาร์เก้เหมือนห้องจัดเลี้ยงพร้อมลายจุดของผืนพรมขนาดเล็ก เหมือนที่ใช้เรียกศรัทธาของนักบวชอิสลาม             สิ่งนี้คือทุกส่วนของความผิดพลาดพื้นฐานที่ทำให้ผู้เชี่ยวชาญไม่เห็นสิ่งใด ยกเว้นมิติสรีรวิทยาของกิจกรรมกีฬาและการแสวงหา “ระเบียบวิธี” อย่างดื้อรั้นต่อลำดับขั้นของสิ่งทั้งหลายซึ่งมีแรงปรารถนาเป็นพื้นฐาน วิธีทาง “วิทยาศาสตร์” ที่สุดจะไม่มีค่าใด หากไม่ได้รับการบ่มเพาะจากพลังจิตของผู้ฝึกสอนที่ใช้อุปกรณ์นี้.

จับตา อลป.ไทย ประชุม 30 มิ.ย.66 นี้ จะสรุปทางเดินอย่างไรในกรณีลูกพี่ใหญ่ IOC ตัดขาด IBA แล้วเราต้องเดินตาม …อีกไม่นานรู้เรื่อง!!!

          วันที่ 30 มิ.ย.2566  จะมีการประชุมคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ งานนี้ ประเด็นที่น่าจับตามองคือ โอลิมปิคไทยจะไปทางไหน กรณี ที่คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) หรือ IOC “ตัดขาด” กับ สหพันธ์มวยสากลนานาชาติ  หรือ IBA โดยไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับงานของ IOC อีกต่อไป             ที่น่าจับตาเพราะ สมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย วันนี้ยังอยู่ในสังกัดของ IBA ที่โดน IOC ตัดขาดในการยุ่งเกี่ยวกับงานกีฬาใด ๆ ที่ IOC ดำเนินการ ใกล้ ๆ ก็คือ เอเชี่ยนเกมส์ครั้งที่ 19 และต่อเนื่องถึง โอลิมปิกเกมส์ 2024             ที่น่าจับตา เพราะว่าปรากฏการณ์แบบนี้ ไม่เคยมีมาก่อน ที่ข้อขัดแย้งใหญ่ ได้กระทบถึงองคาพยพวงการกีฬาที่สำคัญของไทยโดยตรงแบบนี้มาก่อน ที่ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง             22 มิ.ย.2566 การประชุมใหญ่วิสามัญของ IOC มีมติ “ถอนการรับรอง” …

จับตา อลป.ไทย ประชุม 30 มิ.ย.66 นี้ จะสรุปทางเดินอย่างไรในกรณีลูกพี่ใหญ่ IOC ตัดขาด IBA แล้วเราต้องเดินตาม …อีกไม่นานรู้เรื่อง!!! Read More »

ตอนที่ 24 : จดหมายโอลิมปิก ฉบับที่สิบเจ็ด : หนังสืออุดมการณ์โอลิมปิกของคูเบอร์แต็ง : แปลโดย : ดร.นิพัทธ์ อึ้งปกรณ์แก้ว

จดหมายโอลิมปิก ฉบับที่สิบเจ็ด: การออกกำลังกายและเงื่อนไข             ในจดหมายโอลิมปิกนี้ คูเบอร์แต็งแสดงความเห็นต่อการรณรงค์ของฝรั่งเศส ค.ศ.1918 ที่จะบังคับการเล่นกีฬาตั้งแต่อายุหกปี โดยท่านหักล้างความคิดนี้จากหลักการศึกษาที่ว่า การกีฬาไม่สามารถฝึกหัดด้วยการฝืนใจ หากจะต้องการให้เกิดผลตลอดชีวิต นอกจากนี้ การบังคับให้เล่นกีฬาคือสิ่งเป็นไปไม่ได้ในทางปฏิบัติ             มีคำกล่าวว่า ฝรั่งเศสชนกลุ่มหนึ่งต้องการให้บัญญัติกฎหมายที่จะมีบทบัญญัติแรกว่า “พลเมืองฝรั่งเศสทุกคนจะเข้าสู่วัฒนธรรมทางกายตั้งแต่อายุหกปี” โดยหากเนื้อความนี้ไม่ผิด ย่อมเป็นความไร้เดียงสา บ่อยครั้งแค่ไหนในประวัติศาสตร์ที่คำสั่งคล้ายคลึงกันได้ถูกรณรงค์ในเรื่องนี้หรือเรื่องอื่นและทุกคนก็รับรู้ถึงชะตากรรมเดียวกันที่ทำให้สิ่งเหล่านี้ไร้ผลและเป็นโมฆะในชั่วประเดี๋ยวหากไม่ใช่ในวันที่ร่างกฎหมายนั้น ซึ่งเป็นแนวทางเดียวกันกับมาตรการใดก็ตามที่เรียกร้องเงื่อนไขภายนอกหรือภายในเพื่อการรักษาอำนาจไว้ อย่างไรก็ตาม คงจะไม่สามารถกล่าวซ้ำบ่อยครั้งว่า ความเพียรทางกายเป็นสิ่งไม่ปรกติของมนุษย์ซึ่งจะบังคับตนเองภายใต้แรงกดดันของความจำเป็นเฉพาะหน้าหรือเป็นเพราะแรงขับของความปรารถนาที่เปลี่ยนสู่ความจำเป็นเท่านั้น ตามตัวอย่างนี้ อะไรจะเป็นชนิดของข้อจำกัดและใครจะเป็นคนบังคับใช้? ท่านคิดจริงหรือว่า ครอบครัวจะรับผิดชอบภารกิจนี้? ด้วยผลกระทบของเหตุการณ์ปัจจุบันและการประโคมของสื่อมวลชน ก็อาจเป็นไปได้ในสองสามปี หลังจากนั้น หนังสือพิมพ์จะเริ่มคิดถึงเรื่องนี้ พ่อแม่ก็คงเป็นเช่นเดียวกัน จะมีการแต่งตั้งบุคคลประเภทผู้ตรวจกล้ามเนื้อที่รับผิดชอบสอดส่องบ้านเรือนเพื่อตรวจสอบว่า เด็กเล็กก่อนเข้าโรงเรียนจะต้องออกกำลังกายอย่างแข็งขันภายในสายตาของพ่อแม่ตนเอง?…ท่านจะให้เวลากี่เดือนแก่ระบบนี้ก่อนที่พวกเขาจะส่งผู้ตรวจการไปที่ประตูบ้าน? “และจะเป็นสิ่งที่ถูกต้อง” ดังสูตรโบราณที่เคยมี             ในเรื่องนี้ เงื่อนไขจะไม่สำเร็จ ไม่ส่งผลประการใดอย่างแท้จริง โดยจะยังคงต้องการอุปนิสัยใหม่ที่จำเป็นและจะสามารถบรรลุผลทุกประการ ทั้งนี้เนื่องเพราะสิ่งนี้เกิดขึ้นแล้วในอังกฤษ ในสหรัฐอเมริกา ในโบฮีเมีย…โดยพวกเขาสามารถรับมือกับศัตรูร้ายกาจอย่างไม่ทันตั้งตัวได้ และเนื่องเพราะสิ่งนี้กำลังถือกำเนิดขึ้นฝรั่งเศสที่ความทรหดอดทนของประเทศนี้เป็นสิ่งเหนือความคาดหมายทั้งปวง ชาวเยอรมันง่วนอยู่กับการพัฒนาสิ่งนี้ให้เกิดขึ้นในช่วงเวลาแห่งสงครามแต่ก็สายเกินไป ขอให้พวกเราพินิจพิจารณาข้อเท็จจริงเหล่านี้ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการลงมือปฏิบัติ ขอให้พวกเราจงเหยาะเกลือลงบนศรัทธาที่หอมหวานของนักทฤษฎีทั้งหลาย  

IOC เนรเทศ IBA สงครามมวยสากลโลกแตกหัก “ลูกน้องอย่างไทย” ที่เดินตามทั้ง 2 องค์กรจะทำอย่างไรเมื่อลูกพี่แยกทางกัน…ไม่เลือกก็ต้องเลือกข้าง!!!

    ก็ไม่น่าแปลกใจครับกับการที่ คณะกรรมการโอลิมปิกสากล หรือ ไอโอซี (IOC) ลงมติไล่ส่ง สหพันธ์มวยสากลนานาชาติ หรือ ไอบ้า (IBA) ออกจากขบวนการโอลิมปิก ที่  IOC เป็นผู้กำกับดูแลอยู่ ซึ่งนั่นหมายถึงว่า กิจกรรมหรืองานใดของ IOC จะไม่มี IBA ร่วมอยู่ด้วยตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป     เพราะความขัดแย้งทั้ง 2 องค์กรนี้เกินเยียวยาในการร่วมงานกันได้ ด้วยเหตุผลที่มากมาย    จากนี้ไป คณะกรรมการโอลิมปิกสากล ก็จะเดินงานของตัวเองตามหน้าที่ต่อไป อย่างโอลิมปิกเกมส์ ในส่วนของกีฬามวยสากลที่ เคยมี IBA ดูแลช่วยอยู่ โดยต่อไปนี้ IOC ก็จะเป็นผู้ดำเนินการเองทั้งหมดก่อน    ส่วนทางด้าน  IBA นั้นก็ยังเป็นองค์กรกีฬาอยู่ต่อไป แต่ก็ต้องไปเดินงานของตัวเอง เช่น ชิงแชมป์ระดับใด ของตัวเองหรืองานอื่น ๆ ที่แล้วแต่จะทำ เพียงแต่จะไม่ได้เข้าไปยุ่งในกีฬาที่ IOC ดูแลอย่างเช่น โอลิมปิกเกมส์ เอเชี่ยนเกมส์ …

IOC เนรเทศ IBA สงครามมวยสากลโลกแตกหัก “ลูกน้องอย่างไทย” ที่เดินตามทั้ง 2 องค์กรจะทำอย่างไรเมื่อลูกพี่แยกทางกัน…ไม่เลือกก็ต้องเลือกข้าง!!! Read More »

ตอนที่ 23 : จดหมายโอลิมปิก ฉบับที่สิบหก : หนังสืออุดมการณ์โอลิมปิกของคูเบอร์แต็ง : แปลโดย : ดร.นิพัทธ์ อึ้งปกรณ์แก้ว

จดหมายโอลิมปิก ฉบับที่สิบหก: กีฬาขี่ม้า              กีฬาขี่ม้าเป็นหนึ่งในกีฬาโปรดปรานของคูเบอร์แต็งโดยได้ฝึกหัดตั้งแต่วัยเด็กและเป็นนักขี่ม้าที่เก่งกาจคนหนึ่ง ท่านเห็นว่า กีฬาชนิดนี้ทำให้นักขี่ม้าประสบกับความสนุกสนานที่เข้มข้นและสมบูรณ์แบบ นอกจากนี้ ยังเห็นถึงจุดกำเนิดของการกีฬาจากปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับม้า คูเบอร์แต็งบากบั่นในการขยายกีฬา “ผู้ดี” นี้สู่ประชาชนทุกระดับ เพื่อเป้าประสงค์นี้ ท่านเชื่อว่า มีความจำเป็นต่อการเปลี่ยนแปลงวิธีการสอนขี่ม้า โดยท่านได้แสดงความชื่นชมต่อ “การนิยมขี่ม้า” ในบทความหลายชิ้น              ความมีชัยที่ประเสริฐสุดของม้าคือ มนุษย์ ซึ่งย้อนเวลากลับไปนานพอควร ข้าพเจ้าเห็นแม้กระทั่งจุดกำเนิดของการกีฬาในอดีตกาล สำหรับการกีฬาแล้ว พวกเราไม่ควรลืมว่า เป็นสิ่งอธรรมชาติของมนุษย์ ความเพียรเพื่อความเพียรไม่ใช่บัญญัติของสัตว์ทั้งปวง ไม่มีญาติของพวกเรา ไม่ว่าจะเป็นลิง แมว หรือม้าแคระ ที่จะพยายามในการฝึกฝนหรือทำให้ตนแข็งแกร่งขึ้นอย่างตั้งใจ ในวันนี้ ข้าพเจ้าไม่คิดว่า การยึดจับอาวุธจะทำให้มนุษย์เข้าใจการกีฬาแต่เป็นการสัมผัสกับม้า ม้าช่วยทวีคูณรูปร่าง ความแข็งแรง และความเร็วของพวกเรา ม้าคือผู้กระตุ้นพวกเราสู่ความรื่นรมย์เต็มเหนี่ยวกับการไล่ล่า ทำให้พวกเรามี “ความรู้สึกของการมีสี่ขา” ดังคำกล่าวของนักเขียนอเมริกัน สอนพวกเราถึงความสง่างามของดุลยภาพ และให้แรงบันดาลใจแก่พวกเราด้วย “ความภูมิใจในชีวิต” …

ตอนที่ 23 : จดหมายโอลิมปิก ฉบับที่สิบหก : หนังสืออุดมการณ์โอลิมปิกของคูเบอร์แต็ง : แปลโดย : ดร.นิพัทธ์ อึ้งปกรณ์แก้ว Read More »

ตอนที่ 22 : จดหมายโอลิมปิก ฉบับที่สิบห้า : หนังสืออุดมการณ์โอลิมปิกของคูเบอร์แต็ง : แปลโดย : ดร.นิพัทธ์ อึ้งปกรณ์แก้ว

จดหมายโอลิมปิก ฉบับที่สิบห้า: คุณค่าของการชกมวย (ตอนที่สอง)             คงจะไม่เป็นการย้อนแย้งนักที่จะเรียกการชกมวยว่าเป็น “กีฬาแห่งสันติ” ในโรงเรียนพับลิกที่อังกฤษ ครูใหญ่เคยเรียกชื่อเล่นของนวมชกมวยว่า “ผู้รักษาสันติภาพ” และในความเป็นจริงแล้ว ถุงมือเหล่านี้ได้ทำหน้าที่อย่างน่าพึงพอใจโดยทั่วไป ในนิวยอร์ค หัวหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดสนามมวยในเขตพื้นที่อันตรายและช่วยลดสถิติอย่างฉับพลันของการต่อสู้นองเลือดและอาชญากรรมร้ายบนท้องถนน สิ่งเหล่านี้ไม่น่าประหลาดใจ ภายในกายของเยาวชนและบุรุษเพศนั้น มีสัญชาติญาณการต่อสู้ที่ควรให้อภัยและถือเป็นสิ่งธรรมดาโดยจะทุเลาลงได้ด้วยการหาทางปลดปล่อย นี่คือเหตุผลว่า การศึกษาของเด็กชายจะไม่พร้อมสรรพหากปราศจากซึ่งการสัมผัสกับ “กีฬาต่อสู้”             “กีฬาต่อสู้?” อาจจัดแบ่งเป็นการต่อสู้ใช้อาวุธและการต่อสู้ไม่ใช้อาวุธ แบบแรกรวมถึงการออกกำลังกายด้วยมีด ดาบ และดาบไม้ แบบที่สองแบ่งเป็นการชกมวยและมวยปล้ำ ด้วยเหตุผลหลายประการที่ข้าพเจ้าไม่สามารถลงรายละเอียดในจดหมายสั้นเหล่านี้ กีฬาดาบไม้และกีฬาชกมวยมีเหมาะสมยิ่งแก่เยาวชนในความเห็นของข้าพเจ้า หลักสูตรการชกมวยและดาบไม้มีราคาไม่สูงและจัดการได้ง่ายไม่ยุ่งยาก โดยสามารถแนะนำสู่โปรแกรมของชมรมยิมนาสติกและแม้กระทั่งหลักสูตรสถานศึกษา             กีฬาดาบไม้มีวิธีการสองรูปแบบกล่าวคือ แบบธรรมดาและแบบศาสตราจารย์วิกนีย์แห่งเจนีวาซึ่งเป็นรูปแบบดั้งเดิมและเข้มแข็ง โดยทั้งสองรูปแบบจะนำไปสู่ดาบเซเบอร์ซึ่งเป็นกีฬาฟันดาบประเภทหนึ่งที่งดงามแต่ไม่ได้รับความสนใจนักในปัจจุบัน ในทางเดียวกัน กีฬาชกมวยก็มีสองรูปแบบกล่าวคือ แบบอังกฤษหรือแองโกลอเมริกันซึ่งใช้แต่กำปั้น และแบบฝรั่งเศสที่ผสมการเตะและการต่อยเข้าด้วยกัน การปรากฏตัวในโลซานน์ของเจ้าหน้าที่ฝึกงานคือ หมวดดิวเรล์ ซึ่งเป็นแชมเปี้ยนและผู้ฝึกสอนที่มีชื่อเสียงของการชกมวยแบบฝรั่งเศส ทำให้เกิดการแนะนำกีฬาชนิดนี้ในรูปแบบการออกกำลังกายอย่างสมบูรณ์ ณ ที่แห่งนี้ นักยิมนาสติกที่มีความคุ้นเคยกับการชกมวยรูปแบบนี้จะเข้าร่วมในทันทีซึ่งเป็นการส่งเสริมข้อพิสูจน์ถึงการเตรียมพร้อมอย่างดีเยี่ยมของยิมนาสติกที่พวกเขาสนุกสนานในชมรมตนเอง การชกมวยแบบอังกฤษได้รับการสอนในสนามหลายแห่งของเมืองนี้ในลักษณะเพื่อสุขภาพ ซึ่งต้องกล่าวรวมถึงความสุภาพที่จำเป็นด้วย ในผู้ชมบางกลุ่มที่ต้องตอบสนองความต้องการเฉพาะแก่สาธารณชนจะพยายามขับเน้นความป่าเถื่อนโหดร้ายของกีฬาชกมวยโดยบรรจุอันตรายระดับสูงไว้ พวกเราจะต้องจัดเตรียมกีฬาชกมวยแก่เด็กชายโดยปราศจากความลังเลสงสัยว่า กีฬาชกมวยจะทำให้พวกเขากลายเป็นชายชาตรีและไม่ใช่อันธพาล     

จับตาเพื่อไทยครองเก้าอี้ “หัวโต๊ะกีฬา” ในรัฐบาลใหม่ หลังบิ๊กเพื่อไทยส่งสัญญาณแรก ถึง “ทีมบิ๊กป้อม” ทั้งบอร์ด กกท.และ บอร์ด กองทุน ควรทบทวน การกลับมาคิดจัดเอเชี่ยนอินดอร์ และมาเชียลอาร์ตเกมส์

   กลายเป็นเรื่องที่น่าสนใจ เมื่อ “เศรษฐา ทวีสิน” แคนดิเดทนายกรัฐมนตรี เบอร์ 2 ของพรรคเพื่อไทย ออกปากในสื่อส่วนตัวว่า “บอร์ด กกท.และกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ หรือรัฐบาลยุคปัจจุบัน” ควรทบทวนให้กลับมติบอร์ดกกท. “ไม่ควรจะยกเลิก” การเป็นเจ้าภาพกีฬาเอเชี่ยนอินดอร์ และมาเชียลอาร์ตเกมส์ ครั้งที่ 6 ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพเดือน พ.ย.2566 นี้ เพราะจะกระทบหลายด้าน รวมทั้งจะขาดประโยชน์หลายอย่างของชาติ    สิ่งที่น่าจับตา ไม่ใช่แค่ประเด็นที่ “บิ๊กเพื่อไทย” ท่านนี้เอ่ยเท่านี้..เพราะมันเป็นแค่สัญญาณแรกเท่านั้น    แต่มันยังมีหลายมุมต่อจากเหตุนี้ ที่ตรงกับการสนทนาของคนในวงการกีฬากลุ่มหนึ่ง ที่มองไว้ก่อนแล้วว่า พรรคเพื่อไทยสนใจเก้าอี้กีฬา และมีการคิดเตรียมการไว้แล้ว ว่าหากเพื่อไทยได้ร่วมรัฐบาล ในฐานะพรรคเบอร์ 2 นั้น โอกาสที่เพื่อไทยจะได้ครอบครองเก้าอี้หัวโต๊ะกีฬาที่หมายถึง รัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และ รองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลกีฬาจากการมอบหมายของนายกรัฐมนตรี….มีโอกาสมากที่สุด    เพราะพรรคเบอร์ 1 คงมุ่งเน้นทางด้านคุมกำลังด้านกระทรวงเศรษฐกิจและความมั่นคง    และงานด้านกีฬาน่าจะเป็นทางเลือกแบบ “ไม่ต้องต่อรองแลกเปลี่ยนกระทรวงกับพรรคอื่นมากมายนัก”    และหากเช็คย้ำถึงการสนทนาระหว่าง “อดีตผู้นำองค์กรกีฬา” กับ บิ๊กเพื่อไทย …

จับตาเพื่อไทยครองเก้าอี้ “หัวโต๊ะกีฬา” ในรัฐบาลใหม่ หลังบิ๊กเพื่อไทยส่งสัญญาณแรก ถึง “ทีมบิ๊กป้อม” ทั้งบอร์ด กกท.และ บอร์ด กองทุน ควรทบทวน การกลับมาคิดจัดเอเชี่ยนอินดอร์ และมาเชียลอาร์ตเกมส์ Read More »

เลิกไม่เลิก เลื่อนไม่เลื่อน เอเชียนอินดอร์ อยู่ที่ “บิ๊กป้อม” ที่จะนำนาวากีฬาไทยไปทางใด และเชื่อว่า”สภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย” กำลังเฝ้ารอการตัดสินใจของไทยอย่างใกล้ชิด

   อยู่ที่เรื่องมติคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย (บอร์ด กกท.) เมื่อ 31 พ.ค.2566 กับการมีมติที่จะขอยกเลิกหรือเลื่อนการแข่งขันเอเชียนอินดอร์และมาเชียลอาร์ทเกมส์ ครั้งที่ 6 ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพในเดือน พ.ย.2566  อีกไม่กี่เดือนข้างหน้า    ด้วยเหตุผลอย่างเดียวที่ชัด ๆ คือ ตอนนี้ในช่วงรัฐบาลรักษาการนั้น กกท.ทำเรื่องของหารือสำนักงบประมาณ เพื่อที่จะเดินต่อไปขอความเห็นชอบ จากคณะกรรมการการเลือกตั้ง เพื่อที่จะขอเงินงบกลางจากรัฐบาล ยังไม่แน่ชัด ขณะที่ข่าวขั้นต้นนั้น ระบุแนวทางที่สองที่เดินไม่ได้คือ การของบจากเงินสะสมกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ไม่ได้อีก โดยข้อสรุปคือกองทุนไม่มีงบแบ่งให้    มติการขอยกเลิก หรือขอเลื่อน จึงเกิดขึ้น จากบอร์ด กกท.ที่ทุกคนต้องร่วมรับผิดชอบ ถึงแม้จะอ้าปากไม่ค่อยได้ก็ตาม แต่คงหนีความรับผิดชอบไม่ได้เพราะเป็นมติกลุ่ม    ทันทีที่ข่าวออกมา กระแสในวงการกีฬาระดับคีย์แมนกีฬาของชาติ นานาชาติ หรือแม้แต่คนในองค์กรกีฬาทุกระดับของไทย ต่างก็กระซิบกันว่าไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง ที่จะขอยกเลิก แต่ไม่กล้าพูดดัง ๆ มากกว่านั้น เพราะเกรงจะโดนเพ่งเล็งโดยใช่เหตุ จากผู้ไม่ประสงค์ดี ไปฟ้องเจ้านาย    คำว่าไม่เห็นด้วยกับการยกเลิกคนของวงการกีฬา กับที่นี่ Station THAI ก็ตรงกันคือ …

เลิกไม่เลิก เลื่อนไม่เลื่อน เอเชียนอินดอร์ อยู่ที่ “บิ๊กป้อม” ที่จะนำนาวากีฬาไทยไปทางใด และเชื่อว่า”สภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย” กำลังเฝ้ารอการตัดสินใจของไทยอย่างใกล้ชิด Read More »

ตอนที่ 21 : จดหมายโอลิมปิก ฉบับที่สิบสี่ : หนังสืออุดมการณ์โอลิมปิกของคูเบอร์แต็ง : แปลโดย : ดร.นิพัทธ์ อึ้งปกรณ์แก้ว

จดหมายโอลิมปิก ฉบับที่สิบสี่: คุณค่าของการชกมวย (ตอนที่หนึ่ง)             คูเบอร์แต็งให้คุณค่าเชิงการศึกษาเป็นอย่างมากแก่กีฬาฟันดาบและโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกีฬาชกมวยสำหรับการสร้างความเป็นชาย โดยท่านไม่พอใจเป็นที่สุดในกรณีที่กีฬาชกมวยถอนตัวจากโปรแกรมในโอลิมปิกเกมส์ 1912 ที่สต็อกโฮล์มเนื่องด้วยเหตุผลทางกฎหมาย คูเบอร์แต็งชื่นชอบกีฬาทั้งสองชนิดอย่างสูงซึ่งท่านเองได้ฝึกหัดกีฬาทั้งสองชนิดนี้ จึงไม่เป็นที่แปลกใจว่าท่านได้ตีพิมพ์บทความหลายชิ้นเกี่ยวกับกีฬาสองชนิดนี้ จดหมายโอลิมปิกทั้งสองฉบับต่อไปนี้ คูเบอร์แต็งทบทวนความสำคัญเชิงการศึกษาของกีฬาป้องกันตัวสำหรับเยาวชนโดยเน้นย้ำประโยชน์ของการชกมวยด้านการบำบัด ธีโอดอร์ รูซเวลต์ ได้แสดงความมีประสิทธิผลของเรื่องนี้โดยการเปิดชมรมชกมวยในพื้นที่ยากจนของนิวยอร์ค              เมื่อวานก่อน ข้าพเจ้าได้สาธยายวิธีการที่ ธีโอดอร์ รูซเวลต์ ได้ใช้กีฬาชกมวยเป็นบันไดขั้นแรกของการพัฒนาความเป็นชายของตนเองอย่างหนักแน่น ในปัจจุบัน การชกมวยไม่เป็นที่ชื่นชอบของพลเมืองโลซานน์ พ่อแม่ไม่ประสงค์ให้ลูกหลานเข้าไปข้องแวะซึ่งพวกเขาผิดพลาดยิ่งในเรื่องนี้ ในสายตาของพวกเขา การชกมวยเป็นเพียงแค่ศิลปะของการชก (ศิลปะที่เป็นธรรมชาติของความจำเป็นต้องการที่ปลายแขนผู้ชายที่แข็งแรงและเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ) ซึ่งเป็นความไม่ถูกต้องอย่างยิ่ง การชกมวยไม่ใช่สัญชาติญาณเท่านั้น หากท่านไม่เคยลองเรียนชกมวย จงลองต่อยหรือเตะให้ตรงดู แล้วท่านจะค้นพบไม่เพียงความงุ่มง่ามแต่ยังเป็นความไร้ประสิทธิผลอย่างสิ้นเชิงของความพยายามตนเอง ซึ่งจะกลายเป็นการเฉี่ยวหรือการชะงักงันเท่านั้น ท่าทางที่ธรรมชาติสอนให้คนป้องกันตนเองคือการคว้าจับอาวุธใกล้มือ หรืออาจยึดกุมคู่ต่อสู้และพยายามทุ่มเขาลงซึ่งเป็นอันตรายในทุกสิ่ง ทัศนคติของนักชกมวยมีดุลยพินิจมากกว่านั้นมาก โดยจะเริ่มต้นการปกป้องจากการจัดท่าด้วยทักษะระดับสูงที่พร้อมต่อสู้จากด้านหลัง เล็งกำหมัดที่เข้าหา และตัดสินใจที่จะหลบหลีกหรือปัดป้อง พร้อมหาพื้นที่รุกหรือตอบโต้กลับ รวมทั้งรวบรวมความแข็งแรงสู่ด้านหน้าในช่วงเวลาวิกฤต ซึ่งเป็นกลวิธีและยุทธศาสตร์แบบย่อส่วนที่ต้องการคุณลักษณะด้านร่างกายและจิตใจเป็นอย่างมาก นักชกมวยจำเป็นต้องมีความนิ่งและผ่อนคลาย ความว่องไวของสายตาและการตัดสินใจ ความปราดเปรียวว่องไวและเหนือสิ่งอื่นใดคือ พลังความกล้าหาญที่ต่อเนื่องตลอดเวลาของการแข่งขัน ซึ่งจะไม่ปรากฎความอ่อนแอแต่ประการใด             นอกจากประโยชน์ข้างต้นแล้ว การชกมวยคือกีฬาสำหรับชายชาตรีที่เร่งรีบด้วยการออกกำลังกายอย่างเต็มที่ในเวลาสั้นที่สุดและต้องการอุปกรณ์น้อยชิ้น สิ่งจำเป็นคืออะไร? ถุงมือคู่หนึ่ง กางเกงขาสั้น และรองเท้าพื้นนุ่มเปิดส้น …

ตอนที่ 21 : จดหมายโอลิมปิก ฉบับที่สิบสี่ : หนังสืออุดมการณ์โอลิมปิกของคูเบอร์แต็ง : แปลโดย : ดร.นิพัทธ์ อึ้งปกรณ์แก้ว Read More »

วงการกีฬาลุ้น “บอร์ดกกท.” ทบทวนมติขอยกเลิกการจัดเอเชี่ยนอินดอร์ หวั่นเหตุผล และความกระชั้นชิดของเวลา จะทำให้ชาติเสียหาย และหากไม่จัดจริง เชื่อว่าจะเป็นการทิ้ง “มรดกบาป” ให้กับวงการกีฬาไทยไปตลอดกาล

   คงจะข่าวที่โด่งดังแน่นอน หากว่ามีการดำเนินการ “จริง” กับเรื่องที่คณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย (บอร์ด กกท.) ซึ่งประชุมเมื่อ 31 พ.ค.2566 มีมติจะขอยกเลิกการจัดการแข่งขันเอเชียนอินดอร์ และมาเชียลอาร์ตเกมส์ ครั้งที่ 6 ที่ไทยขอเป็นเจ้าภาพมาเองและกำหนดจะจัดในเดือน พ.ย.2566 ที่กรุงเทพ และ ชลบุรี ที่หากจะนับจริง ๆ นั้นเหลือเวลาไม่ถึง 6 เดือนดีแล้วที่มหกรรมนี้จะเริ่มต้นขึ้น    โดยกระบวนการต่อไปหากไทยจะยกเลิกจริง คือ จะต้องแจ้งมติบอร์ด กกท.ไปยังคณะรัฐมนตรี โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อระบุเหตุผลในการขอยกเลิก แล้วส่งต่อให้ คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย แจ้งไปยังสภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย หรือ โอซีเอ ที่เป็นเจ้าของเกมส์ (ซึ่งกว่าจะเสร็จกระบวนการนี้อาจจะเหลือเวลาไม่ถึง 4-5 เดือนก่อนงานจะเริ่มแข่งจริง) และต่อไป โอซีเอ ต้องเรียกฝ่ายที่เกี่ยวข้องประชุม ถ้าพิจารณาเห็นตามเราแจ้งนั้นก็จะแจ้งไปยังชาติสมาชิก 45 ชาติทั่วเอเชียถึงการยกเลิก ซึ่งหากนับเวลาที่กระชั้นนี้ อาจจะเหลือเวลาอีกไม่เท่าไหร่ก่อนถึงวันกำหนดแข่ง ที่ทุกชาติต้องเตรียมนักกีฬาเข้าร่วม ในการที่จะเสร็จสิ้นกระบวนการขอยกเลิกทั้งหมด    ดูเหมือนง่ายๆ ครับกับการ “คิดและจะทำ” อย่างนั้น …

วงการกีฬาลุ้น “บอร์ดกกท.” ทบทวนมติขอยกเลิกการจัดเอเชี่ยนอินดอร์ หวั่นเหตุผล และความกระชั้นชิดของเวลา จะทำให้ชาติเสียหาย และหากไม่จัดจริง เชื่อว่าจะเป็นการทิ้ง “มรดกบาป” ให้กับวงการกีฬาไทยไปตลอดกาล Read More »

You cannot copy content of this page

error: Content is protected !!