สถานีความคิด

ตอนที่ 8 : ระบบการศึกษาอังกฤษ : หนังสืออุดมการณ์โอลิมปิกของคูเบอร์แต็ง : แปลโดย : ดร.นิพัทธ์ อึ้งปกรณ์แก้ว

ระบบการศึกษาอังกฤษ             เมื่อคูเบอร์แต็งเดินทางถึงอังกฤษ ระบบการศึกษาได้รับอิทธิพลจากแนวคิดของโทมัส อาร์โนลด์ ซึ่งเป็นนักบวชและครูใหญ่โรงเรียนรักบี้เป็นระยะเวลาสิบสี่ปีตั้งแต่ ค.ศ.1828 โดยท่านได้พัฒนาและยกฐานะโรงเรียนไปสู่ความเป็นสถาบันด้วยการให้ความสำคัญแก่การกีฬาอย่างจริงจัง ระบบการศึกษาอังกฤษที่ส่งเสริมบุคคลในด้านความคิดริเริ่ม เสรีภาพต่อการเล่นเป็นทีมซึ่งสนับสนุนการพัฒนารอบด้านของมนุษย์และค่านิยมการแข่งขันนั้น จะติดตัวไปตลอดชีวิต             ความกระจ่างชัดต่อคุณลักษณะทางการศึกษาที่อาร์โนลด์ประสบผลค่อยๆปรากฏแก่คูเบอร์แต็ง อาร์โนลด์สร้างเสริมจิตศึกษาที่จะนำไปสู่การค้นพบจิตของร่างกายเพื่อให้เกิดความรับผิดชอบตนเองต่อการสร้างสรรค์ผลงาน พุทธิศึกษาที่สร้างคุณค่าแก่ดุลยพินิจ และพลศึกษาที่ทำให้ค้นพบความลับแห่งภูมิปัญญาของการกีฬาซึ่งเป็นส่วนสำคัญยิ่งต่อการเตรียมตนเอง             คูเบอร์แต็งกล่าวสุนทรพจน์ในวันที่ 18 เมษายน ค.ศ.1887 ณ กรุงปารีส แก่สมาชิกของสมาคมเศรษฐกิจและสังคมซึ่งตามด้วยการอภิปรายข้อเสนอของคูเบอร์แต็ง โดยเขาได้นำส่วนต่างๆที่สำคัญของสุนทรพจน์นี้บรรจุไว้ในหนังสือของตนเองชื่อ L’Education en Angleterre  ท่านสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษ             การเริ่มต้นหัวข้อสนทนาในครั้งนี้ หน้าที่หลักของข้าพเจ้าคือการกำหนดหัวเรื่องหนึ่งที่มีขอบเขตกว้างซึ่งข้าพเจ้าขอเสนอให้พิจารณาโดยเฉพาะ อันที่จริง ขอบเขตของข้าพเจ้าจักต้องไปไกลกว่าอังกฤษ เช่นเดียวกับประเทศอื่น ระบบการศึกษาอังกฤษมีหลายรูปแบบโดยมีรูปแบบประถมศึกษา มัธยมศึกษา เอกชนและพับลิก สามัญและอาชีวะ แต่ความแตกต่างเหล่านี้ไม่สำคัญสักเท่าไรในอังกฤษเมื่อเทียบกับประเทศอื่นเช่น ฝรั่งเศส เป็นต้น สิ่งเหล่านี้เป็นหลักทั่วไปซึ่งเป็นธรรมเนียมนิยมของชาวอังกฤษไม่ว่าจะยากดีมีจนในการเลี้ยงดูลูกหลาน ทั้งนี้ จึงเป็นที่มาของคำว่า “ระบบการศึกษาอังกฤษ” ที่ไม่ชัดเจนเท่าที่ควรจะเป็น แต่กลับมีความหมายพิเศษและสนองตอบแก่ระบบหนึ่งที่มีความชัดเจนยิ่ง             ช่วงเย็นนี้ ข้าพเจ้าขอกล่าวต่อท่านเกี่ยวกับรูปแบบมัธยมศึกษาสายสามัญของรัฐ อย่างไรก็ตาม ข้าพเจ้าจะไม่พรรณนารูปแบบโรงเรียนไปมากกว่านี้และจะไม่แบ่งการศึกษาตามท่านบิชอร์ป ดูพานลูปเป็นสี่ประเภทกล่าวคือ ศาสนา …

ตอนที่ 8 : ระบบการศึกษาอังกฤษ : หนังสืออุดมการณ์โอลิมปิกของคูเบอร์แต็ง : แปลโดย : ดร.นิพัทธ์ อึ้งปกรณ์แก้ว Read More »

กรณีศึกษา กัมพูชาจัด “กุนขะแมร์” ในซีเกมส์ สมาคมมวยไทยไม่ส่งก็ถูกต้อง แต่การดันเอา IFMA มาเป็นเครื่องมือต่อต้านด้วย ผู้รู้มองว่า…พลาด!!

กลายเป็นเรื่องใหญ่และยาว กับกีฬา “กุนขะแมร์” ที่เจ้าภาพซีเกมส์ครั้งที่ 32 กัมพูชา จะจัดแข่งขันชิงเหรียญในหนนี้ ซึ่งเจ้าภาพเขาแจ้งสมาชิก และมนตรีซีเกมส์ของแต่ละชาติ รวมทั้งคณะกรรมการโอลิมปิคของชาติสมาชิกก็รับทราบแล้วว่าจะจัด “กุนขะแมร์”และมีสหพันธ์กีฬากุนขะแมร์นานาชาติ รับรองแล้ว ในกระบวนการก็เรียบร้อยตามข้อตกลงร่วมของสมาชิกที่ถูกต้อง เมื่อตรงนั้นจบ ต่อจากนั้นก็เป็นเรื่องที่ชาติไหนจะส่งหรือไม่ส่งนักกีฬาแข่งก็เป็นเรื่องของแต่ละชาติ ทางประเทศไทย “สมาคมกีฬามวยไทยสมัครเล่น” ไม่ส่งจะด้วยอะไร ก็แจ้งผ่านคณะกรรมการโอลิมปิคของไทย จากนั้นคณะกรรมการโอลิมปิคของไทยที่เป็นผู้ประสานงานของแต่ละชาติก็แจ้งฝ่ายจัดการแข่งขันเจ้าภาพ ก็จบ “ที่ไม่ต้องคิดมาก” ปัญหามวยไทยในซีเกมส์ มันมีมานานแล้ว ตั้งแต่เริ่มคุยกันจะนำ “มวยไทย” เข้าซีเกมส์ กัมพูชา ลาว เมียนมาหรือพม่า เขาก็ค้านตั้งแต่แรกว่าไม่ควรมีคำว่า “ไทย” เพราะรากเหง้าทุกชาติที่ค้านระบุว่ากีฬานี้มันมาจากศิลปะป้องกันตัวของกลุ่มชาติแถวนี้ ที่มีลักษณะการใช้อาวุธเหมือนกันตั้งแต่โบราณ ซึ่งท้ายสุดก็มีการยอมกันจากการผลักดันใน ปี 2005 ซีเกมส์ที่ฟิลิปปินส์ ก็ได้จัดด้วยการยืนตรงกลางคือคำว่า “มวย” และอยู่ภายใต้การกำกับของสหพันธ์มวยไทยนานาชาติ หรือ IFMA ก็ว่ากันไป ปี 2007 ไทยเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ กลับมาใช้คำว่า “มวยไทย” สมาชิกก็ไม่ว่าอะไรส่วนหนึ่งก็มาร่วมแต่ ชาติอย่างกัมพูชา ลาว เมียนมา ก็ไม่ส่งมา ก็จบกันเพราะเป็นสิทธิของเขา …

กรณีศึกษา กัมพูชาจัด “กุนขะแมร์” ในซีเกมส์ สมาคมมวยไทยไม่ส่งก็ถูกต้อง แต่การดันเอา IFMA มาเป็นเครื่องมือต่อต้านด้วย ผู้รู้มองว่า…พลาด!! Read More »

แจงข่าวมั่ว “มวยไทยจะไปโอลิมปิกเกมส์2028” และงงข่าวแปลก มวยสากลเอเชียจะข้ามหน้าลูกพี่ เตรียมยิงรายงานตรงถึงโอลิมปิกสากล “ว๊าวววว”

ติดตามเนื้อหาข่าว เรื่องราวของ “ขาวลือ” และข่าวแปลก ๆ ของวงการกีฬาในช่วงนี้เลยหยิบมาขยายความ เพื่อให้เกิดความกระจ่างซักนิดเถอะครับ ข่าวลือแรกมั่วแน่คือ ข่าวสหรัฐยอมรับ “มวยไทยเข้าสู่โอลิมปิก ที่มีการตีข่าววุ่นว่ามวยไทยจะเข้าโอลิมปิกเกมส์ 2028” ที่ลอสแองเจลีส สหรัฐจะเป็นเจ้าภาพ มีการแปลความหมายเป็นคำพูดจากไหนไม่รู้นำไปยินดีกันว่อนสื่อออนไลน์ และสื่อหลักบางแห่งยังเพ้อเจ้อไปด้วย ขยายความคือ “ไม่ใช่เลย” เพราะข้อเท็จจริงที่ว่าสหรัฐแรกยอมรับนั้นเป็น คณะอำนวยการของคณะกรรมการโอลิมปิกและพาราลิมปิกสหรัฐอเมริกา (USOPC) ที่ให้การรับรองมวยไทยที่หมายถึงสมาคมกีฬามวยไทยของสหรัฐ เป็นสมาชิกของ USOPC เฉย ๆ ซึ่ง USOPC ก็เหมือนคณะกรรมการโอลิมปิคไทยและคณะกรรมการพาราลิมปิกไทยนี่แหละ ที่มันเป็นเรื่องปกติที่เขารับรองสมาคมกีฬาของเขา ซึ่งก็รับรองพร้อมกัน 11 สมาคมกีฬา ไปตามขั้นตอนเฉยๆ  เรื่องนี้มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับการจัดการแข่งขันโอลิมปิก 2028 ของสหรัฐเลยครับ เรื่องรายละเอียดที่มาที่ไปพวกนี้ มีแยะแต่เอาเป็นว่า “อย่าไปมั่วตามว่า อลป.2028 สหรัฐจะจัดกีฬามวยไทย” ก็พอครับ เพราะกีฬามวยไทยเราหลุดในข่ายที่จะจัดได้ไปนานแล้ว เรื่องที่สองจากการประชุม ASBC หรือสมาพันธ์มวยสากลแห่งเอเชีย ที่มีคุณพิชัย ชุณหวชิร เป็นประธานวันวาน ที่ระบุในข่าวออกมาว่า จะมีการเตรียมนำเสนอจุดยืนหรือข้อมูล เสนอต่อคณะกรรมการโอลิมปิกสากลหรือ IOC เพื่อแสดงให้เห็นว่าชาวมวยสากลในเอเชียอยากให้มีมวยสากลในโอลิมปิกเกมส์ต่อ …

แจงข่าวมั่ว “มวยไทยจะไปโอลิมปิกเกมส์2028” และงงข่าวแปลก มวยสากลเอเชียจะข้ามหน้าลูกพี่ เตรียมยิงรายงานตรงถึงโอลิมปิกสากล “ว๊าวววว” Read More »

ตอนที่ 7 : มหาวิทยาลัยอีกฟากฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก : หนังสืออุดมการณ์โอลิมปิกของคูเบอร์แต็ง : แปลโดย : ดร.นิพัทธ์ อึ้งปกรณ์แก้ว

บทนำ             เดือนกรกฎาคม ค.ศ.1889 มร.อาร์มอนด์ เฟเลียร์ (รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการฝรั่งเศส) ส่งคูเบอร์แต็งไปสหรัฐอเมริกาและแคนาดา “เพื่อเยี่ยมชมมหาวิทยาลัยและวิทยาลัยต่างๆที่นั่นและศึกษาองค์กรและการดำเนินงานของสมาคมกีฬาที่จัดตั้งโดยเยาวชนของประเทศเหล่านี้” คูเบอร์แต็งออกเดินทางช่วงปลายเดือนกันยายน ในระหว่างนี้ เขาเตรียมการเดินทางโดยอ่านทบทวนหนังสือชื่อ Democracy in America ของท็อควิเล คูเบอร์แต็งได้เห็นอเมริกาเป็นครั้งแรกในวัยเพียง 26 ปี เช่นเดียวกับท็อควิเล คูเบอร์แต็งเดินทางมาเพื่อเข้าใจบริบทซึ่งประชาธิปไตยต้องสมบูรณ์เพื่อแสดงบทบาทต่อการศึกษา ทั้งนี้ แม้ฝรั่งเศสจะยกเลิกระบอบขุนนางแต่ยังไม่สามารถสถาปนาประชาธิปไตยที่เสถียรภาพได้และหลักการศึกษายังคงไว้ซึ่งอนุรักษ์นิยม             เมื่อถึงที่หมาย คูเบอร์แต็งเดินทางไปทั่ว เก็บข้อมูล สังเกตการณ์ และจดบันทึกผลสะท้อนคิดของตนเอง อเมริกันชนกำลังเตรียมอนาคตของพวกเขาภายในและโดยรอบของมหาวิทยาลัยต่างๆ แม้ความพยายามต่างๆจะแลดูไม่ค่อยบูรณาการ แต่ผลความก้าวหน้าได้สร้างจิตวิญญาณที่ดีของการแข่งขัน โดยจิตวิญญาณนี้ได้ประโยชน์จากความเป็นแองโกลแซกซันที่เด่นชัด จำนวนนักวิชาการและนักวิจัยที่มากหลาย รวมทั้งความกว้างใหญ่ของทวีป             สำหรับอเมริกันชนแล้ว ความเคารพกฎหมายมีความสำคัญทัดเทียมกับเสถียรภาพของพลเมืองและศาสนา ความซื่อตรง จิตอาสา และการเสี่ยงเพื่อผลกำไรคือ หลักปฏิบัติ             สมาคมกีฬาเฟื่องฟูทั้งภายในและภายนอกมหาวิทยาลัย คูเบอร์แต็งเล็งเห็นการศึกษาสองระบบที่ตรงข้ามกัน ระบบที่มาจากอังกฤษเน้นเกมกีฬาอิสระ อีกระบบคือยิมนาสติกของชาวเยอรมัน โดยนักกีฬาจะถูกคัดเลือกด้วยเกณฑ์สรีระที่ชัดเจนและเคร่งครัด             คูเบอร์แต็งพบว่า อเมริกาในขณะนั้น แม้จะมีสถาบันการศึกษาชั้นสูงจำนวนมาก แต่กลับมีจำนวนโรงเรียนมัธยมศึกษาไม่มากและล้วนต่างมุ่งเน้นการเตรียมนักเรียนเพื่อการสอบเข้ามหาวิทยาลัย การจัดการศึกษาในลักษณะนี้ส่งผลให้พื้นฐานสติปัญญาและจริยธรรมสั่นคลอนในขณะที่นักเรียนกำลังเข้าสู่ระยะสำคัญสุดของชีวิตในการสร้างความเป็นมนุษย์และพลเมือง โรงเรียนใหม่ๆถูกจัดตั้งขึ้นตามแนวการสอนของอาร์โนลด์เพื่อแก้ไขข้อบกพร่องนี้ …

ตอนที่ 7 : มหาวิทยาลัยอีกฟากฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก : หนังสืออุดมการณ์โอลิมปิกของคูเบอร์แต็ง : แปลโดย : ดร.นิพัทธ์ อึ้งปกรณ์แก้ว Read More »

วงการกีฬาระอุ “บัตรสนเท่ห์ และการร้องเรียน” ว่อนสู่ กกท.และถึงสายตาคนวงการกีฬา..วันนี้จับตานายใหญ่จะเคลียร์หรือปล่อยให้ค้างคาใจ

 ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณพี่น้องในวงการกีฬา ระดับสูงทีเชื่อถือได้ ที่ส่งเอกสารทั้งหมดมาให้อย่างต่อเนื่อง ที่ Station THAI สื่อเล็ก ๆ อย่างเรา  เอกสารที่ว่าคือ ข้อร้องเรียนไปถึงการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ผ่านไปถึงผู้ว่าการ กกท.และบางส่วนผ่านสื่อออนไลน์ในกลุ่มของตัวเอง ผมว่าคนวงการกีฬาส่วนหนึ่งคงเห็น ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายเชียร์หรือฝ่ายแช่งคงได้เห็นมาแล้วไม่ทั้งหมดก็คงส่วนหนึ่ง ซึ่งเอกสารเหล่านี้จะเรียกเป็นข้อเสนอแนะ ข้อร้องเรียน ข้อกล่าวหา หรือจะเรียกเป็นบัตรสนเทห์ หรือจะเรียกอะไรก็ว่าไป ตามสะดวกที่ใครจะคิดให้ความหมายไป  เนื้อหาที่มีนั้นซ้ำ ๆ ของการร้องเรียนหลาย ๆ ฉบับ ไปถึง กกท. เอกสารบางตัวนั้นมีการลงเลขรับจาก กกท.อย่างชัดเจน ที่เนื้อหาคือ การทนไม่ไหวกับ การดำเนินการของสำนักงานกองทุนพัฒนาการกีฬา ในเรื่องต่าง ๆ ช่วงที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน  โดยชื่อผู้ร้องเรียนนั้น ไม่ได้เปิดชื่อจริง แต่ใช้ชื่อว่าผู้ร้องทุกข์ คนในองค์กรกีฬา ผู้เกี่ยวข้อง หรือ ผู้หวังดี (อย่างนี้การปิดชื่อจริงก็ลดความน่าเชื่อถือไปมากพอควร) Station THAI ได้เห็นหลายฉบับจากความกรุณาพี่น้องที่ส่งมาให้ ก็ได้อ่านหลาย ๆ ฉบับลีลาต่างกันบ้าง แต่ระบุเนื้อหาในประเด็นโดยรวมคล้ายกันคือ  คนในสำนักงานกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาตินั้น ทำการไม่เหมาะสม-ไม่ควร …

วงการกีฬาระอุ “บัตรสนเท่ห์ และการร้องเรียน” ว่อนสู่ กกท.และถึงสายตาคนวงการกีฬา..วันนี้จับตานายใหญ่จะเคลียร์หรือปล่อยให้ค้างคาใจ Read More »

มวยไทย (4) : มีคนที่เกี่ยวข้องว่าไว้ว่า อาจจะตายไปก่อน ที่จะเห็นมวยไทยไปสู่โอลิมปิกเกมส์

 ชื่อเรื่องนี้เป็นการได้ยินกับหู จากผู้ที่เคยมีส่วนร่วมในการผลักดัน “กีฬามวยไทย” จากจุดเริ่มต้นที่จะก้าวสู่กีฬาเพื่อความเป็นเลิศ จนได้เข้าสู่ซีเกมส์ ได้เข้าสู่เกมการแข่งขันระดับต่าง ๆ ที่น่าชื่นใจ แต่แนวทางสำหรับการขึ้นไปสู่การเป็น 1 ในชนิดกีฬาที่จะมีการจัดชิงเหรียญทองใน โอลิมปิกเกมส์ ในอนาคตนั้น “พอมองเห็นปลายทาง” แต่ก็ไม่รู้เมื่อไหร่  เพราะไม่มีใครรู้ว่ากีฬามวยไทยจะได้เข้าโอลิมปิกเกมส์เมื่อไหร่  ผม (ผู้เขียน) ติดตามเรื่องนี้มานานพร้อมทั้งพยายามศึกษา จึงขออธิบายง่าย ๆ คือ กีฬาที่ คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) มี 2 กลุ่มคือ กลุ่มที่ได้รับการยอมรับ ที่จะเรียกว่า กลุ่ม 1 และ กลุ่มที่ได้รับการรับรองใหม่ๆ ขอเรียกว่า กลุ่ม 2 / ง่าย ๆ ต่ออีกก็คือ กลุ่ม 1 ถ้าเห็นควรโดย IOC และเจ้าภาพ ก็จัดได้เลย ขณะที่ กลุ่ม 2 นั้นหากมีการเลือกหยิบขึ้นมา จะต้องมีเงื่อนไขให้กีฬานั้นเสนอข้อมูลหรือมีเครื่องการันตีด้านต่างๆเพิ่มเติม จึงอาจจะถูกเลือกจัด หากว่า IOC …

มวยไทย (4) : มีคนที่เกี่ยวข้องว่าไว้ว่า อาจจะตายไปก่อน ที่จะเห็นมวยไทยไปสู่โอลิมปิกเกมส์ Read More »

มวยไทย (3) : เส้นทางที่ยังมืดมนในเอเชี่ยนเกมส์..แล้วจะกล้าฝันถึงโอลิมปิกอีกหรือ!

ปี 2541 ไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันเอเชี่ยนเกมส์ครั้งที่ 13 กีฬา “มวยไทย”ถูกผลักดันที่เป็นก้าวสำคัญในการเข้าเป็นกีฬาสาธิตได้สำเร็จ ที่หมายถึงพร้อมที่จะเป็นกีฬาที่มีการชิงเหรียญทองอย่างเป็นทางการ และปีต่อมา มวยไทย ในชื่อ “มวย หรือ Muay” ได้รับการรับรองจากสภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย (OCA) ให้เป็น Asian Sports ที่ทุกชาติสามารถจัดแข่งได้ในเอเชี่ยนเกมส์..ก็เป็นที่น่ายินดี แต่จากนั้น…ความยินดีก็น้อยลงเรื่อย ๆ กับความหวังที่จะได้รับการยอมรับจากชาติต่าง ๆ กับการที่จะนำมวยไทยในชื่อมวยนั้นเข้าสู่การแข่งขันกีฬาอย่างเอเชี่ยนเกมส์ เพราะหลังจากนั้นมาจนถึงบัดนี้ ไม่มีเจ้าภาพครั้งใดจัด “มวย-มวยไทย” เลย… จะมีเพียงกีฬาข้างเคียงในเอเชียที่อยู่ภายใต้การดูแลของ OCA เหมือนกัน อย่าง เอเชี่ยนอินดอร์-เอเชี่ยนมาเทียลอาร์ต-เอเชี่ยนบีช จะมีการจัดมวยไทย หรือ ใช้ชื่อมวยให้ได้เห็น  จากบันทึกในปี 2005 ไทยได้จัดเอเชี่ยนอินดอร์เกมส์ครั้งแรก ก็เริ่มมีแข่งขันมวย  มีชิงกันแบบมหาศาลเหรียญ คือชิงชาย 20 เหรียญทอง หญิง 12 เหรียญทอง และก็มีอีกมหกรรมคือ  เอเชี่ยนมาเทียลอาร์ตเกมส์ ซึ่งจัดครั้งแรกก็ที่ไทยอีกในปี 2009 ก็มีมวยแข่ง แต่จากนั้น 2 รายการนี้คือ …

มวยไทย (3) : เส้นทางที่ยังมืดมนในเอเชี่ยนเกมส์..แล้วจะกล้าฝันถึงโอลิมปิกอีกหรือ! Read More »

มวยไทย (2) : ไม่มีมิตรภาพที่แท้จริงในซีเกมส์สำหรับมวยไทย จริงหรือไม่ โปรดพิจารณา

ข้อตกลง ในการเขียนนี้คือ คำว่ามวยไทย คือ กีฬามวยไทยสมัครเล่น ซึ่งถือเป็นกีฬาเพื่อมุ่งนำไปสู่ความเป็นเลิศ เฉพาะเจาะจงเกมแข่งที่มีอนาคตและความหมายในการต่อยอด คือ ซีเกมส์ เอเชี่ยนเกมส์ และ โอลิมปิกเกมส์ ดังที่กล่าวไว้แล้วในตอนที่ 1…ไม่เกี่ยวกับมวยไทยที่อนุรักษ์กันหรือมวยไทยอาชีพ แล้วทำไมถึงกล้าเอ่ยว่า “มวยไทยไม่มีมิตรภาพที่แท้จริงในซีเกมส์”…วันนี้มาหาคำตอบกัน ง่าย ๆ ครับ มวยไทย ถูกผลักดันเข้าซีเกมส์ โดยไทยที่แหละครับตั้งแต่ช่วง 2540 เป็นต้นมา ที่พยายามเสนอ แต่ก็โดนค้านหนักจากชาติเพื่อนบ้านติดกัน 3-4 ชาติ ด้วยชื่อ “มวยไทย” ที่เป็นของไทยและเป็นกติกาที่ไทยเป็นผู้นำ ที่เขาค้านว่า ทำไมต้องเป็นมวยไทย ในเมื่อ “มวยเขาก็มี” จนมาถึงถ้าใช้กติกามวยไทย ไทยก็ได้เปรียบสิ เหรียญทองก็เป็นของไทย แล้วเขาจะหนุนทำไม… แต่สุดท้ายด้วยความพยายามก็มีการตกลง ที่จะปรับและปรุงแต่งข้อตกลง จนกระทั่งมวยไทย ได้เข้าแข่งขันเป็นทางการเริ่มตั้งแต่ซีเกมส์ 2005 ที่ฟิลิปปินส์ จากนั้นก็มีจัดมาเรื่อย โดยชื่อที่ระบุ เป็นมวย หรือมวยลาว (เมื่อครั้งสปป.ลาวจัดแข่ง) หรือชื่อมวยไทยเป๊ะๆ เมื่อไทยจัดแข่ง ทำไมเจ้าภาพจึงจัดแข่งหรือไม่จัดแข่ง จากปี 2005 …

มวยไทย (2) : ไม่มีมิตรภาพที่แท้จริงในซีเกมส์สำหรับมวยไทย จริงหรือไม่ โปรดพิจารณา Read More »

มวยไทย (1) : ซีเกมส์ก็ไม่มีมิตรแท้ เอเชี่ยนเกมส์ก็ไม่เคยโผล่ โอลิมปิกเกมส์ก็มืดมน แล้วจะไปยังไงต่อ

บทความนี้เขียนโดยมุมมองเรื่องกีฬามวยไทย ไม่ใช่มุมมองเรื่องของ “การอนุรักษ์” แต่เป็นมุมมองเรื่องของการเดินไปสู่ “ความเป็นเลิศ” ซึ่งหมายถึงการได้เข้าแข่งขันมหกรรมหลักของโลกแห่งกีฬา ในระดับต่าง ๆ ด้วยการยอมรับ ฉะนั้นแนวทางของความเป็นเลิศ ของมวยไทย จึงหมายถึง มีการจัดมวยไทยที่เป็นทางการในมหกรรมกีฬาระดับภูมิภาค เช่นซีเกมส์ ระดับทวีปอย่างเอเชี่ยนเกมส์ ระดับโลกอย่างโอลิมปิกเกมส์ ไม่ใช่พวกจัดข้างเคียงมหกรรมเหล่านี้ ซึ่งที่นี่มองแค่ว่า เป็นรายการเกรด บี หรือ ซี ที่เปิดโอกาสให้แต่ละกีฬามีส่วนร่วมในระดับต่าง ๆ เฉย ๆ คือมีมากก็ดีต่อการให้มีชาติเข้าร่วมเยอะๆ เท่านั้น กีฬาเพื่อความเป็นเลิศ อย่าง ซีเกมส์ เอเชี่ยนเกมส์ โอลิมปิกเกมส์ ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของคณะกรรมการโอลิมปิกสากล หรือ ไอโอซี จึงถือว่าเป็นของจริง แต่ของจริงก็ยังมีจุดที่เรียกว่า “ง่าย” ต่อการจัดชนิดกีฬาต่าง ๆ อย่างเช่นซีเกมส์ ยังเปิดทางให้กีฬาภูมิภาคให้เจ้าภาพได้เลือกจัด หรือ เอเชี่ยนเกมส์ ก็เปิดทางให้เจ้าภาพหรือกลุ่มเลือกจัดกีฬาของภูมิภาคที่ไม่ใช่กีฬาที่ ไอโอซียอมรับหรือรับรอง ฉะนั้นมหกรรมกีฬาในกลุ่มนี้ที่แข็งที่สุดคือ “โอลิมปิกเกมส์” ซึ่งกีฬาทุกชนิดอยากที่จะเดินไปให้ถึงการเป็นหนึ่งในชนิดกีฬาที่มีการจัดในโอลิมปิกเกมส์อย่างเป็นทางการ เพราะนั่นจะเป็น “เลิศ” ที่แท้จริง…ไม่ใช่อุปโลกน์จัดกันไปในระดับต่างๆ หรือเป็นเกมส์ข้างเคียง และก็มาถึงประเด็นที่เขียน…คือ..มวยไทย…ก็เป็นหนึ่งในหลายชนิดกีฬาที่อยากเดินสู่โอลิมปิกเกมส์ …

มวยไทย (1) : ซีเกมส์ก็ไม่มีมิตรแท้ เอเชี่ยนเกมส์ก็ไม่เคยโผล่ โอลิมปิกเกมส์ก็มืดมน แล้วจะไปยังไงต่อ Read More »

บทความ : วิชาชีพครู ไม่ใช่มีแต่กำเนิด แต่เกิดจากการฝึกฝน โดยครูน้ำตาล : ชุติพัฒน์ แก้วชุ่ม

วิชาชีพครู ไม่ใช่มีแต่กำเนิด แต่เกิดจากการฝึกฝน ………………………………………  ครู ผู้อุทิศตน ตั้งแต่ตัดสินใจที่จะเป็นครู นั่นหมายถึง การตัดสินใจมุ่งอุทิศ เวลา ความรู้ ความสามารถ แรงกายและแรงใจให้แก่เด็ก ๆ ดังนั้น ตลอดระยะเวลา 4-5 ปีในรั้วมหาวิทยาลัยนั้น ครูต้องใช้เวลาในการศึกษาหาความรู้ เรียนรู้ และฝึกฝนตนเองเพื่อเป็นผู้มีความสามารถและเชี่ยวชาญในการสอนและพัฒนาเด็ก ผู้เป็นอนาคตของชาติ ในการฝึกฝนในวิชาชีพครูต้องฝึกทั้งศาสตร์และศิลป์ ที่มีทั้งกระบวนการสอน และทักษะและเทคนิคการสอน รวมถึงการจัดการต่าง ๆ ซึ่งใช้เวลาไม่น้อย ครูต้องเก็บเกี่ยว ฝึกฝนวิชาความรู้ จนพร้อมปฏิบัติการสอน โดยมีใบประกอบวิชาชีพที่เป็นเครื่องหมายยืนยันว่า ครูเป็นผู้มีความรู้ความสามารถ มีคุณธรรม จริยธรรม พร้อมที่จะแนะแนว นำพาเด็ก ๆ ในช่วงวัยต่าง ๆ เรียนรู้และพัฒนาตนเองอย่างเหมาะสม  ในยุคสมัยนี้ เป็นยุคที่มีข้อมูลข่าวสารมากมาย มีเรื่องราวที่เกิดใหม่ในทุกวัน จึงเป็นยุคสมัยแห่งการเรียนรู้ไม่ใช่เพียงแต่เด็ก แต่ครูก็ต้องเรียนรู้ไปพร้อมกับเด็ก ครูมิใช่ผู้รู้ทุกอย่าง แต่เป็นผู้ที่ชี้แนวทางในการศึกษาหาความรู้ สร้างแรงบันดาลใจ พร้อมรับฟัง สังเกต ส่งเสริม และให้กำลังใจให้เด็กใฝ่ศึกษา  เมื่อกล่าวถึงความท้าทายในวิชาชีพ ครูหลายคนอาจต้องเจอกับความท้าทายที่หลากหลาย …

บทความ : วิชาชีพครู ไม่ใช่มีแต่กำเนิด แต่เกิดจากการฝึกฝน โดยครูน้ำตาล : ชุติพัฒน์ แก้วชุ่ม Read More »

You cannot copy content of this page

error: Content is protected !!