จากที่ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะประธานกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย (บอร์ด กกท.) ได้บัญชา เรื่องให้แก้ปัญหาลูกหนี้เงินยืมคงค้างของ กกท./ เงินค้างจ่าย/ รายได้ค้างรับ ที่มีสั่งสมค้างเติ่งมาเป็นระยะเวลายาวนาน โดยปัญหานี้ที่ต้องบัญชาให้ กกท.จัดการเพราะคำท้วงติงมาจากสำนักงานคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง. และคงเป็นความกังขาของผู้เกี่ยวข้องด้วยว่า “ปัญหานี้ค้างกันได้อย่างไรและทำไม กกท.ต้องโดนสั่งทั้งที่ควรเป็นหน้าที่”
โดยสรุปก็คือเงินที่สมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย มีการยืมทดรองจ่ายไปค้างนาน รวม ๆ มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2552 และจนถึงปัจจุบัน ง่าย ๆ คือ “ยืมเงินไปแล้วไม่เคลียร์คืน” นอกนั้นก็เงินค้างจ่ายที่ กกท.อนุมัติโครงการให้สมาคมกีฬาฯแล้วแต่ไม่มาเคลียร์ในหลาย ๆ ปีต่อมา “ได้เงินแล้วไม่จัดการ” รวม ๆ แค่ 2 ส่วนนี้ก็ “ร้อยกว่าล้านบาท” นี่คือประเด็นที่ต้องสะสาง “ตามบัญชาหรือประกาศิต” บิ๊กป้อม
ทำไมปล่อยให้ค้างนานขนาดนั้น “นี่คือความสิ่งที่ทุกคนกังขา” คำตอบที่หนีไม่พ้นสรุปง่าย ๆ คือ กระบวนการที่ผิดนี้เป็นเรื่องของ กกท.ทั้งมวล ที่ต้องรับผิด ไม่ว่าจะเป็นยุคเก่า ๆ จนกระทั่งมาถึง “ยุคผู้ว่าก้องศักด” ที่ผ่านงานมาจะครบ 4 ปีนี้ สรุปง่าย ๆ อีกทีคือ ปล่อยปะละเลยไม่เข้มข้นกับการแก้ปัญหานี้อย่างใกล้ชิด…เรื่องนี้คงเถียงไม่ได้แน่นอน
ผิดเพราะกระบวนการจัดการ กับผู้ที่ยืมเงินและผู้ที่ต้องเคลียร์เงิน ของ กกท.นั้น “ไม่จริงจัง” (ดูตามการการทวงถามหรือความเข้มงวดที่ผ่านมา)
แล้วจึงมาเร่งในวันนี้ เพราะ “คำบัญชา” ของบิ๊กป้อม …ซึ่งก็มีคำถามว่า ถ้าไม่มีบัญชาแบบจริงจังเป็นประกาศิตนี้ “กกท.” จะจัดการปัญหานี้อย่างไรต่อ เพราะที่ผ่านมา เป็นสิบ ๆ ปี ไม่เคยเด็ดขาดเหมือนอย่างที่จะทำในช่วงเวลานี้
“เงินหลวงเมื่อยืมต้องใช้คืน เงินค้างจ่ายเคลียร์ไม่ได้ก็ปิดบัญชีเอาเงินไปทำอย่างอื่น” คือประเด็นที่ กกท.ต้องทำ ณ วันนี้
ถึงแม้ว่า Station THAI จะกังขาอยู่พอควรกับ ปัญหาสั่งสม เนื่องจากบางลูกหนี้ยืมมานาน คนยืมตายไปแล้ว สมาคมกีฬานั้น ณ ปัจจุบันจะรับผิดชอบแค่ไหน / บางสมาคม ค้างนานเป็นสิบๆล้าน กกท. มีบันทึกทวงแล้ว แต่ก็เมินเฉยการจัดการเคลียร์ในที่ผ่านมา….แล้ววันนี้จะออกมาในรูปแบบไหน ด้วยเชื่อว่าเงินที่ยืมนั้น “ใช้หมดแล้ว”
แต่ข้อสังเกตของเรานั้นไม่เป็นไร ก็ตั้งเป็นข้อสังเกตไว้ก่อน เพราะเมื่อถึงวันนี้ กกท.ตั้งทีมชุดใหม่ วิ่งไล่ล่าเรียกผู้เกี่ยวข้องเจรจา ยืดเวลาก็หลายรอบ จึงได้กำหนดสุดท้ายแล้วว่า 7 ก.ย.2565 คือวันที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้อง ส่งเอกสารเคลียร์ และ วันที่ 15 ก.ย.2565 คือ “วันสุดท้าย” ที่ต้องจบการเจรจา แล้วทุกอย่างจะมีคำตอบว่า สมาคมกีฬาที่มีปัญหาเหล่านั้นต่ออีก…จะโดนไม้เด็ดในบทสรุปปัญหา โดย กกท.อย่างไร
Station THAI สื่ออย่างเราที่เฝ้าติดตามเรื่องราวเหล่านี้มายาวนาน ก็อยากที่จะเห็น “บทสรุป” เช่นกันว่าจะออกมาแบบใด และโดยล่วงหน้าเชื่อว่าการวิ่งทำตามบัญชาหรือประกาศิต คนระดับ “บิ๊กป้อม” ขนาดนี้ ผลออกมาก็คงไม่ขี้เหร่กับการจัดการงานที่ตัวเองผิดพลาดหรือสร้างปัญหาโดยเจตนาหรือไม่เจตนาซึ่งสั่งสมกันมายาวนานกระมัง….การกีฬาแห่งประเทศไทยที่รัก.
ติดตามข่าวเกี่ยวข้องได้ที่