1ปีเต็มๆ ที่ผ่านมา มีข่าวสารที่น่ายินดี “1ข่าว” คือความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการผลักดันให้ “บุคลากรกีฬามวยไทย” ให้เข้าสู่การเป็นศิลปินแห่งชาติสาขาหนึ่ง เสมือนศิลปินแห่งชาติ สาขาอื่น ๆ ที่กระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งเป็นเจ้าของงานนี้
เมื่อมีการเรียกร้องกันถึงเจ้าของงานเมื่อปีที่ผ่านมา
ทางกระทรวงวัฒนธรรม โดยท่าน อิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการฯ รับข้อเสนอจากคณะกรรมาธิการการกีฬา สภาผู้แทนราษฏร ที่มีท่าน บุญลือ ประเสริฐโสภา เป็นประธาน ซึ่งได้เสนอไปยังกระทรวงวัฒนธรรมให้พิจารณา และก็ทันที เมื่อ “รมว.อิทธิพล” ได้นำเรื่องที่เสนอด้วยเหตุผลต่าง ๆ นานา เข้าสู่การประชุมคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติครั้งที่ 3/2564 เมื่อ 19 ส.ค.2564
โดยที่ประชุมนั้นมีมติ 2 ข้อ และได้ตอบกลับมายัง “ประธานบุญลือ” ว่ากันชัด ๆ คือ ข้อ 1.ยินดีที่จะดำเนินงานในการยกย่องบุคคลจากวงการมวยไทยให้เป็น “ศิลปินแห่งชาติ” ข้อ 2.ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ช่วยดูแลเรื่องสวัสดิการและประโยชน์ตอบแทนของผู้ที่จะได้เป็น ศิลปินแห่งชาติในสาขานี้ ให้เป็นไปในหลักเกณฑ์เช่นเดียวกันกับศิลปินแห่งชาติสาขาอื่น ๆ ที่กระทรวงวัฒนธรรมได้ ได้ดูแลในทุกสาขา
ง่าย ๆ ก็คือ กระทรวงวัฒนธรรมไม่ขัดตามที่ขอ แต่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาต้องหาเงินจากที่ไหน หรือ จะเป็นกองทุนกีฬามวย มาจ่ายสวัสดิการและผลประโยชน์ตอบแทนเอง
เมื่อข่าวที่กระทรวงวัฒนธรรมเปิดกว้าง “ไม่ขัดที่จะให้รางวัล” ออกมาสู่การรับรู้ คนวงการกีฬามวยไทยที่ช่วยกันผลักดัน ก็ส่งเสียงไชโยกันยกใหญ่ มีการรวมพลกันไปขอบคุณผู้ที่ช่วยเหลือ ออกสื่อกันแบบยิ้มแย้ม เพราะ “ทางโล่งแล้ว” จากที่คนวงการกีฬามวยนั้น พยายามผลักดันเรื่องนี้มามากกว่าสิบ ๆ ปี แต่โดนเมินมาโดยตลอด
จากวันนั้นก็กว่าขวบปีที่ผ่านมาแล้ว ในเรื่อง “ศิลปินแห่งชาติสาขามวยไทย” (หรือจะเรียกเป็นอื่นก็ว่ากันไป) นี้ จึงมีการสอบถามกันไป-มาว่า จากวันที่วงการมวยไทยได้ดีใจและเฮฮากันนั้น ในวันนี้ถึงไหนแล้ว กับสิ่งที่คนวงการกีฬามวยไทยโหยหากับรางวัลที่เรียกว่าเป็นสุดยอดแห่งรางวัลของ “ศิลปะ”ประจำชาติที่เรียกว่ามวยไทย
Station-THAI พยายามเช็คหลายทาง ก็ได้คำตอบเหมือนกันว่า “เงียบกริบ” ซึ่งหมายถึงไม่มีความเคลื่อนไหวที่เป็นรูปธรรมใดๆต่อมา และที่พอจับใจความได้ว่าทำไมไม่มีการเดินต่อ ส่วนใหญ่สรุปว่าอยู่ที่เหตุผลจากข้อ 2 ที่กระทรวงวัฒนธรรมฝากให้ผู้เกี่ยวข้องไปช่วยดำเนินการคือ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา/คณะกรรมการกีฬามวย ต้องไปหาเงินมาจ่ายผู้ที่ได้รับรางวัลเอง…นี่คือสิ่งที่พบว่าเป็นปัญหาใหญ่ที่ทำให้ความหวังคนวงการกีฬามวยไทยหยุดชะงักไป
เมื่อ 1 ปีผ่านผลที่รอก็ไม่มีคำตอบใดๆ วันนี้ก็ฝากคนวงการกีฬามวยไทย ไปไล่ต่อกันเองล่ะขอรับ….ว่าจะเดินกันยังไงต่อหรือจะคิดเห็นเป็นประการใดกับเหตุผลที่ทำให้เกิดทางตันซึ่งเหมือนดับฝันคนวงการมวยไทยนี้.