ตอนที่ 9 : วิทยาการกีฬา : หนังสืออุดมการณ์โอลิมปิกของคูเบอร์แต็ง : แปลโดย : ดร.นิพัทธ์ อึ้งปกรณ์แก้ว

แชร์บทความ

Share on facebook
Share on twitter

วิทยาการกีฬา  

            บทสนทนานี้ได้รับการจัดพิมพ์ในรายงานของ “สมาคมเพื่อความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์แห่งฝรั่งเศส” ค..1889 โดยคูเบอร์แต็งได้กล่าวในฐานะเลขาธิการสมาคมเพื่อการปฏิรูปการศึกษาระดับโรงเรียนในฝรั่งเศสเมื่อวันที่ 26 มกราคม ค.. 1889 ท่านนิยาม “วิทยาการกีฬา” ให้หมายถึง ระบบการศึกษาหนึ่งที่มีวัตถุประสงค์ชัดเจนกล่าวคือ “การสร้างมนุษย์” และวิธีการเฉพาะด้วยกติกาตนเอง ท่านกล่าวต่อไปว่า วิทยาการกีฬาเป็นวิทยาศาสตร์แขนงหนึ่ง บางคนการพิจารณาว่า สิ่งนี้ไม่ต่างจากการเล่นเกมนันทนาการซึ่งเป็นการบิดเบือนความหมายพื้นฐานและปฏิเสธคุณค่าแท้จริงของวิทยาการกีฬา คูเบอร์แต็งแสดงความแตกต่างระหว่างระบบการศึกษาฝรั่งเศสบนพื้นฐานอำนาจนิยมกล่าวคือ การเชื่อฟังคำสั่งและความน่าเบื่อหน่าย กับระบบการศึกษาอังกฤษที่ออกแบบให้เป็นเครื่องมือพัฒนาที่เหมาะสมสำหรับความแข็งแกร่งของร่างกาย สติปัญญา และจริยธรรมของแต่ละบุคคล การเล่นกีฬาชนิดต่างๆเป็นไปอย่างกระตือรือร้นพร้อมด้วยจิตวิญญาณสูงส่งโดยสร้างบรรยากาศการเรียนและผลลัพธ์การเรียน มติมหาชนในฝรั่งเศสเบี่ยงเบนการศึกษาที่ถูกต้อง ผู้คนจำนวนมากหลอกตัวเองในขณะออกกำลังกายพื้นฐานเพื่อสุขภาพและคิดว่าตนเอง “เข้าร่วมเล่นกีฬา” หากเข้าใจถูกต้องอย่างนี้แล้ว การกีฬาจะนำไปสู่เจตจำนงและอุดมคติยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ

            ในปีเดียวกัน คูเบอร์แต็งจัด “การประชุมเพื่อรณรงค์การออกกำลังกายในระบบการศึกษา” ที่งานแสดงสินค้าโลกภายใต้ความเห็นชอบของรัฐบาล โดยแสดงผลการศึกษาของตนเองในแคว้นต่างๆของสหราชอาณาจักรเพื่อบ่งชี้ถึงการปฏิบัติตามแนวคิดของโทมัส อาร์โนลด์ ในแคว้นส่วนใหญ่วิทยาการกีฬากลายเป็นมาตรฐานของการศึกษาทั้งปวง ในความเห็นของคูเบอร์แต็งแล้ว สิ่งนี้คือแต้มต่อแก่ผู้ไม่เห็นด้วย

            คูเบอร์แต็งได้รับการเอ่ยถึงที่การประชุมประจำปีของสมาคมเศรษฐกิจและสังคมซึ่งการจัดตั้ง “คณะกรรมการเพื่อรณรงค์การออกกำลังกายในระบบการศึกษา” ได้รับการประกาศในวันที่ 29 พฤษภาคม ค..1888 โดยสมาคมกีฬาของโรงเรียนแอลซาสได้ถูกจัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคมของปีเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ปาสคาล กรูเซ็ต ใช้นามแฝง “ฟิลลิป แดริล” ได้จัดพิมพ์ชุดบทความเกี่ยวกับการแข่งขันกีฬาโรงเรียนในเดือนนั้นเพื่อเรียกร้องให้การพลศึกษามีความเหมาสมสอดคล้องต่อประเพณีฝรั่งเศส

            ในเดือนตุลาคม ค..1888 กรูเซ็ต เป็นผู้นำจัดตั้ง “ลีกการพลศึกษาแห่งชาติ” ซึ่งเป็นคู่แข่งของคณะกรรมการฯข้างต้นและนำไปสู่ความเขม็งเกลียวระหว่างสมาชิกคณะกรรมการทั้งสองแห่งในช่วงเวลาหนึ่ง

            ท่านสุภาพชน

            ข้าพเจ้าตระหนักดีถึงเกียรติที่ได้รับบนเวทีนี้ซึ่งมีวิทยากรผู้ทรงเกียรติหลายท่านก่อนหน้า ทั้งนี้ ข้าพเจ้า เชื่อมั่นในความพึงพอใจจากท่านเนื่องเพราะทราบเป็นอย่างดีถึงหัวข้อที่เหมาะสมอย่างยิ่งต่อกลุ่มผู้ฟังนี้

            ข้าพเจ้าจะกล่าวเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์แขนงหนึ่งซึ่งมีประโยชน์และเป็นหนึ่งในสาขาวิทยาศาสตร์ที่ดีสุดเนื่องเพราะเป้าประสงค์ของวิทยาศาสตร์แขนงนี้คือ การสร้างมนุษย์ นอกจากนี้ วิทยาศาสตร์แขนงนี้ยังมีการพัฒนาแบบก้าวกระโดดในฝรั่งเศสอีกด้วย บางท่านอาจถูกชักจูงให้คิดว่า สิ่งนี้กำลังถอยหลัง แต่ข้าพเจ้าจะพยายามพิสูจน์ถึงสิ่งตรงข้ามคือ จะแสดงว่าในความเป็นจริงแล้ว สิ่งนี้เจริญรุดหน้า ไม่ว่ากรณีใดก็ตาม ท่านได้จัดตั้งสมาคมนี้ขึ้นเพื่อศึกษาการพัฒนาของวิทยาศาสตร์แขนงนี้และทุกสิ่งที่เป็นสิ่งใหม่ (หรือถูกรื้นฟื้นขึ้นเนื่องเพราะพวกเรายอมรับว่า ไม่มีสิ่งใหม่ใต้พระอาทิตย์) ทุกสิ่งที่มีปฏิกิริยาและส่งผลต่อท่าน นี่คือเหตุผลของการเลือกหัวข้อที่กว้างใหญ่ซึ่งดูเหมือนจะเป็นความตั้งใจเล็กน้อย ข้าพเจ้ามาที่นี่ไม่ใช่เพื่อพูดเกี่ยวกับการแข่งขันกีฬาโรงเรียนเท่านั้นซึ่งได้รับการถกเถียงอภิปรายอย่างมากในช่วงหกเดือนที่ผ่านมา แต่จะครอบคลุมระบบการศึกษาทั้งหมดที่การแข่งขันกีฬาโรงเรียนเป็นเพียงแค่คำนำเท่านั้น ข้าพเจ้าขอกล่าวเกี่ยวกับองค์ประกอบของแนวคิดและคติพจน์ที่หลอมรวมเป็นวิทยาการกีฬา

           1.ผู้เกี่ยวข้องต่อการศึกษาได้อ่านหนังสือของบิชอร์ป ดูพานลูปซึ่งสรุปผลสะท้อนคิดของท่านผ่านประสบการณ์การจัดการศึกษาแก่เยาวชน ท่านเขียนในช่วงต้นของบทที่ 1 ว่า “เมื่อข้าพเจ้าพยายามจะเข้าใจว่า พื้นฐานสองประการของการศึกษาคืออะไร ภายหลังการศึกษาและประสบการณ์จำนวนมาก ข้าพเจ้าพบว่า สิ่งเหล่านี้คือ อำนาจนิยมและการเชื่อฟัง” ในบรรดาหนังสือที่ห้องสมุดอังกฤษได้รับนั้น มีหนังสือเล่มเล็กที่แต่งโดย ดร.ทริง ซึ่งเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนในเมืองอัพพิงแฮมอยู่หลายปี เมื่อท่านจากไปไม่นานนี้ นักเรียนทั้งหลายได้ประกาศเกียรติโดยท่านนิยามการศึกษาว่า “กรรมกรแห่งความตั้งใจ งานหนัก และความรัก” ซึ่งนิยามทั้งสองนี้ดูเหมือนจะคล้ายกันหากมองอย่างผิวเผินโดยทั้งคู่ต่างสนับสนุนกัน ความตั้งใจ การทำงานหนัก และความรักคือองค์ประกอบสามประการของครู โดยอำนาจและการเชื่อฟังคือผลของสิ่งเหล่านี้ที่มีต่อนักเรียน อย่างไรก็ตาม บิชอร์ป ดูพานลูป และ ดร.ทริง ล้วนต่างค้นพบสูตรสำเร็จของสองระบบนี้ที่ขัดแย้งอย่างยิ่งยวดในความเป็นจริง ข้าพเจ้าจะอธิบายเพียงลักษณะที่ต่างขั้วเพื่อให้พอเข้าใจกันเท่านั้น

            นับเป็นเวลาหลายศตวรรษที่การศึกษาในฝรั่งเศสคือความเข้มแข็งของอำนาจนิยม ในเรื่องนี้ ข้อเท็จจริงปรากฎชัดเจนจนไม่ต้องมีหลักฐานสนับสนุนเพิ่มเติมแต่ประการใด ในบางช่วงเวลา รูปแบบอำนาจนิยมอาจทุเลาลงเล็กน้อย แต่สาระยังคงเป็นเช่นเดิม โรงเรียนเจซูอิตได้ส่งต่อประเพณีนี้ของพวกเขาแก่มหาวิทยาลัย ในปัจจุบันเช่นที่ผ่านมา การศึกษาเป็นเหมือนการผ่าตัดเด็กที่อยู่ภายใต้การดูแลโดยจะขจัดทุกสิ่งที่เป็นอันตรายแก่เด็ก โดยเด็กที่สำเร็จการศึกษาจะถูกหล่อหลอม ทำให้เชื่อฟัง และมีภาพลักษณ์เช่นเดียวกับสังคมที่เขาจะอาศัยซึ่งมีความผิดพลาดและความขัดแย้งที่เขายอมรับอยู่แล้ว หากครูมีความสามารถในบทบาทที่หนักหน่วงและทรงอำนาจของตนเองแล้ว เขาจะสร้างแรงบันดาลใจแก่นักเรียนต่ออุปนิสัยเชื่อฟังและเหนือสิ่งอื่นใดคือ ความเคารพต่ออำนาจนิยม ภายใต้ความเหนือกว่าของตนเอง ครูจะทำให้เด็กกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่ต้องพึ่งพาซึ่งเคยชินกับข้อกำหนดของสายการบังคับบัญชาโดยไม่มีความต้องการที่จะอภิปรายถึงข้อดีเสียของสายการบังคับบัญชาดังกล่าว สิ่งนี้คือสิ่งที่ปรากฎในโรงเรียนรัฐและโรงเรียนศาสนา โดยบิชอร์ป ดูพานลูป ได้แสดงสรุปคุณลักษณะของระบบการศึกษานี้ด้วยคำดีที่สุดสองคำกล่าวคือ อำนาจนิยมและการเชื่อฟัง

            คำสำคัญของการศึกษาในอังกฤษคือ เสรีภาพและอิสรภาพ ณ ที่นั่น ครูคือผู้ดูแล ภายใต้ดวงตาแห่งการระมัดระวัง เด็กจะอยู่ในลักษณะที่ครูจะช่วยพัฒนาความดีและความซื่อสัตย์ภายในตนเองผ่านคำพูด ตัวอย่างและการสอน เพื่อการบรรลุเป้าหมายนี้ ครูไม่เชื่อว่าตนเองมีสิทธิที่จะใช้วิธีการรุนแรงแต่จะใช้เหตุผลและความรู้สึก ครูไม่ทำลายสิ่งใดและไม่พอใจน้อยครั้งเท่าที่จะเป็นไปได้ เนื่องเพราะงานของครูต้องการความละเอียดสูงและความกล้าหาญยิ่งยวดในเวลาเดียวกัน ครูจึงต้องมีความพร้อมในทุกสิ่งที่จะขับเคลื่อนทั้งสองอย่างไปพร้อมกันด้วยแนวทางตามดุลยพินิจของตนเอง ครูทำให้โรงเรียนเป็นแบบจำลองของโลกภายนอกโดยนำพาอากาศหายใจภายนอกเข้ามาในโรงเรียน ข้อได้เปรียบและความรื่นรมย์ที่อนุญาตให้ชื่นชม สถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออกที่อาจประสบ และแม้กระทั่งอุปสรรคกีดขวางที่ครูต้องก้าวพ้นให้ได้ ศิลปะของครูคือการปรับแต่งสิ่งเหล่านี้แก่พลังร่างกาย สติปัญญาและจิตใจของเด็ก ท่านสุภาพชน ช่างเป็นงานและการสังเกตถี่ถ้วนที่ต้องทำตลอดเวลาเพื่อบรรลุผลลัพธ์เหล่านี้! นอกจากนี้ หากท่านจะลองจินตนาการถึงการไขว่คว้าจิตวิญญาณนี้ว่า จะน่าตื่นเต้นเพียงใด ซึ่งเป็นเกมตามหาสิ่งนามธรรมที่มักหลบหนีไป จากนั้น ท่านจะเข้าใจว่าทำไม ครูอังกฤษผู้มีชื่อเสียงยิ่งในปัจจุบันจึงนิยามภาระหน้าที่ของตนเองคือ กรรมกรแห่งความตั้งใจ งานหนัก และความรัก

            ขอให้พวกเราก้าวพ้นความย้อนแย้งประการหนึ่งกล่าวคือ การลงโทษทางกายอันตรธานไปจากโรงเรียนของพวกเราเป็นเวลานานแล้ว แต่ยังคงอยู่ในโรงเรียนอังกฤษแม้จะจำกัดก็ตามที อย่างไรก็ตาม ข้าพเจ้ากล่าวโทษโรงเรียนฝรั่งเศสในความเป็นเผด็จการ เรื่องการใช้ไม้ตี (ต่อร่างกายหรืออย่างอื่น) เป็นเรื่องรอง ความย้อนแย้งนี้เป็นเพียงมายา ในฝรั่งเศส พวกเราไม่ได้เฆี่ยนเนื้อแต่เป็นจิตใจ และพวกเราโบยตีจิตใจจนกระทั่งยอมศิโรราบด้วยอาการตกเลือดอยู่ภายใน จิตใจก็เฉกเช่นร่างกายที่ต้องสวมเครื่องแบบในขณะที่เพื่อนบ้านเราล้วนต่างสวมเครื่องแต่งกายที่เหมาะสุดแก่ตนเอง รายละเอียดไม่มีความจำเป็นตราบที่เนื้อผ้ามีคุณภาพสูงและการตัดเย็บดี

            เมื่อข้าพเจ้าใช้ระบบการศึกษาฝรั่งเศสเป็นสักขีพยานในวัยเยาว์นั้น ข้าพเจ้าไม่มีความเข้าใจในสิ่งเหล่านี้โดยเกือบจะไม่รู้ตัวและหวั่นไหวไปตามสำนึกที่แปลกประหลาด ทันทีที่ข้าพเจ้าจบมัธยมศึกษาซึ่งจดจำได้เฉพาะสิ่งที่เรียกตามประเพณีว่า ความทรงจำที่ดี ข้าพเจ้าตั้งใจพยายามค้นหาเหตุผลที่พวกเราจัดการศึกษาแก่เด็กของพวกเราในลักษณะนี้และชาวต่างชาติกระทำเช่นเดียวกันหรือไม่ ข้าพเจ้ายังคงเก็บความประทับใจที่ชัดเจนยิ่งของเวลาซึ่งผ่านมาไม่นานนัก ขอให้ข้าพเจ้าได้เล่าให้ท่านฟังอย่างสั้นๆ ต่อข้อสังเกตที่ข้าพเจ้ามีต่อฝรั่งเศสและอังกฤษตั้งแต่ช่วงเวลานั้น ณ ที่แห่งนี้ พวกเราอยู่ในสังคมวิทยาศาสตร์และข้าพเจ้าสามารถใช้วิธีการทดลองที่นักวิชาการผู้โด่งดังสนับสนุนให้ใช้แม้จะเป็นสาขาวิชาด้านกิจกรรมสังคม

            ความรู้สึกประการหนึ่งที่แพร่กระจายไปทั่วโรงเรียนของพวกเราซึ่งเป็นสิ่งที่ข้าพเจ้าได้ชี้แจงว่าเป็นแหล่งที่มาของความเลวร้ายทั้งปวงกล่าวคือ ความเบื่อหน่าย นักเรียนรู้สึกเบื่อ ครูก็เช่นกัน สิ่งมีชีวิตเหล่านี้ทุกข์ทรมานจากการอาศัยในสถานที่ซึ่งชีวิตถูกนำพาให้หยุดนิ่งและทดแทนด้วยมายาการเคลื่อนที่ซึ่งประกอบด้วยความเป็นปรกติ การเชื่อฟังและการใช้เหตุผล พวกเขาจะไม่พบสิ่งใดที่เหมาะไปกว่าความเฉื่อยชาของจิตใจและร่างกาย แม้การเรียนจะไม่หนักหน่วงแต่จะไม่มีการหยุดพัก ทั้งครูและนักเรียนต่างใช้ชีวิตอย่างน่าสงสาร นักเรียนบางคนดูท่าทางจะถอดใจยอมแพ้เสมือนเป็นบทบาทที่ถูกกำหนดไว้ พวกเขาจมดิ่งกับการร่ำเรียนโดยมีหนังสือเป็นเพื่อนที่ดี ความหมกมุ่นในวิทยาศาสตร์ ความทะเยอทะยาน หรือแม้กระทั่งพลังธรรมชาติขับเคลื่อนพวกเขาสู่เส้นทางนี้ จากนั้น ครูทั้งหลายที่พยายามค้นหาวิชาหนึ่งที่น่าสนใจในท่ามกลางเด็กในเครื่องแบบหม่นหมองเหล่านี้ ได้พัฒนาความผูกพันแก่เด็กนี้โดยแสดงความชื่นชมอย่างยิ่ง ในขณะเดียวกัน เพื่อนร่วมชั้นของพวกเขาเริ่มแยกตัวออกไปโดยถือว่าพวกเขาเป็นพวกไม่น่าไว้ใจ มวลชนไม่สามารถยอมให้สมาชิกคนหนึ่งไปเข้าพวกศัตรู และครูคือศัตรู!

            หากข้าพเจ้าไม่ผิด นี่คือสูตรสำเร็จของสิ่งที่เรียกว่า ผู้ก่อปัญหา ซึ่งการแสดงออกเป็นเรื่องปรกติเพียงแต่ใช้คำไม่ดี หากกล่าวอย่างถูกต้องแล้ว “การก่อปัญหา” อธิบายแนวโน้มของจิตใจมนุษย์ที่จะเกิดขึ้นเพื่อปฏิเสธข้อจำกัดทั้งหมดและต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ นอกเหนือจากข้อยกเว้นบางประการแล้ว ภาวการณ์นี้ไม่มีความแข็งแกร่งในเด็กหรือโดยเฉพาะวัยเติบโต จนกระทั่งพัฒนาการของเขาจะสูงขึ้นมาก เด็กจะทำตามแรงกระตุ้นที่ตรงข้ามกันคือ การมองหาสิ่งที่นิยมปฏิบัติหรือคำแนะนำ เด็กจะเข้าหาท่าน เขาจะขอปรึกษาท่าน…หากเพียงแต่เขาจะรู้สึกว่าท่านเป็นเพื่อนของเขา สิ่งที่เรียกขานว่าจิตวิญญาณการก่อปัญหานั้นมาจากแหล่งอื่น คือการต่อต้านที่ไม่มุ่งแก่อำนาจนิยมดังกล่าวแต่เป็นตัวบุคคลที่ใช้อำนาจนั้น ผู้ซึ่งสร้างความทรมานด้วยคำพูดหวานปานลูกกวาดของเขา ผู้ที่น่าสงสัย ผู้สอดแนมและจับกุม และผู้ที่แสร้งกล่าวต่อเด็กนักเรียนที่ขัดขืนว่า “นี่เป็นสิ่งดีสำหรับเรา” แท้จริงแล้วกลับเป็นสิ่งดีสำหรับเขาเท่านั้น! โดยเด็กจะเกิดความเชื่อหากตอกย้ำคำพูดอยู่บ่อยครั้งเพียงพอ อย่างไรก็ตาม อนาคตส่งผลต่อเขาน้อยกว่าปัจจุบันและแม้จะไม่ชอบตัวเอง แต่เขาจะบากบั่นเพื่อทำลายโซ่ตรวนของตนเอง ครูซ่อนกลายในคราบศัตรู และตราบที่ครูไม่สามารถสลัดตนเองจากคราบนั้น  ครูจะถูกรังเกียจ  

            โดยเหตุดังนั้น เด็กฉลาดคงแก่เรียนที่ย้ายไปอยู่ข้างครูจึงสูญเสียมิตรภาพกับเพื่อนร่วมชั้น พวกเขาถูกมองว่าน่าสงสัย กลั่นแกล้งและข่มขู่คุกคาม โดยเกิดความเห็นใจตนเองในความทุกข์ทรมานต่อการเพิ่มความพยายามยิ่งขึ้นในการเรียนเพื่อสร้างแผนงานสดใสสำหรับอนาคต แต่หากจะมีเด็กขี้โกงในโรงเรียนที่กำปั้นหนัก พูดจิกกัดและกล้าหาญเป็นอย่างมาก เขาก็จะกลายเป็นอุดมคติ ตัวแบบ หรือแม้กระทั่งพระเอก! เด็กอื่นจะรวมกลุ่มอยู่ภายใต้อิทธิพลของเขา การต่อต้านอำนาจของเขาได้รับการยกย่องและหากพวกเขามีโล่ ก็จะใช้โล่เพื่อแบกหามเขาไปที่สนามหญ้าอย่างผู้มีชัย แต่ไม่มีใครที่จะสรรเสริญเขาอย่างแท้จริง ในบรรดาเด็กทั้งหลายที่เป็นผู้ติดตามนั้น ไม่มีคนใดจะมอบความลับแก่เขา พูดเปิดเผยกับเขา หรือขอคำแนะนำที่เกี่ยวข้องกับเกียรติภูมิและเรื่องละเอียดอ่อน หากตกอยู่ในอันตรายหรือเจ็บป่วย ไม่มีใครต้องการเขาอยู่ข้างกาย สิ่งที่พวกเขาเห็นในตัวเขานั้นคือแชมเปี้ยนของการพึ่งตนเองซึ่งเป็นแบบอย่างของความปรารถนาและความเกลียดชังทั้งปวงของพวกเขา! ล้างแค้น! ช่างเป็นระบบการศึกษาแปลกประหลาดที่ก่อให้เกิดผลลัพธ์เช่นนี้!

            ดังนั้น รหัสลับที่เด็กนักเรียนเชื่อฟังคือการมุ่งเป้าสู่การต่อสู้กับครูและวิธีการที่พวกเขาเลือกใช้มีความหลากหลาย โดยเฉพาะวิธีการหนึ่งที่ค่อนข้างอันตรายต่อการใช้กล่าวคือ การโกหก เนื่องเพราะสิ่งนี้จะเคลื่อนตัวเข้าไปในเส้นเลือดและเป็นพิษต่อโลหิตเช่นเดียวกับมอร์ฟีน ท่านสุภาพชน ท่านและข้าพเจ้าต่างทราบดีว่า เมื่อเด็กติดนิสัยโกหกเพื่อป้องกันตนจากพ่อแม่และครูแล้ว พฤติกรรมบางอย่างจะติดตัวเขาไปตลอดชีวิตซึ่งจะต้องใช้ความพยายามอย่างหนักให้เปิดเผยและเขาจะไม่เคยกลับมาเป็นคนซื่อสัตย์อีกต่อไป แต่ที่ข้าพเจ้าสังเกตด้วยความเศร้าใจถึงสิ่งที่พบในโรงเรียนฝรั่งเศสค่อนข้างชัดเจนว่า เด็กโกหกสารพัดและสิ่งที่ยิ่งไม่สามารถเข้าใจได้คือ ครูจำนวนมากกลับเห็นสิ่งนี้เป็นเรื่องรอง พวกเขาใส่ใจต่อเรื่องน่าฟังหรือปัญหาที่แก้สำเร็จมากกว่าคุณค่าของสำนึกผิดชอบชั่วดี

            ขอพวกเราดำเนินการตรวจสอบปัจจัยด้านจิตใจเพิ่มเติม ยังมีเด็กอีกกลุ่มที่ข้าพเจ้าไม่ได้เอ่ยถึงคือ กลุ่มอ่อนแอซึ่งการศึกษาควรทำให้เข้มแข็งแต่กลับกลายเป็นความหวาดกลัวหรือโหดร้ายเสมอ ข้าพเจ้ากำลังพูดถึงเด็กป่วยผิวซีดซึ่งถูกจับส่งเข้าโรงเรียนในทันทีโดยดูงงงงในช่วงแรกแต่เริ่มดีขึ้นและประเมินสิ่งรอบกาย ในไม่ช้า เด็กจะเข้าใจสถานการณ์โดยอาจเข้าร่วมกับเพื่อกลุ่มเล็กรอบข้างครูซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวกลาง สายลับและกลายเป็นเหยื่อของนักเรียนอื่นด้วยเหตุดังกล่าว การชดเชยเหตุเลวร้ายนี้ เด็กจะยอมหวานกลืนฝืนทนต่อการกระทำผิดเพื่อรับการลงโทษเป็นครั้งคราว มิเช่นนั้น ก็อาจเข้าร่วมเพื่อนกลุ่มใหญ่และเรียนรู้ศิลปะของความแข็งกระด้างและหยาบคายด้วยการกดขี่และเอาเปรียบ นั่นเป็นทางเลือก ในกรณีแรก เด็กจะหวาดกลัว ในกรณีที่สอง เด็กจะโหดร้าย ที่ใดจะเป็นโรงขัดเกลาจริยธรรมที่พวกเขาสามารถทดสอบความแข็งแกร่งของตนเองเป็นขั้นเป็นตอนเพื่อเติบโตแข็งแกร่งทีละน้อยและพัฒนาสูงขึ้นทุกวันบ้าง? ที่ไหน? หากไม่มี คุณลักษณะดังกล่าวจะถูกบ่มเพาะอย่างไร?

            ยังมีประเด็นสุดท้ายที่น่าเจ็บปวดและเลวร้ายกว่า ความเบื่อหน่าย ความขี้เกียจ ความอ่อนแอและความโหดร้ายล้วนต่างส่งผลประการหนึ่งที่เหมือนกันคือ ความไร้จริยธรรม ใช่ ความไร้จริยธรรมได้จุ่โจมโรงเรียนของพวกเราโดยปรากฎทั้งในคำพูด ความคิดและการกระทำ ปีศาจนี้ได้ถูกกล่าวถึงมาก่อนหน้าและไม่ใช่ในเวลานี้เท่านั้น ข้าพเจ้าขออ่านรายงานของ มร.เซนต์-แคลร์ เดอวิล ซึ่งเขียนไว้เมื่อยี่สิบเอ็ดปีก่อนและเรียกร้องความใส่ใจในหัวข้อที่น่ากลัวนี้ต่อสถาบันรัฐศาสตร์และจริยศาสตร์ ในรายงานนี้ ผู้แต่งชี้ถึงอันตรายปัจจุบันทันด่วนของกลุ่มเด็กขนาดใหญ่ ท่านอธิบายเชิงวิทยาศาสตร์และกล่าวถึงมาตรการที่ต้องดำเนินการเพื่อขจัดเนื้อเน่า ท่านกล่าวถึงวิธีการที่จะต้องตัด เฉือนและรนไฟในฉับพลัน แต่ไม่มีคนใดจะต้องการพินิจพิเคราะห์ประเด็นนี้เพราะเป็นสิ่งสยองขวัญและพวกเขารับรู้ตั้งแต่เริ่มถึงการประนามเหยียดหยามที่มีต่อระบบการศึกษาของพวกเราเอง แต่จะมีประโยชน์อันใดในการหน่วงเหนี่ยวการแก้ไขปัญหาชัดแจ้งที่ไม่มีใครจะรอดพ้น? จะเป็นการดีกว่ามากหากจะต่อสู้กับปัญหานั้น บางคนที่ทระนงตนจะยืนยันว่า “บางสิ่งต้องกระทำแบบนี้” อย่างชัดเจน แต่คนที่อยู่นอกวงจะประกาศว่า ปีศาจไม่ได้ใหญ่โตเหมือนที่พูดกัน ในกรณีเช่นนี้ ทำไมต้องมีการติดตามทุกขณะอย่างตื่นกลัวด้วย? หากอันตรายต่อนักเรียนมีแต่เพียงการชนจมูกตนเองไว้ที่หลังของครู แล้วทำไมต้องทุ่มเทความพยายามไม่ให้เด็กรอดสายตาแม้เพียงชั่วขณะ? ไม่ใช่กระนั้นเลย! ครูทุกคนล้วนรับรู้ถึงอันตรายที่แท้จริงและนี่คือเหตุผลที่พวกเขาต้องจับจ้องนักเรียนโดยไม่ละสายตา ความห่วงใยในเรื่องนี้ถูกแสดงออกโดยความริษยาต่อสิ่งที่นักเรียนกระทำและการทำลายมิตรสหายระหว่างกัน มิตรภาพของเด็กชายสองคนคือสิ่งต้องห้ามในโรงเรียน ราวกับว่าแนวคิดเรื่องสัมพันธภาพที่ดีคือหนึ่งในเครื่องมือทรงพลังของการศึกษาคงจะไม่เกิดขึ้น แม้ว่าบางคนอาจเห็นด้วย แต่จะยอมไม่เปลี่ยนวิธีการเพราะหวาดกลัวต่อความรับผิดชอบของตนเอง พวกเขาแสดงสีหน้าหวาดกลัวต่ออันตรายใดๆที่จะเกิดขึ้นเพราะรู้สึกถึงการไร้ที่พึ่ง เนื่องจากการสอดส่องคือสิ่งเดียวที่มีอยู่ถึงแม้จะเป็นการป้องกันที่ไร้ประสิทธิภาพและแย่ที่สุดก็ตาม

            ทั้งนี้ ระบบการศึกษาและสถานศึกษาไม่ใช่หน่วยงานที่ต้องรับผิดแต่เพียงผู้เดียว มติมหาชนก็มีส่วนเช่นกัน แม้ความเห็นของโลกภายนอกจะมีเพียงน้อยนิดที่อาจหลุดหลงเข้าโรงเรียน แต่สิ่งที่ปรากฎได้แก่การนำความโง่เขลาเบาปัญญาสู่โรงเรียน นับจากปฐมวัย ลูกของท่านตระหนักดีว่า พ่อแม่ตนเองยึดถือความสำคัญของพิธีศีลจุ่มทางสังคมซึ่งกลายเป็นการจุ่มศรีษะลงโคลนในความเป็นจริง เด็กจะเรียกสิ่งนี้ว่า “การคลุมถุงชน” หากจะให้เห็นภาพอย่างชัดแจ้ง แน่นอนว่า พวกเขาจะผูกพันต่อ “การคลุมถุงชน” ในโรงเรียนตามแบบของตนเองเนื่องเพราะการแยกไม่ออกระหว่างสิ่งที่ยอมรับไม่ได้กับการปฏิบัติปรนเปรอเป็นพิเศษ โดยไม่ใช่ว่าการปฏิบัติเช่นนี้ควรสงวนไว้เฉพาะการทำผิดที่อาจได้รับการอภัยเนื่องจากการเกิดขึ้นในช่วยวัยหนึ่งและภายใต้สถานการณ์ที่เกือบจะไม่สามารถอดกลั้นไหว แต่สิ่งน่าละอายยิ่งคือการกระทำผิดนี้จะกลับกลายเป็นพฤติกรรมที่น่าสรรเสริญและการได้ยินคนกระทำผิดกล่าวถึงความภาคภูมิใจต่อเรื่องนั้นโดยไม่มีความเจ็บปวดซ่อนเร้นแต่ประการใด สิ่งที่พวกเราในฝรั่งเศสเรียกว่า “การเฉลิมฉลอง” ไม่ได้หมายความถึงการเกี่ยวพันกับการกระทำบาปเท่านั้น แต่ยังรู้สึกภูมิใจอีกด้วย กว่าจะถึงเวลาที่พวกเขาจะร่วมเฉลิมฉลองนั้น ท่านสุภาพชน ลูกของท่านจะสนทนาอย่างหยาบโลน ความคิดของพวกเขาจะถูกลากจูงสู่เรื่องที่ไม่ควรและจำนวนหนึ่งจะกลายเป็นเหยื่ออาชญากรรม…

            ในการพิสูจน์ว่าข้าพเจ้ากล่าวเกินจริงนั้น ท่านอาจบอกว่า หากโรงเรียนพวกเราถึงขั้นใช้ไม่ได้ในความเป็นจริงแล้ว คนที่เข้าโรงเรียนจะมีความทรงจำเลวร้ายไปตลอดชีวิตจนพวกเขาจะต้องหลบลี้หนีหน้าไปจากสถานที่น่ารังเกียจนี้และจะไม่มีสมาคมใดที่จะทำให้พวกเขาพบปะเพื่อนชั้นเรียนในบางโอกาสเนื่องเพราะจะเป็นเช่นนี้ในเกือบทุกแห่ง ข้าพเจ้าขอกล่าวอย่างสั้นว่า กิจวัตรประจำวันคือคำตอบทั้งหมดของเรื่องนี้ แต่ข้าพเจ้าก็เชื่อว่า ความรับผิดชอบนี้ปิดบังความโมโหโกรธาที่พร้อมระเบิดขึ้นในเวลาเดียวกัน ความรู้สึกขมขื่นจะปรากฏขึ้นในขณะนั้น ผู้คนจำนวนมากเท่าไรที่จดจำคำกล่าวของ มร. แม็กซิม ดู คัม ได้! โปรดฟังให้ดี “ข้าพเจ้าไม่เคยหวนระลึกถึงวัยเรียนแม้แต่น้อย แม้ปัจจุบันนี้ ข้าพเจ้าก็ไม่อาจมองกลุ่มนักเรียนเดินผ่านโดยไม่รู้สึกถึงความเศร้าใจอย่างยิ่ง เมื่อใดก็ตามที่ข้าพเจ้าฝันว่าได้กลับไปโรงเรียน ข้าพเจ้าจะตื่นด้วยหัวใจที่เต้นรัว”

            การไปเยี่ยมโรงเรียนชั่วครู่ยามเป็นอีกเรื่องหนึ่งกับมีความสุขที่ได้เห็นกำแพงทึบ โถงทางเดินที่หดหู่และสนามหญ้าที่วุ่นวายอีกครั้งหนึ่ง มนุษย์ย่อมเกิดความรู้สึกเช่นนี้ ปุถุชนเก็บความทรงจำที่เจ็บปวดอย่างแม่นยำกว่าประสบการณ์แห่งความสุขและผู้ร่วมแบ่งปันความเจ็บปวดเหล่านี้จะยังคงเป็นเพื่อนไม่มากก็น้อยตลอดไป จงก่อตั้งสมาคมแห่งอดีตนักโทษและให้สมาคมนี้จัดเลี้ยงอาหารค่ำประจำปีในเรือนจำแห่งนั้น จากนั้น ความห่างไกลจะช่วยเสริมบรรยากาศอย่างแน่นอน จากยอดดอย ให้เพ่งที่ราบลึกซึ่งปกคลุมไปด้วยร่องหลุมที่ท่านเพิ่งจะปีนป่ายขึ้นมาและผืนดินเริ่มมั่นคง หุบเหวและหลุมหายไป เช่นเดียวกัน หากมีวันเลวร้ายไม่มากจนเกินไปในวันเด็ก ความประทับใจที่พวกเขาสร้างขึ้นย่อมจืดจาง เมื่อสิ่งนี้ลดน้อยลง วัยเยาว์จะช่วยบรรเทาความขื่นขมในเวลานั้น พวกเรารับรู้ถึงความหดหู่เศร้าใจเมื่อผ่านเข้ามาโดยไม่มีความเจ็บปวดใดจะเทียบได้ เป็นความประทับใจที่ทำให้พวกเราลืมสิ่งอื่นทั้งหมด ท้ายสุดนี้ ยังมียาอีกขนานหนึ่งสำหรับพวกเราชาวฝรั่งเศส โรงเรียนประจำที่ตั้งอยู่เหล่านี้ไม่ใช่สิ่งใหม่ของที่นี่ ความจริงแล้ว โรงเรียนต่างๆนี้ได้รับการพัฒนาในสมัยปัจจุบัน โดยเหตุนี้ โรงเรียนประจำจึงได้รับความเคารพจากพวกเราที่เปลี่ยนแปลงต่อสิ่งที่ไม่เคยแปรเปลี่ยน เด็กเข้าโรงเรียนใดก็เพราะบิดาของพวกเขาจบจากโรงเรียนนั้น ซึ่งนับเป็นก้าวที่จำเป็น…การบอกอย่างนั้นกับผู้สืบสกุลของพวกท่านสุภาพชน ท่านรู้สึกแปลกระคนความภาคภูมิ ท่านแทบจะสุขใจในการสวมสายรัดที่หนักอึ้งแต่ยังสามารถหยัดยืนได้ อย่างไรก็ตาม ขอให้ข้าพเจ้าย้อนกลับไปสู่สิ่งที่ได้กล่าวไว้ก่อนหน้า ประชาชนจำนวนมากก่นด่าตนเองในเรื่องบุคลิกภาพอ่อนแอ การมองโลกในแง่ร้ายและความทนทุกข์ทรมาน หากพวกเขาค้นพบว่า การศึกษาคือต้นเหตุแห่งโรคร้ายเหล่านี้ พวกเขาคงจะหยิบขวานเพื่อทำลายเรือนจำยุคสุดท้ายแห่งนี้เสียในทันใด พวกเขาจะเปิดเผยและบดขยี้สิ่งนี้ ทั้งนี้ ปัญญาสอนให้พวกเราจัดเตรียมบางสิ่งเพื่อบรรจุในสถานที่แห่งนี้

            2.ข้าพเจ้าขอสารภาพว่า เดิมไม่ได้เชื่อว่าตนเองจะค้นพบหลักพื้นฐานของการปฏิรูปการศึกษาในอังกฤษ เกือบหกปีที่แล้ว เรือโดยสารไอน้ำนำพาข้าพเจ้าซึ่งเป็นจำพวกต่อต้านอังกฤษไปที่นั่นครั้งแรกโดยได้รับประโยชน์จากสถานการณ์โชคช่วยทั้งที่อ่อนเยาว์และไร้ประสบการณ์ นอกจากนี้ การเกลียดชังอังกฤษกลับมีคุณประโยชน์ต่อมุมมองการค้นคว้าของข้าพเจ้าและก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ข้าพเจ้ากำลังจะนำเสนอแก่ท่าน เมื่อข้าพเจ้าได้รู้จักกับโลกการศึกษาที่ตรงข้ามอย่างสิ้นเชิงกับสิ่งที่ข้าพเจ้าคุ้นเคยเพื่อนำไปสู่การพินิจพิจารณาอังกฤษต่อการสถาปนาหลักพื้นฐานของการศึกษา ความสงสัยของข้าพเจ้าทำให้ตนเองต้องมองหาความบกพร่องอย่างละเอียดที่สุด แม้จะสงสัยในตัวเองว่าจะสำเร็จหรือไม่ ข้าพเจ้าก็ขุดคุ้ยทุกแห่งหนเพื่อค้นหาโดยหวังว่าจะประสบผลในความพยายามนี้ แต่ข้าพเจ้าก็ไม่เคยพบข้อบกพร่องดังกล่าวเลย

            ในยามที่เด็กนักเรียนของพวกเราดูจะเบื่อหน่าย เด็กนักเรียนอังกฤษกลับเริงร่า นั่นคือสิ่งน่าสนใจประการแรก เราอาจคิดในแวบแรกว่า ความร่าเริงของเด็กอังกฤษมาจากอากาศสดชื่นที่พวกเขาหายใจ เมื่อคนฝรั่งเศสเดินทางไปอังกฤษ เขาจะไม่เคยพลาดที่จะกล่าวชื่นชมเรื่องนี้เมื่อเยี่ยมชมโรงเรียนหนึ่ง แต่ส่วนใหญ่มักจะเป็นหนึ่งในสถานที่เก่าแก่ อลังการและตั้งอยู่ในชนบทล้อมรอบด้วยพื้นที่สีเขียวและโล่งโปร่ง อย่างไรก็ตาม ข้าพเจ้าต้องบอกแก่ท่านว่า มีโรงเรียนจำนวนมากในเมืองเช่นกันที่อยู่ใจกลางมหานครลอนดอนรวมทั้งโรงเรียนที่อื่นซึ่งปกคลุมด้วยหมอกในเมืองใหญ่ที่ไม่มีพื้นที่สีเขียวและคับแคบ แต่นักเรียนก็ดูมีความสุข โรงเรียนเหล่านี้ดูคล้ายกันไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็ก ร่ำรวยหรือยากจน ชนชั้นสูงหรือสามัญชน ทุกแห่งเต็มไปด้วยความสุขและทุกที่ก็มีแต่ความมั่นใจ ไม่มีความเป็นทหาร ไม่มีความเผด็จการ แต่มีบางอย่างซึ่งอธิบายไม่ได้ที่ทำให้เราเกิดความฉงนปนอิจฉา สิ่งนี้คือความประทับใจแรกพบ…และเราก็จะได้พบกับบทบาทของการกีฬาที่ยิ่งใหญ่เกินคำบรรยาย เป้าประสงค์ของเกมกีฬา (ซึ่งถูกเรียกขานที่นั่น) ในเบื้องต้นดูราวจะเป็นการให้ความบันเทิงแก่นักเรียนพร้อมการพัฒนาความแข็งแรง การสร้างความรื่นเริงและสุขภาพในโรงเรียนเป็นความประเสริฐอย่างยิ่งแต่ที่นี่มีความแตกต่างกล่าวคือ หากท่านต้องการค้นหาสาเหตุของลำดับชั้นทางสังคมที่ชัดเจนของนักเรียน ก็จะพบว่า การกีฬาก่อให้เกิดขึ้นด้วยการมอบวัตถุดิบที่ตอบสนองความปรารถนาของพวกเขาซึ่งเป็นที่ต้องการยิ่งของนักเรียน หากท่านต้องการทราบถึงสิ่งทรงพลังที่จะสร้างสมดุลแก่เสรีภาพที่มากมายและน่าตกใจ ก็จะพบว่า การกีฬาช่วยยับยั้งการใช้เสรีภาพในทางที่ผิด หากท่านต้องการใคร่ครวญในประเด็นจริยธรรมซึ่งท่านอาจทึกทักว่า การจัดสภาพเช่นนั้นอาจสร้างความเสียหายได้ ก็จะพบว่า การกีฬาคือเครื่องขัดเกลาจริยธรรมชั้นเลิศ

            ผลลัพธ์ที่น่าตื่นตระหนกเหล่านี้ทำให้ต้องใช้เวลานานกว่าจะยอมรับได้ กิจกรรมทางกายเป็นสิ่งชัดเจนและปรกติยิ่ง กิจกรรมทางสังคมต้องการสังเกตการณ์และการศึกษารายละเอียดจำนวนมาก แต่กิจกรรมเชิงจริยธรรมเป็นเรื่องยากต่อการเข้าใจ สิ่งที่ทำให้การพิจารณาประเด็นนี้มีความซับซ้อนมากขึ้นเนื่องเพราะพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ของโรงเรียนอังกฤษในการด้อยค่าระหว่างกัน โรงเรียนวินเชสเตอร์จะไม่มีคำยกย่องใดแก่โรงเรียนอีตัน ท่านเพิ่งเดินทางจากสถานที่เต็มเปี่ยมด้วยความมหัศจรรย์และเร่งรีบกลับไปที่เดิมโดยหวังจะพบข้อบกพร่องเล็กน้อยที่โดดเด่น แต่ไม่สมเจตนาและพวกเขาแนะให้ท่านไปค้นหาที่โรงเรียนฮาร์โรว์ซึ่งไม่มีอะไรให้พบเจอเช่นกัน ดังนั้น ท่านจึงเดินทางทั่วอังกฤษหลายรอบซึ่งเป็นโอกาสที่จะได้บันทึกข้อเท็จจริงสำคัญกว่าอีกประการคือ นักเรียนที่เข้าร่วมกีฬาอย่างเข้มแข็งจะเรียนเก่งและก้าวหน้าที่สุดไปพร้อมกัน ท่านขอพบกัปตันเรือซึ่งเขาคือคนที่เพิ่งถูกแนะนำแก่ท่านว่าเป็นประธานสโมสรห้องสมุด พอล บูเก็ต แสดงความเห็นอย่างชัดแจ้งต่อเรื่องนี้ในหนังสือล่าสุดว่า “หากเพียงแต่ท่านจะทราบถึงการแต่งงานระหว่างการออกกำลังกายที่แข็งขันกับวัฒนธรรมการเรียนรู้ว่าช่างออกดอกออกผลงดงามเพียงใดจากเสน่ห์เย้ายวนทางเพศ!”

            ท่านสุภาพชน ข้าพเจ้าได้กล่าวจบแล้วสำหรับการกีฬาของอังกฤษซึ่งข้าพเจ้าขอสรรเสริญบูชา ในวันนี้ ข้าพเจ้าขอกล่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับการกีฬาในฝรั่งเศสและรูปแบบการศึกษาที่สอดคล้องต่อกัน โดยเสมือนว่า ระบบที่พวกเรากำลังนำเสนอนี้ไม่ได้หยิบยืมจากคนต่างชาติ แต่พวกเราก็ต้องไม่หลงข้อเท็จจริงว่า ระบบนี้ได้รับการพิสูจน์จากเพื่อนบ้านและต้องไม่ลืมว่า ระบบนี้เป็นผลสืบเนื่องจากการปฏิรูปของพวกเขาเมื่อห้าสิบปีที่ผ่านมา สิ่งที่พวกเขาทำแล้วเสร็จ พวกเราก็สามารถประสบผลเช่นกัน

            3.คำที่ข้าพเจ้าเพิ่งใช้ด้วยความตั้งใจเพื่อให้ความหมายที่จริงแท้ในที่นี้ กลับไม่เกิดความเข้าใจมากเท่าที่ถูกใช้ ลองนึกภาพการขี่ม้าระยะสั้นในป่าทุกวัน ให้นึกภาพการยิงปืนสั้นเป็นประจำที่เกสติน-เรเน็ต จินตนาการชาวปารีสอาบน้ำเป็นเวลาสิบสองนาทีในทะเลทุกเช้าช่วงวันหยุดฤดูร้อนและตามด้วยการเล่นลอนเทนนิสอีกหนึ่งหรือสองชั่วโมง ท่านอาจคิดว่า บุคคลเหล่านี้ทั้งหมดเข้าร่วมการกีฬา แต่ไม่ใช่ พวกเขากำลังเกี่ยวข้องกับการออกกำลังกายที่จะส่งผลบางประการต่อการพัฒนาตนเอง แต่ไม่ใช่สิ่งที่ข้าพเจ้ากำลังเอ่ยถึง นอกเหนือจากการออกกำลังเล็กน้อยเหล่านี้ ยังมีอย่างอื่นที่เยาวชนอังกฤษเข้าร่วมในปัจจุบันและเป็นสิ่งที่ชาวกรีกและโรมันปฏิบัติในอดีต ดูเหมือนว่ากรุงเอเธนส์ กรุงโรมและลอนดอนจะเป็นศูนย์การกีฬาที่ยิ่งใหญ่สามแห่ง สักวันหนึ่งอาจมีบางคนค้นพบเอกสารด้านการพัฒนาความแข็งแรงของร่างกายที่เหมาะสมในหุ่นมัมมีอียิปต์ นอกจากสามอาณาจักรนี้ ยังไม่มีที่ใดที่การกีฬาได้รับการบ่มเพาะอย่างเต็มที่ โดยทั้งสามแห่งนี้คือสิ่งเดียวที่สามารถอ้างถึงด้วยความมั่นใจและก็สมควรที่จะกล่าวเช่นกันว่า มีแต่เพียงสามแห่งนี้ที่ทรงอิทธิพลที่สุดและส่งผลยาวนานต่อโลกใบนี้ หากพวกเราชำเลืองมองรอบตัวโดยไม่นับรวมผู้หลงใหลในกีฬาที่ข้าพเจ้าได้วิพากษ์เมื่อสักครู่แล้ว ก็จะพบผู้อื่นซึ่งขึงขังจริงจังมากกว่าที่ไม่สนใจใยดีต่อความอลังการและท่วงท่าลีลา ผู้ซึ่งเกี่ยวข้องกับการออกกำลังชนิดหนึ่งและปฏิบัติเช่นนี้ตลอดชีวิตด้วยความทุ่มเท แต่สิ่งที่น่าสนใจยิ่งคือ พวกเขาเกือบทั้งหมดนั้น ทำงาน พวกเขาคือพนักงาน ในบรรดาคนเกียจคร้านซึ่งความร่ำรวยหรือตระกูลสูงศักดิ์ละเว้นพวกเขาจากการทำงานนั้น แทบจะไม่มีผู้ใดคนลอกเลียนแบบพวกเขาได้

            กลุ่มเยาวชนในบัวส์เดอบูลองมีสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งกำลังสนุกสนานกับการยิงนกพิราบและเล่นสเก็ตในฤดูหนาว (ในพื้นที่ค่อนข้างเล็ก) ส่วนอีกกลุ่มกำลังวิ่งเหมือนนักกีฬาโบราณที่อาณาจักรกรีกภาคภูมิใจ คงไม่จำเป็นที่ข้าพเจ้าจะต้องบอกท่านว่าใครกำลังเล่นกีฬาและใครที่ไม่ใช่ ท่านได้เห็นทีมเรือพายจำนวนน้อยกำลังฝึกซ้อมในแม่น้ำของพวกเราเพื่อการแข่งขันหรือไม่? ท่านสังเกตเห็นความเคารพอย่างยิ่งต่อกัปตันซึ่งพวกเขาพร้อมใจยอมรับหรือไม่? ท่านชื่นชมความทุ่มเทของพวกเขาจากใบหน้าเหน็ดเหนื่อยและการแสดงออกซึ่งความแน่วแน่บนสีหน้าที่บิดเบี้ยวไปด้วยความอุตสาหะหรือไม่? หากท่านสังเกตเห็นสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด ก็จะต้องเห็นถึงความรื่นรมย์ในการกีฬาซึ่งเป็นแบบโหดร้ายอย่างแน่นอนและเราคงไม่สามารถลิ้มรสความรื่นรมย์ตั้งแต่เริ่มต้น อย่างไรก็ตาม ความยินดีปรีดานี้ย่อมมีความเหนือกว่าความรื่นรมย์ที่จืดชืด กิจกรรมนันทนการเล็กน้อยและการออกกำลังเพื่อผ่อนคลาย เมื่อเข้าใจในลักษณะนี้แล้ว การกีฬาจะนำไปสู่อุดมคติของมนุษยชาติกล่าวคือ ชัยชนะเหนือตนเอง การกีฬาในแนวทางนี้จึงยิ่งใหญ่และเป็นปรัชญาซึ่งจะนำพวกเรากลับสู่คำสอนสโตอิกซึ่งคนรุ่นใหม่ได้ขุดคุ้ยข้อผิดพลาดและสิ่งเกินควรจำนวนมากยกเว้นแต่ความเป็นผู้ดีและความบริสุทธิ์ที่ไม่เคยถูกแตะต้อง ท่านสุภาพชน หนังสือ Manual of Epictetus คือ คู่มือการกีฬา หนังสือ Meditations of Marcus Aurelius คือ ความคิดเห็นของนักกีฬาเช่น นักต่อสู้ เป็นต้น ข้าพเจ้าไม่ปฏิเสธว่า การต่อสู้ด้านจิตใจเป็นสิ่งแยกจากการต่อสู้ทางกาย ผู้นำจิตใจบางคนไม่ต้องใช้การต่อสู้ทางกายเพื่อชัยชนะตั้งแต่เริ่มต้น แต่สิ่งนี้เป็นข้อยกเว้นของกฎกติกา ในความเป็นจริง คนต้องครอบครองร่างกายที่เป็นเลิศเพื่อเข้าให้ถึงจิตใจโดยไม่ต้องกระทำต่อสิ่งภายนอกที่ห่อหุ้มจิตใจซึ่งเป็นไปได้สำหรับทุกคนที่จะสร้างความเข้มแข็งให้สิ่งหนึ่งด้วยอีกสิ่งหนึ่ง

            การกีฬาในที่นี้ถูกนิยามโดยผลลัพธ์ที่ปรากฎขึ้นกล่าวคือ ความพยายามด้วยตนเอง การต่อสู้ ความยากลำบาก วัฒนธรรมทางกายและบุคลิกภาพกำยำล้ำเลิศ ข้าพเจ้าคงจะละเลยหากไม่กล่าวถึงบทบาทของการกีฬาต่อสติปัญญาซึ่งหลายคนคาดว่าจะเป็นโทษอย่างมาก อีกครั้งหนึ่งที่เกิดความสับสนระหว่างสิ่งที่เรียกว่า การกีฬากับการออกกำลังกายภายใต้ชื่อดังกล่าวนี้ ข้าพเจ้าได้กล่าวแล้วว่า สองสิ่งนี้ไม่ใคร่จะถูกรังเกียจนัก ทั้งสองสิ่งนี้สนุกสนานและไม่มีอะไรมากไปกว่านี้ โดยเหตุนี้ สองสิ่งทำให้สติปัญญาอ่อนเปลี้ย สองสิ่งนี้โน้มนำสติปัญญาให้พักผ่อนและมีสาระวิชาเป็นไปเพื่อสันทนาการ และหากจะเพิ่มเติมว่า คนที่เล่นกีฬาหรือออกกำลังกายมักจะเป็นกลุ่มคนว่างงาน เราก็จะเข้าใจได้ว่า ทำไมคนส่วนใหญ่จึงลงความเห็นที่ไม่น่าปรารถนานัก ผลของการออกกำลังกายที่มีความพยายามเป็นหัวใจนั้นค่อนข้างแตกต่างเป็นอย่างมาก ในการออกกำลังกายเหล่านี้ การตัดสินใจต้องทำอย่างรวดเร็วและจะมีแม้กระทั่งอันตรายอยู่ตรงหน้า ซึ่งจะต้องการทั้งปฏิกิริยาที่ว่องไวและความสงบนิ่งในทางปฏิบัติ เพื่อให้เกิดความเข้าใจถ่องแท้ต่อความแตกต่างนี้ ข้าพเจ้าขอให้ท่านพิจารณาไม่เฉพาะวัยรุ่น แต่ให้รวมถึงเด็กและผู้ใหญ่ด้วย เด็กวัยรุ่นกล้าหาญที่ปีนกำแพงและกระโจนข้ามสายน้ำนั้นเล่นกีฬาตามนิยามของตนเอง ใช่หรือไม่? การตกหรือเปียกน้ำที่รอพวกเขาอยู่นั้นเป็นแต่เพียงความน่าสนใจอีกรูปแบบหนึ่ง บ่อยครั้งที่ญาติคนโตของพวกเขาจะประสบความสำเร็จในเรื่องเดียวกันหรือยังคงพยายามอย่างยิ่งยวดจนจบเนื่องเพราะพวกเขาต้องการแสดงความแข็งแกร่งแก่คนอื่น อย่างไรก็ตาม เด็กก็ไม่สนใจหากจะไม่มีคนใดเหลียวแล พวกเขาเบิกบานสำราญใจต่อการเอาชนะอุปสรรคทางธรรมชาติ ยิ่งลำบากมากขึ้นเท่าไร ความพึงพอใจในความสำเร็จจะยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น ความรู้สึกเช่นเดียวกันนี้เกิดขึ้นกับนักกู้ภัย นักบุกเบิกและนักสอนศาสนาผู้รักการต่อสู้ การผจญภัย และการใช้ร่างกาย ซึ่งเป็นอีกปลายข้างหนึ่งของความรู้สึกนี้ เดิมพันอาจเป็นมนุษย์หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ วัตถุจูงใจหรือจริยธรรม ความรุ่งโรจน์หรือเงินตราก็อาจจะใช่ แต่ก็มีความหมายน้อยมาก ทั้งปวงนี้คือการกีฬา กรุณาบอกข้าพเจ้าว่า นักกีฬาเหล่านี้ไม่ฉลาด ใช่ไหม?

            การเดินทางของความเป็นนักกีฬาซึ่งมีหลักพื้นฐานที่ข้าพเจ้าเพิ่งอธิบายโดยคร่าวแล้วมายังสาขาการศึกษาจะเกิดข้อโต้แย้งสองประการได้แก่ หนึ่ง การกีฬาไม่เหมาะกับบุคลิกภาพทุกชนิด และสอง การกีฬาสร้างความโหดร้าย ในความเป็นจริง มีเด็กเจ็บป่วยจำนวนหนึ่งที่วิทยาการกีฬาไม่มีประโยชน์แต่เด็กพวกนี้ก็ไม่จำเป็นต้องเข้าโรงเรียน หากใครต้องการทำลายบุคลิกภาพของพวกเขา จงมอบความขมขื่นตลอดเวลาเพื่อสร้างความล้มเหลวแก่พวกเขา ไม่มีวิธีการใดที่จะให้ผลไปกว่าการให้พวกเขาอยู่ร่วมกับเด็กอื่น ดังนั้น ข้าพเจ้าจะไม่ขอกล่าวถึงเด็กเหล่านี้ นอกจากนี้ จะมีเด็กที่ค่อนข้างอ่อนแอและขี้อายซึ่งการฝึกซ้อมปานกลางและไม่ยากจะก่อให้เกิดผลดีงาม ในท้ายสุด เราไม่ต้องแข็งแรงมากสำหรับการต่อสู้และเด็กทั้งหลายสามารถถูกลากจูงไปทิศทางนั้นหากไม่ถูกเร่งรัด หากพวกเขาได้รับอนุญาตให้มุ่งหน้าตามจังหวะตนเอง และหากการกระตุ้นที่เหมาะสมได้กระทำในยามที่ต้องการ ยิ่งกว่านั้น เมื่อเกี่ยวข้องกับความภูมิใจในตนเอง เด็กจะแอบฝึกซ้อมเพื่อกวดให้ทันเพื่อนร่วมชั้นที่คล่องแคล่วและมีทักษะสูงกว่าโดยจะไม่ยอมหยุดจนกว่าจะทำสำเร็จ ความเห็นจำนวนมากต่อประการที่สองมีลักษณะเดียวกัน ทหารภาคภูมิในเครื่องแบบและความปรารถนาที่จะสะพายดาบหรือประดับอินทรธนูคือสิ่งปรกติที่ไม่จำเป็นต้องกล่าวถึงตัวอย่างใด จึงเป็นข้อเท็จจจริงที่ไม่แปลกว่า เสื้อคลุมและกางเกงขาวปลุกเร้าจิตวิญญาณต่อสู้ของเด็กและเมื่อพวกเขาสวมเครื่องแบบเหล่านี้แล้ว จึงแปลงเป็นทหาร พวกเราพร้อมใจให้เกียรติแก่เครื่องแบบนี้…จากเด็กน้อยที่ปีนต้นไม้สู่พลเมืองที่เสี่ยงชีวิตช่วยผู้อื่น จะเพิ่มขีดระดับความเพียรพยายามทีละน้อยเป็นสัดส่วนตามวิธีการรายบุคคล ความยืดหยุ่นของการกีฬา คือ เหตุผลหลักในการเข้าถึงทุกคน

            ข้อโต้แย้งที่สองมีความรุนแรงมากกว่า เป็นที่ชัดเจนว่า การฝึกซ้อมของการกีฬาจะต้องกระทำพร้อมด้วยการพัฒนาจริยธรรมโดยนักการศึกษา การนำแต่เพียงการกีฬาเข้าสู่โรงเรียนของพวกเราอาจส่งผลให้เกิดการเพิ่มขึ้นของความมึนงงและการปฏิบัติที่ไม่ดี การสร้างความแข็งแรงแก่เด็กแต่ทำการกลับหลังหันโดยห้ามไม่ให้พวกเขาใช้ความแข็งแกร่งนี้ถือเป็นความผิดพลาดที่เลวร้าย จึงจำเป็นต้องมีทางออกให้ ครูจะเข้ามามีบทบาทในเรื่องนี้ เมื่อครูมอบภารกิจสำคัญแก่เด็ก เด็กจะรับรู้ถึงเกียรติภูมิที่สูงขึ้นของตนเอง เด็กจะกลายเป็นผู้พิทักษ์มากกว่าจะเป็นผู้ถูกปกป้องซึ่งตนเคยเป็นมาก่อน สิ่งนี้ทำให้เขาประเมินตนเองสูงขึ้นแต่ก็เป็นการปลดอาวุธเขาเช่นกันกล่าวคือ เขาอาจใช้ความแข็งแกร่งของตนเองโดยไม่สนใจในสิ่งใดแต่อย่างน้อยก็เป็นไปเพื่อสิ่งดีงาม ในทางกลับกัน เขาจะไม่เสี่ยงที่จะสูญเสียความไว้เนื้อเชื่อใจที่ตนได้รับความสำคัญ เขาจะไม่เกิดความเบื่อในความสุขที่ได้รับการปฏิบัติเยี่ยงผู้ใหญ่คนหนึ่ง นับจากนั้น กำปั้นของเขามีไว้สำหรับหน้าที่และคำสั่งที่ชอบธรรม เขาสนับสนุนรัฐบาลเพราะตนเป็นส่วนหนึ่งและคติพจน์ของเขาคือ “ความสุภาพและความสงบนิ่ง” โดยเขาจะมีความสุภาพและสงบนิ่งอย่างมากสุดที่จะทำได้เพื่อผลการปฏิบัติงานของภารกิจตนเอง ข้าพเจ้าไม่สามารถกล่าวหัวข้อนี้มากขึ้นซึ่งอาจต้องการรายละเอียดมากโข สิ่งที่ข้าพเจ้ากำลังนำเสนอเป็นแต่เพียงกรอบแนวคิดของระบบเท่านั้น แต่ท่านก็ได้เห็นถึงบทบาทของครูรวมทั้งชั้นเชิง ทักษะและปัญญาที่ต้องมีตลอดจนการทำงานหนัก ความเอาใจใส่และความรัก การกระทำใดๆของครูที่ลุแก่อำนาจจะทำลายสถานการณ์ที่จะเบี่ยงเบนหันเหนายพลน้อยผู้เต็มเปี่ยมด้วยเจตนาดีแต่ขาดซึ่งประสบการณ์

            ข้อโต้แย้งอีกประการหนึ่งที่เกิดขึ้นบ่อยเมื่อผู้คนกล่าวว่า วิทยาการกีฬาไม่เหมาะกับชนชาติฝรั่งเศส ข้าพเจ้าขอปฏิเสธที่จะอภิปรายเรื่องนี้เนื่องเพราะ หากเป็นเช่นนั้น เราก็ต้องยอมรับถึงความด้อยกว่าของเชื้อสายพวกเรา ไม่ใช่จากมุมมองพิเศษประการใด แต่จากมิติทั่วไปของบุคลิกภาพและเจตจำนง เราอาจบอกว่า พวกเราเหมาะกับการยอมแพ้ การถูกปกครอง โดยความกล้าหาญ พละกำลังและความริเริ่มไม่สามารถพัฒนาในตัวพวกเราได้ ข้าพเจ้าแปลกใจที่ชาวฝรั่งเศสกลับมีความคิดทำนองนั้นและไม่สบอารมณ์ที่พวกเขากล้าที่พูดเช่นนั้น

            4.ภายหลังที่ได้อธิบายวิทยาการกีฬาแล้ว งานของข้าพเจ้าคงจะไม่สมบูรณ์หากไม่บอกกล่าวแก่ท่านถึงบุคคลที่สามารถลงมือปฏิบัติได้? มหาวิทยาลัย ใช่หรือไม่? สถาบันการศึกษาของศาสนา ใช่หรือไม่? ข้าพเจ้าหวังว่า มหาวิทยาลัยจะสอนการศึกษาดังกล่าวในวันหนึ่ง แต่พวกเราคงไม่เริ่มต้นที่ระดับนั้น การบรรลุงานชิ้นนี้ต้องการความเป็นอิสระที่ครูไม่มีหรือสมาชิกของกลุ่มศาสนาเช่นกัน อาจารย์มหาวิทยาลัยมีหน้าที่รับผิดชอบต่อการถ่ายทอดกฎหมาย พระราชบัญญัติบอกพวกเขาถึงจิตวิญญาณแห่งกฎหมาย การจัดการเงินถูกแยกต่างหากจากพวกเขา ด้วยระบบการศึกษาที่ฝรั่งเศสดำเนินการจนถึงปัจจุบันนี้ สภาวะเช่นนี้ย่อมเป็นที่เข้าใจและยอมรับได้ แต่ก็เป็นการขัดแย้งอย่างสิ้นเชิงต่อหลักพื้นฐานที่ข้าพเจ้าเพิ่งอธิบายแก่ท่าน โปรดอย่าเข้าใจผิด ปีศาจสิงอยู่ในวัตถุ ไม่ใช่ผู้คน เมื่อพิจารณาถึงเกียรติภูมิของบุคลากรที่เป็นส่วนหนึ่งของมหาวิทยาลัยไม่ว่าจะเป็นด้านจิตสาธารณะ ทักษะและความมุ่งมั่นต่องานแล้ว บางท่านกลับถูกวิพากษ์วิจารณ์ในสิ่งตนสอน ประเด็นเป็นที่ชัดแจ้งว่า ผู้ปฏิบัติงานที่ดีเหล่านี้มีเครื่องมือที่ไม่สมบูรณ์ต่อการใช้งาน โดยเหตุนี้ ผลผลิตจึงไม่สอดคล้องต่อสิ่งที่ควรจะได้รับจากคุณภาพที่หายากและมีค่าของพวกเขา

            พวกเราต้องให้ความใส่ใจมากกว่าเพียงการขจัดอุปสรรคและทำลายสิ่งกีดขวางที่ระบบเดิมมีต่อระบบใหม่ พวกเราต้องปรับปรุงสถานการณ์ของครูและนักการศึกษา สถานการณ์เช่นนี้เป็นสิ่งไม่สมควรยิ่งต่องานยิ่งใหญ่ที่พวกเขากระทำ ไม่มีบทบาทใดที่น่ายกย่องไปกว่าการสร้างมนุษย์และพลเมือง โดยข้าพเจ้าเห็นว่า ความเข้มแข็งแห่งจริยธรรมของประเทศชาติจะวัดได้จากความเคารพของเยาวชนที่มีต่อครู ดังนั้น พวกเรามีวาระที่จะต้องมอบอิสรภาพแก่ครูและนักเรียนในฝรั่งเศส เนื่องเพราะทั้งสองเจ็บปวดจากข้อจำกัดคับแคบที่ร้อยรัดพวกเขาไว้ ใครจะเห็นด้วยว่า ครูใหญ่ที่ผ่านการคัดเลือกอย่างดีซึ่งมีคุณธรรมและความรู้ยิ่ง จะรู้เรื่องเกี่ยวกับการกำกับดูแลโรงเรียนตนเองน้อยกว่าผู้ที่เขาต้องรายงานกล่าวคือผู้ตรวจการศึกษาซึ่งไม่สามารถจะรู้ทุกสิ่ง เข้าใจทุกอย่างและคาดการณ์ทุกอย่างได้ หรือรัฐมนตรีผู้เบิกบานกับความพึงพอใจประหลาดของการเล่นเครื่องดนตรีชุดเดียวกันพร้อมกันทั้งประเทศฝรั่งเศส? บุคคลผู้โอ้อวดถึงการดำเนินงานที่ยิ่งใหญ่นี้ กำลังขับเคลื่อนหลักการอันตรายนี้ไปยังขีดสุดเท่านั้น ท่านอาจคิดว่า องค์กรที่มอบหมายอำนาจทั้งหมดของเจ้าหน้าที่ไปยังครูใหญ่จะอันตรายไม่น้อยกว่าหรือ ข้าพเจ้าก็เห็นด้วย แต่สิ่งนี้ไม่ใช่หัวใจของเรื่องนี้หรือ? หากครูใหญ่รู้จักโรงเรียนตนเองดีกว่าผู้ตรวจการศึกษาและครูรู้จักชั้นเรียนมากกว่าครูใหญ่แล้ว ทำไมทุกคนที่เกี่ยวข้องกับงานยิ่งใหญ่นี้ซึ่งเป็นคนที่จารึกรอยไว้ในสิ่งที่ตนช่วยสร้างไว้ จึงไม่ถูกเชิญให้แบกรับภาระการกำกับดูแลโรงเรียนด้วย? ทำไมผู้อำนวยการจึงไม่มีที่ปรึกษารายล้อมตนเองเพื่อสร้างแรงบันดาลใจจากความเห็นของพวกเขา? นอกจากนี้ อะไรจะดีไปกว่าการเรียกครูใหญ่และผู้อำนวยการโรงเรียนให้เข้าประชุมกับสภาการศึกษาซึ่งอาจมีหนึ่งหรือสองจังหวัดในบางครั้งและทุกจังหวัดของฝรั่งเศสในบางคราว?

            สิ่งดังกล่าวนี้คือสิ่งที่มหาวิทยาลัยไม่สามารถกระทำได้ เว้นแต่โครงการเอกชนจะเปิดโอกาสให้ทำ ทั้งนี้ จึงขึ้นอยู่กับการศึกษาเอกชนที่จะเริ่มต้นปฏิรูปในปัจจุบันโดยการปรับปรุงสถานการณ์ครูด้านจริยธรรมและการเงินซึ่งเรียกร้องพวกเขาสู่บทบาทใหม่ที่กว้างขึ้นและเป็นส่วนบุคคลมากยิ่งขึ้น ด้านจริยธรรมด้วยการเชื่อมโยงพวกเขาสู่การบริหารโรงเรียน ด้านการเงินด้วยการพัฒนาระบบการสอน การศึกษาเอกชนนี้จะต้องถูกจัดตั้งโดยไม่ปฏิเสธคำสอนศาสนาซึ่งมักถูกเข้าใจผิดพลาดเนื่องจากคำที่ใช้ (บุคคลที่แยกศาสนาออกจากการศึกษาในโรงเรียนประจำกำลังสร้างภาพลวงตาใหญ่โตแก่ตนเองและพวกเขาก่นด่าตนเองจากการศึกษาที่ไม่มีคุณภาพซึ่งพวกเขาจะไม่สามารถหลบหนีไปได้) แต่โดยความหมายของกลุ่มความเชื่อที่ยึดถือภายในกรอบแคบของกฎตายตัวซึ่งเป็นผลจากปีศาจตัวเดียวกับมหาวิทยาลัยกล่าวคือ การรวมศูนย์อำนาจ

            จะต้องนิยามระบบการสอนก่อนจะเริ่มดำเนินการ เราใช้คำว่า “ระบบการสอน” เพื่อมอบหมายบางสิ่งที่ไม่สามารถอธิบายด้วยวิธีใด รูปทรงใด หรือรูปแบบใดเนื่องเพราะสิ่งสำคัญขาดหายไปกล่าวคือ ผู้สอน มีความสับสนมากมายเกี่ยวกับคำนี้และทุกคนก็ให้ความหมายของตนเองแก่สิ่งนี้ สถานการณ์เช่นนี้จะต้องหยุดลง สำหรับข้าพเจ้าแล้ว ข้าพเจ้าจะพยายามในเรื่องนี้อย่างเต็มที่ในการประชุมครั้งหน้า

            โดยเหตุดังนั้น จึงขึ้นอยู่กับการศึกษาเอกชนต่อการปฏิรูปนี้ซึ่งได้เริ่มขึ้นแล้ว และบุคคลผู้วาดแผนการปฏิรูปได้ตัดสินใจในการลงมือปฏิบัติไม่ว่าอะไรเกิดขึ้นก็ตาม ไม่เร่งรีบโดยไม่จำเป็น มีแต่ความมุ่งมั่นที่ไม่มีอุปสรรคใดจะหยุดยั้งได้ สมาคมที่ก่อตั้งตามเป้าประสงค์นี้ยืนกรานด้วยเสียงดังและชัดเจนว่า ไม่มีวาระซ่อนเร้น ไม่มีแผนการโจมตี และเป็นกลุ่มเพื่อสันติภาพและความปรองดอง ทั้งนี้ หากว่าท่านเห็นว่า เยาวชนฝรั่งเศสไม่ได้จบจากโรงเรียนพร้อมด้วยกล้ามเนื้อที่แข็งแรงพอและบุคลิกภาพที่ถูกหล่อหลอมเข้มแข็ง หากท่านเชื่อว่า บุคคลผู้ให้การศึกษาแก่พวกเขาไม่ได้ครอบครองตำแหน่งของรัฐที่คุณลักษณะและเป้าประสงค์สูงส่งของพวกเราคู่ควร และเหนือสิ่งอื่นใด หากท่านเชื่อว่า บุคคลจะแข็งแกร่งด้วยการศึกษา งานอาชีพจะได้รับการขยับขยายและจุดหมายปลายทางของชีวิตจะได้รับการประกัน ขอเชิญเข้าร่วมกับพวกเราและโปรดวางใจว่า ความใส่ใจประการเดียวของพวกเราจะเป็นการมอบความรักและการทำคุณประโยชน์แก่ชาติยิ่งใหญ่ซึ่งโชคชะตาทำให้พวกเราเป็นพลเมือง

RANDOM

“ราชบุรี” มั่นใจ งานออกมาดี หลังร่วมหารือ 3 ฝ่ายกับ กกท.และสมาคมกีฬา ในการเตรียมเป็นเจ้าภาพกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 39 “ราชบุรีเกมส์” และกีฬาอาวุโสแห่งชาติ ครั้งที่ 6 “เมืองโอ่งเกมส์” ปีหน้า

NEWS

สสส. ร่วมกับ สคล. เชิญชวนโรงเรียนประถมศึกษาเข้าร่วมกิจกรรม “มารู้จักเจ้าชายภูมิพลกันเถอะ” ดาวน์โหลดรายละเอียดกิจกรรมได้ที่เว็บไซต์ ‘โรงเรียนคำพ่อสอน.com’ พร้อมรับเกียรติบัตรจากทางโครงการฯ สมัครเข้าร่วมกิจกรรมได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ประกวดเขียนเรียงความภาษาอังกฤษ หัวข้อ “ASEAN-IPR Cybersecurity Youth Essay Competition” ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกจะได้เข้าร่วมการประชุม ASEAN-IPR Regional Conference on Cybersecurity และมีโอกาสนำเสนอเรียงความในที่ประชุมดังกล่าว สมัครด่วน หมดเขต 22 พ.ย. นี้

You cannot copy content of this page

error: Content is protected !!