ขอต่ออีกวันกับเรื่องของ “วงการมวยสากลสมัครเล่นโลกที่ไทยต้องยุ่งเกี่ยวอย่างหนีไม่ได้” โดยวันนี้มีมุมมองเสนอฝ่ายที่ดูแลวงการกีฬาของประเทศ ทั้งกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และการกีฬาแห่งประเทศไทย
โดยขอย้อนถึงเรื่องระหว่างสมาคมมวยสากลไทยกับองค์กรมวยโลก บนความขัดแย้งที่หนัก ๆ ที่สุด ก็เหตุการณ์เมื่อสิบกว่าปีที่ผ่านมา
ซึ่งก่อนโอลิมปิกเกมส์ 2012 ที่กรุงลอนดอน อังกฤษ จะจัด เคยมีกรณีที่สมาคมมวยสากลสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ยุคนั้น โดนสหพันธ์มวยสากลนานาชาติ (ไอบ้า) แบน เพราะเขาระบุฝ่ายบริหารของไทยนั้นเป็นคู่ขัดแย้ง ฐานไปร่วมที่จะโค่นฝ่ายบริหารไอบ้า โดยตอนนั้นไอบ้ายื่นต่อไทยว่าหากไม่มีการเปลี่ยนแปลงฝ่ายบริหารของสมาคมมวยสากลสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ก็ไม่รับเข้าร่วมงานที่ไอบ้าดูแล รวมทั้งโอลิมปิกเกมส์ 2012 นั้นด้วย
และเมื่อเป็นเช่นนี้ทางการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ยุคนั้น มีนายกนกพันธ์ จุลเกษม เป็นผู้ว่าการ กกท.ซึ่งมองว่าหากโดนแบนไทยและไม่ทำตามไอบ้า ไทยก็จะเสียสิทธิเข้าร่วมโอลิมปิกเกมส์หนนั้น และสั่งให้สมาคมมวยสากลยุคนั้นเปลี่ยนแปลงก็ “ไม่ถูกทำตาม กกท.ร้องขอ” สุดท้าย กกท.ก็นำในการเปลี่ยนแปลง โดยตั้งสมาคมมวยสากลแห่งประเทศไทยขึ้นใหม่ (ขณะที่ของเดิมที่มีปัญหากับไอบ้าก็ยังอยู่ และโดนตัดออกจากการเป็นเครือข่ายของ กกท.ไป) และสมาคมชุดใหม่ก็เดินเข้าไปซบไอบ้า จน “แก้ว พงษ์ประยูร” ได้เหรียญเงิน โอลิมปิกเกมส์หนนั้น และชื่อสมาคมที่เข้าไปซบไอบ้าหนนั้น ก็คือสมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย ที่จากวันนั้นก็ใช้สิทธินั้นมาจนปัจจุบันนี้
“นั่นคือการเลือกของ กกท.ที่เอาเรื่องของเกมส์อย่างโอลิมปิกเกมส์เป็นหลัก จึงต้องหักสมาคมกีฬาของตัวเอง”
“และนั่นคือการแก้ปัญหา…เพื่อเดินเข้าไปซบไอบ้า”
แต่วันนี้องค์กรมวยสากลของไทย อย่าง “สมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย” นั้นแตกต่างจากกรณีเดิม และอยู่ในมุมกลับกันเพราะทุกคนกำลังลุ้นว่า “จะหนีจากไอบ้า” เพื่อไปซบ World Boxing องค์กรใหม่ที่คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) หนุน และเชื่อว่าจะได้เป็นองค์กรที่ดูแลสมาชิกมวยสากลสมัครเล่นโลก แล้วจะได้ดำเนินการจัดคัดและแข่งโอลิมปิกเกมส์แน่ หรือไม่!! หรือผู้ที่กำกับดูแลอย่าง กกท.จะคิดเดินเช่นไร
มีมุมมองหนึ่งที่เกิดขึ้น “จากวงเสวนาของผู้ที่เกี่ยวข้องในวงการมวยสากลและวงการกีฬาของไทย” ที่น่ามอง ซึ่งอาจจะเสนอเป็นทางเลือกของผู้เกี่ยวข้อง รวมทั้งการกีฬาแห่งประเทศไทยได้ด้วย ในประเด็นที่เห็นตรงกันว่า “ไทยเราควรเดินหน้าเพื่อไปโอลิมปิกเกมส์” โดยข้อเสนอนั้นก็คือ
“ให้ตั้งองค์กรมวยสากลขึ้นมาใหม่แทนของเดิมที่มีอยู่ในปัจจุบัน” เพื่อที่จะนำไปเดินตาม World Boxing
มีเหตุผลคือ สมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทยชุดเก่า ที่สังกัดไอบ้าอยู่แล้ว ก็จะได้ทำหน้าที่เดิม ทั้งนี้เพราะนอกเหนือจากจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ แล้ว ยังต้องมองถึง กรรมการ ผู้ตัดสิน ผู้ชี้ขาดของไทยที่อยู่ภายใต้สังกัดไอบ้าอยู่แล้ว ก็จะได้ทำหน้าที่ต่อไปในกิจกรรมของไอบ้าที่ยังมีอีกพอสมควรในการจัดงานอื่น ๆ แต่หากใช้สมาคมเดิมเปลี่ยนไปอยู่กับ World Boxing กลุ่มทีมงานคนไทยที่สังกัดไอบ้านี้จะ “ไม่มีที่ยืนกับไอบ้าแน่นอน” เพราะเราไม่มีองค์กรสังกัดกับเขา
เหตุผลต่อมาก็คือ เราไม่ต้องเสี่ยงเอาตัวบุคคล ในฝ่ายบริหารสมาคมมวยสากลเราชุดปัจจุบันนี้ ที่ถูกมองว่ามีส่วนร่วมกับไอบ้าอย่างเต็มรูปแบบ ทั้งในฐานะเป็นกรรมการบริหารไอบ้า ที่ได้ร่วมกันออกประกาศท้าชนกับไอโอซีจนมีปัญหาวิกฤตินี้เกิดขึ้น ไปให้ถูกองค์กรใหม่อย่าง World Boxing เพ่งพิจารณาการย้ายค่ายแต่บุคคลเดิมๆ หรือมีคำถามใด ๆ ตามมา
เหตุผลสุดท้ายที่เป็นเหตุผลสรุปก็คือ การตั้งสมาคมที่ดูแลมวยสากลในประเทศไทยใหม่ (อีกครั้ง) หาก กกท.จะดำเนินการ และ เดินตามกติกาของ World Boxing ที่ประกาศรับสมัครออกมาแล้วและให้ดำเนินการในเดือน พ.ค.2566 นี้ การตั้งสมาคมใหม่จะทำได้ง่ายกว่า เนื่องจากกติกาการรับสมัครหลายข้อนั้น มีเงื่อนไขต่าง ๆ ที่เราต้องทำขึ้นมาใหม่ ทั้งข้อบังคับการทำงาน การบริหารที่เกี่ยวข้องกับเรื่องต่างๆ ต้องสอดคล้องกับแนวทางเขา รวมทั้งเรื่องหลักฐานการร่วมต่อต้านสารกระตุ้น พร้อมอื่น ๆ อีกมากมาย และสำคัญการสมัครนั้น จะต้องเสนอชื่อฝ่ายบริหารของสมาคมใหม่ที่ “ต้องน่าเชื่อถือ” ให้ World Boxing พิจาณาด้วย….ในช่วงเวลาที่มีจำกัดและคนไทยอีกมากมายที่มีฝีมือ จะไปลุ้นได้-เสียทำไม!!!
ฉะนั้นที่นี่จึงเชียร์ให้ กกท.หรือฝ่ายที่เกี่ยวข้องจัดการตั้งสมาคมที่ดูแลมวยสากลสมัครเล่นในประเทศไทยใหม่ เพื่อไปอยู่กับ World Boxing ด้วยเหตุผลดังกล่าว…จึงเรียนมาเพื่อพิจารณาขอรับ.