ตอนที่ 42 : การกีฬาคือผู้รักษาสันติภาพ : หนังสืออุดมการณ์โอลิมปิกของคูเบอร์แต็ง : แปลโดย : ดร.นิพัทธ์ อึ้งปกรณ์แก้ว

แชร์บทความ

Share on facebook
Share on twitter

การกีฬาคือผู้รักษาสันติภาพ

            ในช่วงลำบากของการเมืองโลก คูเบอร์แต็งได้เขียนแสดงความเห็นในเรื่องนี้ ตามคำขอจากวารสารลารีวิวสปอร์ตีพอิลัสตรีของเบลเยียม มีการอภิปรายดุเดือดในสหรัฐอเมริกาเกี่ยวกับการไม่เข้าร่วมโอลิมปิกเกมส์ในกรุงเบอร์ลินต่อประเด็นการเข้าร่วมของชาวเยอรมันเชื้อสายยิว ท่านไม่ได้กล่าวเฉพาะเจาะจงในเรื่องดังกล่าวแต่ตีความประเด็นหัวข้อจากมุมมองมานุษยวิทยาตามแบบฉบับตนเองในบทความชื่อ งานเขียนเรื่องจิตวิทยาการกีฬา ตัวแปรหลักสองประการในการควบคุมนักกีฬาเพื่อต่อสู้กับสงครามและสันติภาพคือ กล้ามเนื้อและวินัย

            วารสารรีวิวสปอร์ตีพอิลัสตรีซึ่งเป็นมิตรเก่าและน่านับถือได้ขอความเห็นจากข้าพเจ้า “สองสามบรรทัด” สำหรับวารสารฉบับแรกของ ค.ศ.1935 ข้าพเจ้าจะปฏิเสธได้อย่างไร? แต่ผู้อ่านหลายท่านตระหนักดีถึงความยากลำบากเป็นอย่างยิ่งในการสร้างความเข้าใจและจัดเนื้อหาให้เหมาะสมเพียง “สองสามบรรทัด” มากกว่าจะเป็นสิ่งพิมพ์แผ่นพับ และในบางครั้งจะง่ายยิ่งขึ้นด้วยหนังสือเล่มเล็กมากกว่าสิ่งพิมพ์แผ่นพับ

            ทั้งนี้ ในบรรดาประเด็นการกีฬาที่เป็นข่าวปัจจุบัน (จำนวนไม่มากในขณะนี้) เรื่องหนึ่งใดที่ข้าพเจ้าเลือกคงต้องการคำสาธยายยืดยาว แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีความจำเป็นที่จะต้องตอบสนองอย่างฉับพลันต่อสัญญาณเตือนภัย ได้รับการหยิบยกขึ้นมาเกี่ยวกับการใช้ความแข็งแกร่งของการกีฬาต่อการสงครามและการปฏิวัติ “ชาติกระหายสงคราม” ในชื่อหนึ่งและ “โลกสากลที่สาม” ในอีกชื่อหนึ่งคือคำกล่าวหาต่อการวางแผนสิ่งเลวร้ายสุดที่เป็นไปได้ซึ่งอยู่ภายใต้กลุ่มองค์กรนักกีฬาที่คุกรุ่นไปได้แรงปรารถนาต่อการล้างเลือดหรือยั่วยุเกลียดชังสังคม

            ประเด็นข้างต้นเกี่ยวข้องต่อสองสิ่งคือ กล้ามเนื้อและวินัย เป็นที่แน่นอนว่า ผู้คนที่ผูกพันกับการกีฬาทรงพลังหรือแม้กระทั่งการกีฬาที่รุนแรงจะรักใคร่และเสริมสร้างความเข้มแข็ง แต่ไม่ใช่ว่าพวกเขารักใคร่และเสริมสร้างวินัยอย่างไม่ลืมหูลืมตา ในทางกลับกัน แปดในสิบคนของนักกีฬาเข้มแข็งนั้น เป็นที่พึ่งแห่งตน ตัวอย่างเช่น ความสามารถในการบังคับข้อจำกัดแก่ตนเองเพื่อให้เกิดชัยชนะแก่ทีมตนเองหรือแก่กลุ่มสีของสโมสรตนเอง ข้อจำกัดที่อาจแม้เป็นการปฏิเสธตนเอง สิ่งทั้งปวงนี้เป็นไปตามเงื่อนไขว่า เขารักษาความเป็นนายของตนเองและการเสียสละเพื่อกลุ่มนั้น ก็เป็นไปตามความต้องการของตนเองเพื่อกลุ่มเท่านั้น โดยเหตุดังนั้น หากเยาวชนรักชาติหรือฝักใฝ่ปฏิวัติได้รับการฝึกซ้อมกีฬาอย่างขมักเขม้นและสม่ำเสมอ ย่อมเป็นที่ชัดแจ้งว่า กลุ่มเยาวชนเหล่านี้จะได้รับคุณประโยชน์จากความเพียรของตนเองดังคติพจน์โบราณที่ว่า “ประเทศแข็งแกร่ง พลเมืองกล้าหาญ” (civium vires, civitatis vis.) แต่ไม่ใช่ว่าพวกเขาจะกลายเป็นคนหัวแข็ง สันโดษ หรือเหนือสิ่งอื่นใด จะเชื่อฟังหรือป่าเถื่อนยิ่งขึ้นด้วยกระบวนการนั้น ไม่เป็นเช่นนั้นอย่างแน่นอน บ่อยครั้งที่นักกีฬาจะเงียบขรึมกว่าเพื่อนชั้นเรียนอื่นที่ไม่ใช่นักกีฬา…และมีความสุขใจในการนี้ อย่างไรก็ตาม เขายังคงเฝ้าสังเกตและใช้ดุลยพินิจ นักกีฬาไม่ยอมที่จะถูก “ล้างสมอง” โดยง่าย

            สิ่งเหล่านี้และคุณลักษณะโดดเด่นอื่นจะต้องได้รับการพิจารณา เนื่องเพราะพวกเขามีลักษณะปัจเจก นักกีฬาจึงให้ความสนใจและชื่นชมผลงานของคู่แข่งขันตนเอง ยามที่พวกเขาเป็นศัตรูทางการเมืองหรือสังคม แม้จะเฝ้ายามอยู่บนที่กำบังหรือสนามเพลาะ ท่านจะเห็นพวกเขาให้ความใส่ใจใกล้ชิดสม่ำเสมอไม่เพียงแต่สถิติที่ถูกทำลาย แต่รวมถึงความพยายามที่ไม่บรรลุผลในการเอาชนะพวกเขา ซึ่งความพยายามเหล่านั้นเกิดขึ้นด้วยความกล้าหาญอย่างเต็มที่ถึงขีดสุด

            ขอให้เชื่อเมื่อข้าพเจ้ากล่าวว่า ท่านควรหยุดแสดงสัญญาณเตือนภัยเหล่านี้ การกีฬาชาติบุรุษเป็นสิ่งดีสำหรับทุกคนภายใต้ทุกสถานการณ์ การกีฬาจะไม่สร้างเทพยดาจากความโหดร้ายแต่เป็นไปได้ยิ่งที่การกีฬาจะบรรเทาความป่าเถื่อนนั้น ด้วยการทำให้บุคคลควบคุมตนเองได้ในระดับหนึ่ง อย่างน้อยที่สุดแล้ว การควบคุมตนเองย่อมเป็นคุณประโยชน์!      

RANDOM

NEWS

สสส. ร่วมกับ สคล. เชิญชวนโรงเรียนประถมศึกษาเข้าร่วมกิจกรรม “มารู้จักเจ้าชายภูมิพลกันเถอะ” ดาวน์โหลดรายละเอียดกิจกรรมได้ที่เว็บไซต์ ‘โรงเรียนคำพ่อสอน.com’ พร้อมรับเกียรติบัตรจากทางโครงการฯ สมัครเข้าร่วมกิจกรรมได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ประกวดเขียนเรียงความภาษาอังกฤษ หัวข้อ “ASEAN-IPR Cybersecurity Youth Essay Competition” ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกจะได้เข้าร่วมการประชุม ASEAN-IPR Regional Conference on Cybersecurity และมีโอกาสนำเสนอเรียงความในที่ประชุมดังกล่าว สมัครด่วน หมดเขต 22 พ.ย. นี้

You cannot copy content of this page

error: Content is protected !!