ปฐมบทของรัฐบาลชุดใหม่ นี้ เริ่มต้นในการบริหารงานอย่างเป็นทางการ วันที่ 1 กันยายน 2566 เมื่อถึงวันนี้ (18 ก.พ.2567) ก็จะ 6 เดือนแล้ว กับการทำหน้าที่ ในกระทรวงต่าง ๆ
ในวงการกีฬาคงโฟกัสง่าย ๆ ไปที่ รองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลกีฬา นายปานปรีย์ พหิทธานุกร และ นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่ถือเป็นฝ่ายบริหารสูงสุดใน “องคาพยพชาวกีฬาไทย”
กับการทำหน้าที่ดูแล “การบริหารจัดการทั้งหมด”
ภาพที่เห็นที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่า ทั้งโดยหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับกีฬา และ ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารด้านอื่น ๆ ที่ได้รับควบคู่กับกีฬานั้น ทั้ง 2 ท่าน ที่มาจากพรรคเพื่อไทย มีมากจริง ๆ จนทำให้หลายส่วนในวงการกีฬา เริ่มมองว่า “จะยังไง หรือ เอาแบบไหน” กับงานการกีฬา ณ เวลานี้
เริ่มต้นที่สมาคมกีฬาต่าง ๆ ฝากความหวังไว้ คือ การปลดปล่อยพันธนาการเกี่ยวกับการ “เบิกจ่ายเงิน” ในโครงการ หรือ กิจกรรมต่าง ๆ จากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ซึ่งมี บอร์ดกองทุน ที่นำโดย ท่านปานปรีย์ จะช่วยให้ มีความคล่องตัว เพื่อจะได้ดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ตามแผนและช่วงเวลาที่ควรจะเป็น สรุปสุดท้ายวันนี้ “ส่วนใหญ่” ยังคงติด ๆ ขัด ๆ เหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนแปลงใด ๆ
สิ่งที่สมาคมกีฬาและผู้เกี่ยวข้องฝากมาและงง คือ การอนุมัติทุกอย่างจะอยู่ที่บอร์ดกองทุน หรือชื่อเต็มคือคณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาตินั้น ซึ่งช่วงผ่านมาเหมือนไม่ใส่ใจ เพราะมีการประชุมแค่ครั้งเดียว ในขณะที่โครงการ กิจกรรม หรืองบ ที่สมาคมกีฬาต่าง ๆ รอคอยผ่านการกลั่นกรองเสร็จ รอบอร์ดอนุมัติ ยังค้างเติ่งอยู่มากมาย ด้วยทุกคนที่ฝากมาเข้าใจว่าท่านปานปรีย์งานมาก แต่ก็ยังมีคำถามว่า ทำไมไม่มอบหมายให้รองประธานซักคนทำหน้าที่แทน เพื่อที่จะได้ปล่อยงานที่ค้างคาได้…ซึ่งก็สามารถทำได้และควรทำ
เพราะเรื่องพวกนี้คือเรื่องความเดือดร้อนของสมาคมกีฬา ที่เป็นปัญหาในกระบวนการและขบวนการ “ขอเงินกองทุน” มายาวนาน และวันนี้ยังไม่ได้รับการสะสาง
นั่นคือเรื่องฝากกับ ท่านปานปรีย์ และ ทีมงานเพื่อพิจารณา ว่าจะเห็นควรประการใดในการบริหารจัดการ
ส่วนอีกเรื่องที่มีกลุ่มคนฝากถึง รัฐมนตรีกีฬา “นางสาวสุดาวรรณ” ในฐานะเป็นผู้ควบคุมดูแลพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ ด้วยคำถามว่า ปัญหาในมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ ที่ยาวนานมาแล้ว จะแก้ไขและเดินไปทางใด เพื่อให้เกิดความ “สมบูรณ์” ในการบริหารจัดการ
โดยจากที่มีปัญหาการแต่งตั้งอธิการบดีมายาวนาน ตามพรบ.ที่ออกมาตั้งแต่ปี 2562 และต่อสู้กันยาวจนมาถึงรัฐบาลชุดที่ผ่านมา ได้กระทำในวันที่ 21 ก.พ.2566 โดยมีการใช้คำสั่ง หัวหน้า คสช.ปลด อธิการบดี และยุบสภามหาวิทยาลัยชุดเก่า และตั้งคณะทำงานขึ้นมาแทนสภามหาวิทยาลัย และ ตั้งรักษาการอธิการบดีขึ้นมาทำงานชั่วคราว
คำสั่งหัวหน้า คสช.วันนั้นมีประเด็นสำคัญอยู่ 2 ส่วนคือให้คณะทำงานที่ตั้งขึ้น สอบทุจริตและประพฤติมิชอบของ อธิการบดีคนเก่า และ ดำเนินการตั้ง อธิการบดีคนใหม่ ให้เรียบร้อย
วันนี้การใช้อำนาจหัวหน้า คสช.วันนั้นจนวันนี้จะครบ 1 ปี และ ท่าน รมต.สุดาวรรณ เข้ามาทำหน้าที่จะครบ 6 เดือนแล้ว จะทำหน้าที่ตาม พรบ.ได้กำหนดไว้ เพื่อสะสางปมเหล่านี้อย่างไร
“การสอบสวนเรื่องทุจริต ประพฤติมิชอบ” อธิการบดีคนเก่า ที่เป็นข้อหาสังหารคน ๆ หนึ่ง ที่ทำให้ฝ่ายบริหารชุดเก่านั้นวงแตก และที่สำคัญคำกล่าวหาในข้อหานี้ยังติดตัวเขาอยู่… วันนี้ไปถึงไหนและจะเอาอย่างไร
“การแต่งตั้งอธิการบดีคนใหม่” ตามข้อกฎหมายที่เป็นคำสั่งของ หัวหน้า คสช.ในวันนั้น ซึ่งยังไม่ได้ยกเลิกคำสั่งนั้น…วันนี้มีบทสรุปหรือยังและจะดำเนินการต่ออย่างไร เพื่อให้การจัดการเป็นไปอย่างสมบูรณ์
เรื่องนี้ฝาก รมต.สุดาวรรณ และ ทีมงาน ว่าจะเห็นควรประการใดในการบริหารจัดการประเด็นนี้
เพื่อพิจารณา…ขอบคุณครับ.