อยากขายรถแต่ยังผ่อนไม่หมด ถ้าขายไปจะโดนฟ้องร้องหรือไม่ ?

แชร์บทความ

Share on facebook
Share on twitter

สวัสดีครับ เชื่อว่าใครหลาย ๆ คน อาจกำลังประสบปัญหาการเงินติดขัด มีความจำเป็นต้องใช้เงินเร่งด่วน จำต้องขายรถคู่กาย ที่เพิ่งซื้อได้ไม่นาน และยังผ่อนไม่หมด แบบนี้จะทำได้หรือไม่ และทำอย่างไรจะไม่ผิดกฎหมาย Station Thai มีคำตอบมาให้ครับ

แน่นอนว่า ปัจจุบันสามารถเปลี่ยนรถให้เป็นเงินสดได้ง่ายๆ สบายมาก คนที่ผ่อนเสร็จก็มีกรรมสิทธิ์ในการซื้อขายรถยนต์ได้อย่างเต็มที่ แต่กับอีกหลายๆ คนยังติดปัญหาตรงที่ “ผ่อนค่างวดยังไม่หมด” แบบนี้อาจเกิดข้อสงสัยว่า ถ้าเอารถไปขายทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ครอบครองกรรมสิทธิ์ จะถูกดำเนินคดีทางกฎหมายหรือไม่?

ขายรถผ่อนไม่หมดได้ไหม? ผิดกฎหมายหรือเปล่า?

ผู้ขาย
(1) ประมวลกฎหมายอาญา ความผิดฐานยักยอกทรัพย์ มาตรา 352 ได้กล่าวเอาไว้ว่า “ผู้ใดครอบครองทรัพย์ซึ่งเป็นของผู้อื่น หรือซึ่งผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ได้ เบียดบังเอาทรัพย์นั้นมาเป็นของตนหรือบุคคลที่สามโดยทุจริต ผู้นั้นกระทำความผิดฐานยักยอก ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”

ความตามกฎหมายฉบับนี้ อธิบายให้เข้าใจได้ง่าย ๆ คือ รถที่ยังติดไฟแนนซ์อยู่ โดยผ่อนส่งค่าเช่าซื้อยังไม่ครบนั้น กรรมสิทธิ์ในการครอบครองเป็นของไฟแนนซ์ ผู้เช่าซื้อมีสิทธิครอบครองใช้สอยเท่านั้น ไม่มีสิทธิ์ที่จะนำไปขายให้แก่บุคคลอื่น นั่นเอง

(2) อยากขายรถแต่ยังผ่อนไม่หมด ต้องทำยังไง?

ถ้าหากคุณสามารถตกลงปลงใจกับผู้ซื้อ และได้รับเงินเรียบร้อยแล้ว ให้รีบนำเงินก้อนนั้นไปปิดไฟแนนซ์ทันที ซึ่ง ข้อดี ก็คือ คุณสามารถต่อรองเรื่องการขอลดดอกเบี้ยได้อย่างสบาย ๆ โดยไฟแนนซ์จะคืนสมุดเล่มทะเบียนรถยนต์พร้อมกับโอนกรรมสิทธิ์ให้คุณ ภายหลังจากการชำระเงินและดำเนินการเสร็จสิ้น หลังจากนั้น ให้คุณรีบโอนกรรมสิทธิ์ดังกล่าวให้กับผู้ซื้อทันที

แต่ถ้าผู้ซื้อบอกว่า อยากที่จะผ่อนค่างวดรถต่อเอง ก็ให้ไปติดต่อไฟแนนซ์เพื่อขอโอนกรรมสิทธิ์นั้นให้กับผู้ซื้อได้ โดยที่คุณสามารถตกลงกับผู้ซื้อให้ชำระเงินส่วนต่างที่คุณเคยผ่อนไปแล้วได้เช่นกัน ซึ่งวิธีนี้เราเรียกกันว่า “ขายดาวน์” นั่นเอง

ผู้ซื้อ

หากรถที่นำมาขาย ยังเป็นกรรมสิทธิ์ของไฟแนนซ์ คนที่ซื้อรถคันดังกล่าว ก็จะอาจมีความผิดฐานรับของโจรเช่นเดียวกัน

“สรุป คือ รถที่ยังผ่อนไม่หมด ผู้ครอบครองไม่มีสิทธิ์เอารถคันดังกล่าวไปขาย เพราะรถยังเป็นกรรมสิทธิ์ของไฟแนนซ์อยู่นั่นเอง”

ขอบคุณข้อมูลจาก สำนักงานกิจการยุติธรรม

RANDOM

มูลนิธิเอสซีจี ชวนเยาวชนไทยหัวใจศิลป์ มาปลดปล่อยพลังสร้างสรรค์ ในโครงการประกวด “รางวัลยุวศิลปินไทย 2567” ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ และเงินรางวัลรวม 3,300,000 บาท

NEWS

You cannot copy content of this page

error: Content is protected !!