กีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่    7

ที่กรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน

วันที่ 1-16 กันยายน พ.ศ. 2517 (ค.ศ.1974)

     ซึ่งการแข่งขันครั้งนี้ เกือบต้องล้มคว่ำกลางคัน เนื่องจากอิหร่านและญี่ปุ่นได้นำข้อเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสหพันธ์เอเชี่ยนเกมส์ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 17-18 กันยายน พ.ศ. 2516 ให้ที่ประชุมพิจารณารับ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนจีน (จีน) เข้าเป็นสมาชิก โดยมีเงื่อนไขว่า สหพันธ์ฯต้องขับจีนชาติ (ไต้หวัน) ออกจากการเป็นสมาชิก ผลปรากฏว่ากรรมการบริหาร 4 คน ได้เดินออกจากที่ประชุม ในที่สุดจากการวิ่งเต้นของอิหร่าน และ ญี่ปุ่นจึงทำให้การรับรองสาธารณรัฐประชาชนจีน เข้าเป็นสมาชิกสหพันธ์ ผ่านไปด้วยดี และไม่เพียงแค่จีนเท่านั้น ชาติที่ได้ชื่อว่า เป็นชาติที่ปกครองด้วยระบอบสังคมนิยม อย่างเกาหลีเหนือ และ มองโกเลีย ก็เข้าร่วมเกมนี้เป็นหนแรก

     ดังนั้นการแข่งขันครั้งที่ 7 จึงมีประเทศเข้าร่วมการแข่งขัน 19 ประเทศ มีการชิง 202 เหรียญทอง จากกีฬาที่เจ้าภาพจัดทั้งหมด 16 ชนิด คือ กรีฑา แบดมินตัน บาสเกตบอล มวยสากล จักรยาน ฟุตบอล ฟันดาบ ยิมนาสติก ฮอกกี้ เทนนิส ยิงปืน ว่ายน้ำ เทเบิลเทนนิส วอลเลย์บอล ยกน้ำหนัก และมวยปล้ำ (โดยยิมนาสติก และ ฟันดาบ ถูกบรรจุเข้าสู่เกมนี้ เป็นหนแรก) แล้วมีการนำเอากล้องมาใช้ในการถ่ายภาพผู้เข้าเส้นชัยในการแข่งขันกรีฑา พร้อมทั้งใช้ลู่ยางสังเคราะห์เพื่อการแข่งขันกรีฑาประเภทลู่เป็นครั้งแรก

     เอเชี่ยนเกมส์ครั้งที่ 7 ที่ กรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน ไทยส่งนักกีฬาชาย 84 คน หญิง 12 คนเข้าร่วม โดยมี พลเอกเต็ม หอมเศรษฐี เป็นหัวหน้าคณะนักกีฬา ซึ่งผลงานของนักกีฬาไทยได้มา 4 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน 8 เหรียญทองแดง ดังนี้

4 เหรียญทอง ได้มาจาก

     กรีฑา 3 เหรียญทอง โดย อาณัติ รัตนพล ในประเภทวิ่ง 100 เมตร สถิติ 10.42 วินาที ประเภทวิ่ง  200 เมตร สถิติ 21.09 วินาที (เป็นสถิติใหม่ของเอเชี่ยนเกมส์) และ 4 คูณ 100 เมตร ประกอบด้วย อาณัติ รัตนพล, กนกศักดิ์ เจตะสานนท์, สุชาติ แจสุรภาพ, สมศักดิ์ บุญทัต สถิติ 40.14 วินาที (เป็นสถิติใหม่ของเอเชี่ยนเกมส์)

     ยิงปืน 1 เหรียญทอง ประเภทปืนสั้นอัดลมทีมชาย ประกอบด้วย วิชิต เชี่ยวเวช, พรหมา สาณะเสน รังสิต ญาโนทัย บริบูรณ์ วุฒิภักดี

2 เหรียญเงิน ได้มาจาก

     ยิงปืน 1 เหรียญ ประเภททีมปืนสั้นชนวนกลาง ประกอบด้วย วิรัช วิเศษศิริ, วิชิต เชี่ยวเวช, รัตนะ กระจ่างพจน์, บริบูรณ์ วุฒิภักดี

     ยิงเป้าบิน 1 เหรียญ ประเภทแทร็ปทีมชาย ประกอบด้วย ปวิตร คชเสนี, วุฒา ภิรมย์ภักดี, น.พ.ทิพย์ มงคลรักษ์, ไพโรจน์ รอดเจริญ

8 เหรียญทองแดง ได้มาจาก

     กรีฑา 1 เหรียญ จาก สุชาติ แจสุรภาพ วิ่ง 100 เมตร สถิติ 10.59 วินาที

     มวยสากล 1 เหรียญ จาก รุ่นเฟเธอร์เวท โดย อรินทร์ สืบเสนาะ

     ยิงปืน  6 เหรียญ  จาก สุพร อ่อนฉิม ประเภทปืนยาวมาตรฐานบุคคล, สุธรรม อัศวานิชย์ ประเภทปืนสั้นยิงช้าบุคคล, ไพศาล จามรมาน ประเภทปืนยาวอัดลมบุคคล วิชิต เชี่ยวเวช จากปืนสั้นอัดลมบุคคล  และ จากทีมปืนสั้นยิงช้าประกอบด้วย สุธรรม อัศวานิชย์ สมศักดิ์ ไชยรัตน์ รัตนะ กระจ่างพจน์ วีระ อุปพงศ์, ทีมปืนยาวมาตรฐาน ประกอบด้วย ไพศาล จามรมาน ชวลิต กมุทชาติ สมพร อ่อนฉิม เผด็จ เวชสวรรค์

     ส่วนผลการแข่งขันอื่น ๆ ของไทย และรายชื่อนักกีฬาไทยที่เข้าร่วม  มีดังนี้

     ฟุตบอล : สราวุธ ประทีปากรชัย โรจนะ สมุนไพรสุชิน กสิวัฒน์ ชุมพล รุ่งเรือง พิทักษ์ ศิลป์ประสิทธิ์ ปฏิสนธ์ พึ่งพุทธรัตน์ พัลลภ มะกล่ำทอง ไพรฤทธิ์ ผังดี สุรศักดิ์ ตัณฑดิลก มนัส วิทรมะ ทรงไทย สหวัชรินทร์ เจษฎาภรณ์ ณ พัทลุง นิวัฒน์ ศรีสวัสดิ์ อำนาจ เฉลิมชวลิต ไพศาล มีอัมพันธ์ ศุภฤกษ์ ชีวะบุตร ดนัย มงคลศิริ จุฑา ติงศภัทิย์

     ทีมฟุตบอลไทย ลงแข่งรอบแรกอยู่กลุ่ม A มี 3 ทีม ร่วมกับคูเวต และ เกาหลีใต้ ปรากฏว่าทีมไทยแพ้คูเวต 2-3 โดยไทยได้ประตูจาก นิวัฒน์ ศริสวัสดิ์ (จุดโทษ) กับ อำนาจ เฉลิมชวลิต และ นัดที่สอง แพ้เกาหลีใต้ 0-1 ต้องตกรอบแรกไป

     มวยสากล : ปฐม ลิขสิทธิ์ ไมตรี เนตรมณี ดร นามวิชิต อรินทร์ สืบเนาะ รุ่น ปานแก้ว เกษม ประไพศรี สถิตย์ จินดามณี ประไพ ใจเชื้อ

     ปฐม ลิขสิทธิ์ ขึ้นชกในรุ่น ไลท์ฟลายเวท รอบแรก ชนะอาร์เอสซี ทาฮา ดาอุด จากอิรัก แต่เข้ารอบสองไปแพ้คะแนน โนโบรุ อูชิยามา จากญี่ปุ่น

     ไมตรี เนตรมณี ขึ้นชกในรุ่นฟลายเวท รอบแรก ชนะอาร์เอสซี อาร์หมิด โบโกเซียน จากอิหร่าน แต่รอบสองแพ้คะแนนต่อ ฮวาง ชุล ซุน จากเกาหลีใต้

     ดร นามวิชิต ขึ้นชกในรุ่นแบนตัมเวท รอบแรกชนะคะแนน เฟอรี่ โมเนียก้า จากอินโดนีเซีย แต่รอบสองโดนจับแพ้ฟาล์ว ในการชกกับ บูยังลิน กันบัต จากมองโกเลีย

     อรินทร์ สืบสมาน ขึ้นชกในรุ่นเฟเธอร์เวท  ในรอบแรก  ชนะคะแนน ซีรีล จีริส จากสิงคโปร์ ชกรอบสอง ชนะคะแนน กัลซานดอร์จิน บัตบีเลก จากมองโกเลีย  แต่ในรอบรองชนะเลิศมีปัญหา นักชกไทยขอถอนตัวไม่ยอมขึ้นชกกับนักชกอิหร่านเจ้าภาพ จับบาร์ เฟลี เพราะต้องการประท้วงการจัดการของเจ้าภาพอิหร่านซึ่งทีมไทยมองว่าไม่เป็นธรรม จึงทำให้ได้เพียงเหรียญทองแดง

     รุ่ง ปานแก้ว ขึ้นชกในรุ่นไลท์เวท ขึ้นชกในรอบแรก (รอบ 8 คน) แพ้คะแนนให้กับนักชกอิหร่าน ฮอสซีน มาดาร์ดูสต์

     เกษม ประไพศรี ขึ้นชกในรุ่นไลท์เวลเตอร์เวท ได้ผ่านรอบแรก และขึ้นชกรอบสอง แพ้คะแนน ซาโตชิ ฟูกูดะ จากญี่ปุ่น

     สถิตย์ จินดาศรี ขึ้นชกในรุ่นเวลเตอร์เวท ได้ผ่านในรอบแรก แต่ในรอบที่สอง แพ้คะแนน อาห์หมัด พูเรฟเตการี จากอิหร่าน

     ประไพ ใจเชื้อ ขึ้นชกในรุ่นไลท์มิดเดิลเวท ได้ผ่านในรอบแรก และขึ้นชกรอบสอง แพ้คะแนน นิโคลัส อากีลิโน จากฟิลิปปินส์

     แบดมินตัน : บัณฑิต ใจเย็น สงบ รัตตนุสรณ์ พิชัย คงศิริถาวร พรชัย ศกุนตนิยม ปรีชา โสภจารีย์ ทองคำ กิ่งมณี ปัทมา ศิริศรีโร

     สงบ รัตตนุสรณ์ ลงแข่งประเภทชายเดี่ยว แพ้ นูนุง มูร์ดเจียนโต จากอินโดนีเซีย 0-2

     บัณฑิต ใจเย็น ได้ลงเล่นในรอบที่สองประเภทชายเดี่ยว ชนะ กิสชอร์ ซิงห์ จากเนปาล 2-0 เข้ารอบก่อนรองชนะเลิศ แพ้ หู เจียฉาง จากจีน 0-2

     สงบ รัตตนุสรณ์ จับคู่กับ บัณฑิต ใจเย็น ลงแข่งประเภทชายคู่ รอบแรก ชนะคู่ของปากีสถาน อับดุล ฮาหมิด กับ ทาริก วาดูด 2-0 ในรอบสอง ชนะคู่ของเนปาล กิสชอร์ ซิงห์ กับ เพิม พานดีย์ 2-0 เข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศ แพ้คู่ของจีน ถัง เซียนหู กับ เฉิน เตียนเซียง 0-2

     ประเภททีมชาย ทีมไทยประกอบด้วย สงบ รัตตนุสรณ์ บัณฑิต ใจเย็น พรชัย ศกุนตนิยม ปรีชา โสภาจารีย์ พิชัย คงศิริถาวร รอบแรก แพ้ญี่ปุ่น 2-3

     ปัทมา ศิริศรีโร ลงแข่งประเภทหญิงเดี่ยว รอบแรก แพ้ศรี วิยันตี จากอินโดนีเซีย 0-2

     ทองคำ กิ่งมณี ลงแข่งประเภทหญิงเดี่ยว รอบแรก แพ้ เหลียง กิวเซีย จากจีน 0-2

     ปัทมา ศิริศรีโร กับ ทองคำ กิ่งมณี จับคู่แข่งประเภทหญิงคู่ รอบแรก ชนะคู่ของเกาหลีเหนือ บั๊ก ยอน อุ๊ก กับ บั๊ก จุง ซุก 2-0 เข้ารอบก่อนรองชนะเลิศไปแพ้ คู่จากจีน เหลียง กิวเซีย กับ เฉิง ฮุยหมิง 0-2

     พรชัย ศกุนตนิยม กับ ทองคำ กิ่งมณี จับคู่ลงแข่งประเภทคู่ผสม  รอบแรกชนะคู่ของอิหร่าน เอ็ม ไซด้า กับ พัวโบตากี้ 2-0 รอบสอง ยู เฮา ตุง กับ ลุย เซียว เซ็ง จากจีน 2-0 ได้เข้าชิงเหรียญทองแดง แต่ปรากฏว่าแพ้คู่ของจีน ถัง เซียนหู กับ เฉิน ยูเหนียง 2-0

     พิชัย คงศิริถาวร จับคู่กับ ปัทมา ศิริศรีโร ลงแข่งประเภทคู่ผสม รอบสอง แพ้ ถัง เซียนหู กับ เฉิน ยูเหนียง จากจีน 0-2

     ว่ายน้ำ : รัชนีวรรณ บูลกุล และ ศันสนีย์ จังคศิริ

     ศันสนีย์ จังคศิริ ลงแข่งฟรีสไตล์ 100 เมตรหญิงรอบคัดเลือก เข้าอันดับที่ 9 สถิติ 1.09.00 นาที และ ลงแข่งประเภทฟรีสไตล์ 200 เมตรหญิง รอบคัดเลือก เข้าที่ 8 สถิติ 2.25.34 นาที ได้ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ ได้อันดับที่ 8 สถิติ 2.26.73 นาที ลงแข่งฟรีสไตล์ 400 เมตรหญิง รอบคัดเลือก เข้าที่ 7 สถิติ 5.08.95 นาที ได้ผ่านเข้ารอบชิง เข้าที่ 8 สถิติ 5.06.96 นาที ลงแข่งประเภท ผีเสื้อ 100 เมตรหญิง รอบคัดเลือก เข้าที่ 5 สถิติ 1.13.30 นาที เข้าสู่รอบชิง เข้าอันดับที่ 6 สถิติ 1.12.94 นาที ลงแข่งประเภทผลัดผสม 200 เมตรหญิง รอบคัดเลือก เข้าอันดับที่ 8 สถิติ 2.49.78 นาที

     รัชนีวรรณ บูลกุล ลงแข่งประเภทฟรีสไตล์ 200 เมตรหญิง รอบคัดเลือก ได้อันดับที่ 4 สถิติ 2.22.58 นาที เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ปรากฏว่าได้อันดับที่ 4 สถิติ 2.22.03 นาที ลงแข่งประเภทฟรีสไตล์ 400 เมตรหญิง รอบคัดเลือก เข้าที่ 4 สถิติ 5.01.96 นาที ได้เข้ารอบชิง และเข้าอันดับที่ 5 สถิติ 5.02.58 นาที ลงแข่งประเภท ฟรีสไตล์ 100 เมตรหญิง รอบคัดเลือกได้อันดับที่ 8 สถิติ 1.17.28 นาที ได้เข้ารอบชิงชนะเลิศ เข้าที่ 8 สถิติ 1.20.22 นาที

     จักรยาน : อนันตชัย สุทธิศิลป์ ปัญญา ดินม่วง ปราจิณ รุ่งโรจน์ เชิดชู สุขโต ชาติชาย จันทรัตน์ อารีย์ นาคสุข อาลี แวอารง สุชีพ ลิขิตลักษณ์ มงคล สุภาวรรณ์ ศักดิ์ชัย แซ่ยับ

     ยิงปืน : เผด็จ เวชสวรรค์ ไพศาล จามรมาน ชวลิต กมุทชาติ จีระ ประพันธ์โยธิน อุดมศักดิ์ เทียนทอง สมพร อ่อนฉิม ธรรมนูญ สืบสมาน วิมลนิตย์ พวงพิกุล (นักกีฬาหญิงคนเดียว) สุธรรม อัศวาณิชย์ สมัคค์ ชัยนเรศ วีระ อุปพงศ์ วิชิต เชี่ยวเวช โสฬส ณ ลำพูน ชัยรัตน์ รัตนสุภากร สมบูรณ์ เลิศวิไล รังสิต ญาโนทัย วิรัช วิเศษศิริ บริบูรณ์ วุฒิภักดี รัตนะ กระจ่างพจน์ พรหมา สาณะเสน

     เป้าบิน : ปกรณ์ ทวีสิน สืบ ไชยนุวัตร สมชาย ฉันทวานิช ธงชัย กาญจนพันธ์ ไพโรจน์ รอดเจริญ ทิพย์ มงคลรักษ์ ปวิตร คชเสนีย์ วุฒา ภิรมย์ภักดี

     กรีฑา : อาณัติ รัตนพล สมศักดิ์ บุญทัต กนกศักดิ์ เจตะสานนท์ สุชาติ แจสุรภาพ  เทียนชัย แก้วกำเนิด ประพันธ์ ศรีสาธร

     ฟันดาบ : ทวีวัฒน์ หุราพันธ์ เสน่ห์ เชาว์สุรินทร์ เริงยศ ศรีวรพงษ์พันธ์ สุทธิพงษ์ สันติเทวกุล

     โดยการแข่งขันประเภทฟอยด์บุคคล คัดเลือกเอาอันดับ 1-4 เข้ารอบสอง ปรากฏว่านักกีฬาไทย  เริงยศ ศรีวรพงษ์พันธ์ ลงแข่ง 6 ครั้งไม่ชนะคู่แข่งชาติใด ขณะที่ สุทธิพงษ์ สันติเทวกุล ซึ่งอยู่อีกสาย ลงแข่ง 6 ครั้ง ชนะ 1 ครั้ง ขณะที่ประเภทฟอยด์ทีม ทีมไทยตกรอบ 2 จากที่แพ้จีน 4-12

     ทีมดาบเอเป้ไทย ลงแข่งในรอบคัดเลือก แพ้จีน 6-8 ชนะฮ่องกง 12-4 ชนะอิหร่าน 8-7 และ แพ้ญี่ปุ่น เมื่อรวมคะแนนแล้ว ทีมไทยได้อันดับที่ 4 ของการแข่งขัน

     เทเบิลเทนนิส : มีนักกีฬาประกอบด้วย ชูชัย เพลินพฤกษา สุมาลี ชูสัตยานนท์ ลาวัลย์ วงษ์พันธ์สวัสดิ์ มัลลิกา เมธาชัยกิจ

     ประเภททีมหญิง รอบแรก ทีมไทยแพ้ จีน 0-3 และได้เข้าชิงอันดับที่ 5 ปรากฏว่าชนะฮ่องกง 3-2

     ชูชัย เพลินพฤกษา ลงแข่งประเภทชายเดี่ยว รอบแรก แพ้ กัง มุน ซู จากเกาหลีใต้ 0-3

     ลาวัลย์ วงษ์พันธ์สวัสดิ์ ลงแข่งประเภทหญิงเดี่ยว รอบแรก ชนะ บาบา ออสเตียน จากอิหร่าน 3-1  แต่ในรอบสอง แพ้ เบค ยอง ซุน จากเกาหลีเหนือ 1-3

     สุมาลี ชูสัตยานนท์ ลงแข่งประเภทหญิงเดี่ยว รอบแรก ชนะ ลามา พูนัม จากเนปาล 3-0 และในรอบสอง แพ้ ยูกิ โอเซกิ จากญี่ปุ่น 0-3

     เทนนิส : สมภาร จำปีศรี พิเชฐ์ บรทิศา ชนะ เตชะเสน สมชาย พงษ์โสภิตศิลป์ สุธาสินี ศิริกายะ สีดา ชมิทต์ รัชนีวรรณ หอมสุคนธ์ ชลาธิป ปิณฑานนท์

     โดยเทนนิส ประเภททีมหญิง รอบแรก ไทยแพ้ ญี่ปุ่น 0-3 แพ้อิหร่าน 0-3 แพ้จีน 0-3 ชนะฟิลิปปินส์ 2-1 แพ้เกาหลีใต้ 0-3 แพ้อินโดนีเซีย 0-3 ขณะที่ทีมชายไทย แพ้จีน 0-3 ชนะอินเดีย 2-1 ชนะ คูเวต 3-0 แพ้อิหร่าน 0-3

     สมภาร จำปีศรี ลงแข่งประเภทชายเดี่ยว รอบแรกแพ้ เฉิง ไว ลู จากจีน 0-2

     สมภาร จำปีศรี กับ สุธาสินี ศิริกายะ ลงแข่งประเภทคู่ผสม รอบแรกแพ้ คู่ของจีนแดง 0-2

     สุธาสินี ศิริกายะ ลงแข่งประเภทหญิงเดี่ยว แพ้ กาลีกิส จากอินโดยนีเซีย 0-2

     สมภาร จำปีศรี กับ พิเชฐ์ บรทิศา ลงแข่งประเภทชายคู่ ชนะคู่จาก สปป.ลาว 2-0 และเข้ารอบไปแพ้นัดเทนนิสคู่ของญี่ปุ่น 1-2

     รัชนีวรรณ หอมสุคนธ์ กับ ชลาธิป ปิณฑานนท์ ลงแข่งประเภทหญิงคู่รอบแรก แพ้นักกีฬาจีน 0-2

     สุธาสินี ศิริกายะ จับคู่กับ สีดา ชมิทต์ ลงแข่งประเภทหญิงคู่ ได้ผ่านรอบแรก  แต่แพ้ในรอบสอง

     ยกน้ำหนัก : ปรีชา เชี่ยวชาญ ซึ่งลงทำการแข่งขันในรุ่นฟลายเวท ปรากฏว่า ยกท่าสแนทช์ได้ 85 กก. และ ท่าคลีนแอนด์เจิร์ค ได้ 115 กก. น้ำหนักรวม 200 กก.