นางเพียงใจ ช่วยพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทย จังหวัดพัทลุง ในฐานะกรรมการและเลขานุการสำนักเลขาธิการจัดการแข่งขันฯ เปิดเผยว่า จากการที่จังหวัดพัทลุงได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้ง 37 “พัทลุงเกมส์” ระหว่างวันที่ 29 กรกฎาคม – 10 สิงหาคม 2565 และ การแข่งขันกีฬาอาวุโสแห่งชาติ ครั้งที่ 4 “ เสกักเกมส์” 2565 ระหว่างวันที่ 21 – 27 สิงหาคม 2565 ขณะนี้การเตรียมการในทุกภาคส่วนของจังหวัด ภายใต้การนำของ นายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง มีความคืบหน้าและพร้อมต้อนรับทัพนักกีฬาจากทั่วประเทศเข้าร่วมการแข่งขัน และแสดงศักยภาพ ทั้ง “พัทลุงเกมส์” และ “เสกักเกมส์” แล้ว
ล่าสุด ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการ ฝ่ายสำนักงานเลขาธิการจัดการแข่งขันทั้งสองมหกรรม โดยมี ดร.นาที รัชกิจประการ ประธานคณะที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (นายอนุทิน ชาญวีรกุล) นายพรรณภพ อุ่นเสียม ผู้อำนวยการสำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทย ภาค 4 ตลอดจนคณะกรรมการแต่ละฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามความคืบหน้าในการเตรียมการ พร้อมกันนั้นเพื่อให้การจัดการแข่งขันเป็นไปตามมาตรฐานของมหกรรมกีฬาระดับชาติ
นายประชุม บุญทียม รองผู้ว่าการฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา การกีฬาแห่งประเทศไทย พร้อมคณะผู้บริหาร ประกอบด้วย นายปรีชา ลาลุน ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนากีฬาเป็นเลิศ และทีมงาน ได้เข้าร่วมประชุมกับผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ตลอดจนคณะกรรมการจัดการแข่งขัน เพื่อติดตามและสำรวจความพร้อมในมิติที่เกี่ยวข้อง ทุกอย่างเป็นที่น่าพอใจ
นางเพียงใจ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของการจัดการแข่งขันพัทลุงเกมส์ หรือ กีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 37 นั้น เจ้าภาพได้มีการบรรจุกีฬารวมทั้งสิ้น 45 ชนิดกีฬา และกีฬาสาธิต 8 ชนิดกีฬา โดยกระจายจัดการแข่งขันทั้งในจังหวัดพัทลุงและจังหวัดอื่นที่มีสนามรองรับ ซึ่งในพื้นที่จังหวัดพัทลุงจะมีการกระจายไปใน 7 อำเภอ ขณะที่ “กีฬาฮอกกี้” จะนำไปจัดที่ จังหวัดปทุมธานี “กีฬายิงปืน” และ “กีฬาจักรยานประเภทลู่” จัดที่ สนามภายในการกีฬาแห่งระเทศไทย หัวหมาก กรุงเทพมหานคร “กีฬาฟิกเกอร์ และสปีดเก็ตติ้ง” จัดที่ จังหวัดสมุทรปราการ และ “กีฬาทางอากาศ” “กีฬากอล์ฟ” จัดที่ จังหวัดสงขลา
ในขณะที่ การสื่อสารและการประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างการรับรู้ของประชาชนทั่วไปนั้น ขณะนี้ สำนักงานเลขาธิการจัดการแข่งขันได้ดำเนินการจัดทำสื่อเผยแพร่ในหลากหลายรูปแบบ ทุกภาคส่วนของจังหวัดทั้งภาครัฐและเอกชน รวมทั้งภาคประชาชนต่างตื่นตัวและพร้อมที่จะมีส่วนร่วมในการจัดการแข่งขันภายใต้แนวคิด “สามัคคี มีน้ำใจ สายใยแห่งมิตรภาพ” ออกมาให้ดีที่สุด และพร้อมที่จะต้อนรับและสร้างความประทับใจให้กับคณะนักกีฬา นักท่องเที่ยวทั่วประเทศ ต้องจดจำและบันทึกถึงความสำเร็จตลอดไป