เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2565 นายเขมพล อุ้ยตยะกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานแถลงข่าวการจัดงานยกย่องเชิดชูเกียรติบุคคลในวงการกีฬามวย ประจำปีงบประมาณ 2565 โดยมี ดร.สุปราณี คุปตาสา ผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ, นายพลัฏฐ์ สุวรรณาเมธากร ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย, ผู้บริหาร กกท. และบุคคลในวงการมวย ร่วมงาน ณ บริเวณห้องโถงชั้น 1 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา กกท.
เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า “มวยไทย” ถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของประเทศไทย ซึ่งการผลักดันกีฬามวยไทยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เป็นเรื่องท้าทายของไทย ในฐานะประเทศต้นแบบ ซึ่งรัฐบาลโดย พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนกีฬามวยไทยไปสู่โอลิมปิก ได้ให้แนวทางสำคัญในการส่งเสริมสินค้าและบริการทางวัฒนธรรมที่เป็น “ซอฟท์เพาเวอร์” ของไทย โดยมอบหมายให้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมกับ ภาครัฐและเอกชน พัฒนามวยไทยให้มีมาตรฐานสากล และเป็นที่ยอมรับในการจัดการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ เพื่อเป็นการสร้างมูลค่าและความยั่งยืนทางเศรษฐกิจให้แก่ประเทศไทยในอนาคต
“การพัฒนาและความสำเร็จของวงการกีฬามวยไทยในแต่ละมิติจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากปราศจากบุคลากรผู้ทรงเกียรติในการนำพา “มวยไทย” ไปสู่เป้าหมายดังกล่าว และเพื่อเป็นการยกย่องเชิดชูเกียรติบุคลากรผู้อยู่เบื้องหน้าและเบื้องหลังของวงการกีฬามวยไทย ตลอดจนกีฬามวยสากลของประเทศไทย การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ในฐานะหน่วยงานที่ให้การส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาการกีฬาของชาติ เพื่อให้ประเทศไทยเป็นประเทศชั้นนำด้านกีฬาในระดับนานาชาติ ทั้งกีฬาเพื่อมุ่งสู่ความเป็นเลิศ และกีฬาเพื่อมุ่งสู่การสร้างอาชีพ จึงได้จัดให้มีการมอบรางวัลยกย่องเชิดชูเกียรติบุคคลในวงการกีฬามวย ครั้งที่ 10 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 ขึ้นในวันอังคารที่ 27 กันยายน 2565 ณ อินดอร์สเตเดี้ยม หัวหมาก เพื่อเป็นการให้กำลังใจทุกภาคส่วนในการร่วมผลักดันกีฬามวยให้เติบโตต่อไป ให้สมกับการเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของประเทศ และเพื่อเป้าหมายสำคัญคือ การบรรจุกีฬา “มวยไทย” เข้าสู่กีฬาโอลิมปิกเกมส์ โดยจะมอบรางวัลให้แก่บุคลากรในช่วงปี พ.ศ.2563 และปี พ.ศ. 2564 รวมทั้งสิ้น 67 รางวัล”