“พล.อ.วิชญ์” เปิดประชุมซักซ้อมความเข้าใจ การเบิกจ่ายเงินกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ

แชร์บทความ

Share on facebook
Share on twitter

พลเอกวิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมสัมมนาเพื่อซักซ้อมความเข้าใจในกระบวนการ ขั้นตอน และแนวทางปฏิบัติ เกี่ยวกับการเบิกจ่ายเงินกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ให้กับสมาคมกีฬาที่ใช้คำว่า “แห่งประเทศไทย” และสมาคมกีฬาแห่งจังหวัด โดยมี นายประชุม บุญเทียม รองผู้ว่าการ กกท. ฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา , ดร.สุปราณี คุปตาสา ผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ , คณะผู้บริหาร กกท. และเจ้าหน้าที่สมาคมกีฬาฯ เข้าร่วมการประชุม ณ โรงแรมเดอะแกรนด์โฟร์วิงส์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 29 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา

พล.อ.วิชญ์ กล่าวว่า สำหรับวัตถุประสงค์ของการจัดงานสัมมนาครั้งนี้ ทางการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) และกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ได้ร่วมกันเพื่อจะแก้ไขปัญหาต่างๆ ของสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทยและสมาคมกีฬาจังหวัด ในการเบิกจ่ายเงินต่างๆ ให้มาทำความเข้าใจกันว่าวิธีการเป็นอย่างไร มีระเบียบข้อบังคับอย่างไร บางครั้ง สมาคมฯ ยังไม่เข้าใจกัน ก็จะเปิดโอกาสให้ทุกสมาคมฯ ได้มีความรู้ ความเข้าใจ เพื่อจะได้ทำการเบิกจ่ายได้คล่องตัวขึ้น สิ่งใดที่เป็นปัญหาก็มาเคลียร์กัน

พ่อบ้านโอลิมปิคไทย กล่าวต่อว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ ได้กำชับมาว่าปัญหาเรื่องของการเบิกจ่ายต่างๆ จะต้องแก้ไขให้จบสิ้นภายใน 6 เดือนนี้ ถ้าหากทำไม่ได้ทั้ง กกท. และกองทุนฯ จะต้องรับผิดชอบร่วมกัน และยืนยันกับทางสมาคมฯ ว่าเงินที่ค้างท่ออยู่ เบิกจ่ายไม่ได้ ตั้งแต่ปี 2564-2565 จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จให้ได้

“สำหรับงบปี 2566 ได้มีการวางกรอบเอาไว้เรียบร้อยแล้ว จะเป็นไปตามขั้นตอน ทั้ง กกท., กองทุนฯ และสมาคมกีฬา จะต้องร่วมกันดำเนินการให้แล้วเสร็จตามกรอบเวลา กรอบเงินที่วางเอาไว้ เชื่อว่าในปีหน้าจะไม่มีปัญหาแน่นอน ซึ่งถ้าหากมีปัญหากันอีกทั้ง กกท. และกองทุนฯ ต้องรับผิดชอบ” พล.อ.วิชญ์ กล่าวย้ำ

และ นายประชุม บุญเทียม รองผู้ว่าการฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา กกท. กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากต้นทางที่ไม่ถูกต้อง ดังนั้นทางกองทุนฯ และ กกท. จึงได้ทำคู่มือ และจัดประชุมสัมมนา เพื่อจะได้ไม่เกิดปัญหาขึ้นอีก และเงินก็จะได้ออกตามเป้าหมายที่ต้องการ การประชุมสัมมนาครั้งนี้เพื่อให้ได้ฝึกกันและเข้าใจในขั้นตอนของการเบิกจ่ายอย่างถ่องแท้

นายประชุม กล่าวต่อว่า ปัญหาที่ผ่านมาอาจจะเพราะบางสมาคมฯ ปรับเจ้าหน้าที่ ปรับคนทำงาน คนที่รู้เรื่องไม่ถ่ายทอดงานต่อ ไม่ศึกษาข้อมูลกันทั้งๆ ที่ กกท. กับ กองทุนฯ เอง ก็พยายามเติมเต็มให้แล้ว แต่มันก็มีสมาคมฯ ที่ทำได้ดีอย่าง เช่น วอลเลย์บอล หรือ กรีฑา ที่หลักฐานค่าใช้จ่ายเป๊ะมากๆ มีเพียงบางสมาคมฯ เท่านั้นที่อยากได้เงินแต่เอกสารไม่มี ซึ่งมันก็ไม่ถูกต้องอยู่แล้ว “หลังจากนี้จะมีการสัมมนาตลอด 3 เดือน แล้วก็จะนำมาสรุปผลอีกครั้งเพื่อนำรายงานต่อบอร์ดกองทุนกีฬา เพื่อให้ปัญหาเหล่านี้ไม่เกิดขึ้นซ้ำอีก” รองผู้ว่าฯ กล่าว

ทางด้าน ดร.สุปราณี คุปตาสา ผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ กล่าวว่า ทางกองทุนฯ นั้น ได้รับมอบหมายให้ช่วยในเรื่องของการเคลียร์เงินค้างท่อ ซึ่งจากการที่มีคนบอกว่าเงินค้างท่อเกิดจากระบบเอกสารต่างๆ ที่ทำให้มีปัญหา แต่จริงๆ แล้ว การแก้ปัญหาเงินค้างท่อที่ได้ประสิทธิผลที่ดีที่สุดนั้น เกิดจากการใช้ระบบใหม่ด้วยซ้ำ แต่สิ่งที่กองทุนฯ และ กกท. จะต้องร่วมกันคือการชี้แจงให้กับสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย, สมาคมกีฬาจังหวัด รวมถึง กกท. ได้ทำความเข้าใจกัน จบจากการสัมนาครั้งนี้ จะมีการออนทัวร์ให้กับสมาคมกีฬาจังหวัด และ กกท.จังหวัด ได้มีความรู้ความเข้าใจด้วย

ดร.สุปราณี กล่าวต่อว่า สิ่งที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะประธานกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ได้กำชับมาคือทางกองทุนฯ และ กกท. จะต้องรับผิดชอบทำให้การเบิกจ่ายคลายตัวลง แต่สิ่งที่อยากจะฝากไปถึงทุกสมาคมกีฬา คือ ตอนนี้ไม่จำเป็นต้องรอ การเบิกจ่ายไม่เกี่ยวกับระบบ มันเป็นเรื่องของการเตรียมเอกสารให้เรียบร้อยเพื่อเข้ามาเบิก

“ตามกรอบเวลา คือ 6 เดือน ก็มั่นใจว่าจะสามารถทำได้สำเร็จ แต่ต้องแยกออกเป็น 2 เรื่อง คือ กระบวนการในการเบิกจ่าย และความชัดเจนในการเบิกจ่าย ขณะเดียวกันถ้าหากสมาคมใดไม่ส่งเอกสารภายในกรอบ 6 เดือน ก็จะมีการนำเสนอให้กับคณะกรรมการบริหาร เพื่อพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไร โดยจะไม่มีการค้างเงินเป็นเวลานานอีกแล้ว” ผู้จัดการกองทุนกีฬา กล่าวปิดท้าย

RANDOM

NEWS

สสส. ร่วมกับ สคล. เชิญชวนโรงเรียนประถมศึกษาเข้าร่วมกิจกรรม “มารู้จักเจ้าชายภูมิพลกันเถอะ” ดาวน์โหลดรายละเอียดกิจกรรมได้ที่เว็บไซต์ ‘โรงเรียนคำพ่อสอน.com’ พร้อมรับเกียรติบัตรจากทางโครงการฯ สมัครเข้าร่วมกิจกรรมได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ประกวดเขียนเรียงความภาษาอังกฤษ หัวข้อ “ASEAN-IPR Cybersecurity Youth Essay Competition” ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกจะได้เข้าร่วมการประชุม ASEAN-IPR Regional Conference on Cybersecurity และมีโอกาสนำเสนอเรียงความในที่ประชุมดังกล่าว สมัครด่วน หมดเขต 22 พ.ย. นี้

You cannot copy content of this page

error: Content is protected !!