ตามที่ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ได้มอบหมายให้ นายประชุม บุญเทียม รองผู้ว่าการฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา เป็นประธานในการประชุมคณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาจังหวัดเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 พ.ศ. 2568 (ค.ศ.2025) และกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 พ.ศ. 2568 (ค.ศ.2025) เมื่อวันที่ 10 พ.ย.2565 เพื่อรับทราบการสรุปรายชื่อจังหวัดที่เสนอตัวการเป็นเจ้าภาพทั้ง 2 มหกรรมกีฬา ซึ่งมี 13 จังหวัด โดยจังหวัดสุดท้าย คือจังหวัดพังงา ได้เสนอตัวเข้ามาเพื่อขอร่วมกับกลุ่มจังหวัด กระบี่ ภูเก็ต ตรัง ที่เสนอตัวจะขอจัดแบบกลุ่ม 3 จังหวัดก่อนหน้านี้ และเพื่อพิจารณาหลักเกณฑ์การพิจารณาคัดเลือกเจ้าภาพพร้อมปฏิทินการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการด้วย
โดยมีผู้เข้าร่วมการประชุม ประกอบด้วย นายณัฐวุฒิ เรืองเวส ผู้แทนคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ, นายปรีชา ลาลุน ผอ.ฝ่ายพัฒนากีฬาเป็นเลิศ, นายก้องภพ โพธิสุวรรณ ผอ.ฝ่ายกีฬาภูมิภาค, ผู้แทนกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, ผู้แทนกระทรวงการคลัง, ผู้แทนสำนักงบประมาณ, ผู้แทนกระทรวงมหาดไทย, ผู้แทนคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย
นายประชุม เปิดเผยว่าในการประชุมครั้งนี้นั้น เป็นเรื่องกำหนดหลักเกณฑ์ ที่จะต้องนำไปพิจารณาคัดเลือก เช่น ความพร้อมด้านสนามการแข่งขัน-ฝึกซ้อม ด้านที่พัก ด้านบุคลากร-อาสาสมัคร ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านงบประมาณ ด้านสถานพยาบาล ด้านคมนาคม-ขนส่ง ด้านความปลอดภัย-จราจร ด้านการตลาดและสิทธิประโยชน์ ด้านสถานศึกษา ด้านสาธารณูปโภค ด้านการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน ด้านการประชาสัมพันธ์และระบบเผยแพร่ ด้านแหล่งท่องเที่ยวและการสร้างมูลค่าด้านอุตสาหกรรมกีฬา ด้านสิ่งแวดล้อม และความพร้อมด้านอื่น ๆ ที่จังหวัด หรือ กลุ่มจังหวัดเสนอเพิ่มเติมเป็นข้อเสนอพิเศษที่เราเปิดกว้างให้ทุกแห่ง โดยมีเกณฑ์การคะแนนที่ชัดเจนในทุก ๆ ด้าน โดยคณะทำงานได้กำหนดให้จังหวัดที่เสนอตัวให้มานำเสนอความพร้อมจังหวัดหรือกลุ่มจังหวัดละ 60 นาที แบ่งเป็นการนำเสนอ 40 นาที และถามตอบ 20 นาที ในระหว่างวันที่ 24-25 พ.ย.2565 และคณะอนุกรรมการไปสำรวจความพร้อมในแต่ละจังหวัดและกลุ่มจังหวัดตั้งแต่วันที่ 28 พ.ย. 2565 ก่อนที่จะนำข้อมูลมาพิจารณาในคณะอนุกรรมการก่อนที่จะเสนอคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทยเพื่อทราบ และนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี เป็นขั้นตอนสุดท้ายที่ไม่น่าจะเกินเดือน ม.ค.2566 ที่จะประกาศรายชื่อจังหวัดหรือกลุ่มจังหวัดที่จะเป็นเจ้าภาพทั้ง 2 มหกรรมนี้
อนึ่งสำหรับการเสนอตัวของจังหวัดต่าง ๆ นั้นมี 13 จังหวัดที่แสดงความจำนงเข้าสู่กระบวนการคัดเลือกจังหวัดเจ้าภาพทั้ง 2 รายการดังกล่าว โดยแยกเป็นเสนอเสนอ แบบจัดจังหวัดเดี่ยว ประกอบด้วย เชียงใหม่ กรุงเทพมหานคร นครราชสีมา และ สงขลา และจังหวัดที่รวมตัวเสนอตัวแบบกลุ่มจังหวัดนั้น ประกอบด้วยกลุ่มแรก 4 จังหวัด คือ กลุ่มจังหวัด อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ยโสธร ศรีสะเกษกลุ่มที่สองที่รวมกลุ่ม 3 จังหวัด คือ กลุ่มตรัง กระบี่ ภูเก็ต และกลุ่ม กรุงเทพมหานคร ชลบุรี และ สงขลา กลุ่มที่สาม มี 2 จังหวัด คือ กรุงเทพมหานคร ชลบุรี และล่าสุด พังงา ที่เสนอตัวเพื่อลุ้นเป็นเจ้าภาพร่วมในกลุ่มจังหวัดตรัง กระบี่ และ ภูเก็ตด้วย.