นายประชุม บุญเทียม รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา ได้เปิดเผยว่า ตามที่ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาจังหวัดเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 พ.ศ. 2568 (ค.ศ.2025) และกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 พ.ศ. 2568 (ค.ศ.2025) ได้มอบหมายให้ตนเองในฐานะรองประธานคณะอนุกรรมการชุดนี้ ได้ดำเนินการวางหลักเกณฑ์ ให้จังหวัดที่เสนอตัวนำเสนอข้อมูล และได้มีคณะทำงานพิจารณาข้อมูลโดยเอกสาร พร้อมทั้งการตั้งคณะทำงานเดินทางไปดูความพร้อมด้านต่าง ๆ ที่กำหนดในหลักเกณฑ์ เพื่อนำไปสู่การพิจารณาคัดเลือกจังหวัดที่เสนอตัวเข้ามาร่วมขอเป็นเจ้าภาพทั้งแบบจังหวัดเดียวและกลุ่มจังหวัดจากจำนวนทั้งหมด 14 จังหวัด
โดยล่าสุดเมื่อ 13 ม.ค.2566 ได้มีการประชุม ที่ตนเองเป็นประธานในการประชุมคณะอนุกรรมการชุดนี้ ซึ่งมีนายกองเอก ชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ ผู้แทนคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย พลตรีโอสถ ภาวิไล ผู้แทนคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย และอนุกรรมการซึ่งเป็นผู้แทนหน่วยงานต่างๆ ร่วมกันพิจารณาคัดเลือกจังหวัดที่เหมาะสมที่จะเป็นเจ้าภาพทั้ง 2 มหกรรมกีฬาดังกล่าว ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 4 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา กกท. ซึ่งได้ข้อสรุปว่าในที่ประชุมมีมติเห็นชอบเสนอให้กรุงเทพมหานคร จังหวัดชลบุรี และจังหวัดสงขลา เป็นกลุ่มจังหวัดเจ้าภาพหลักในการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 สำหรับเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 ที่ประชุมมีมติให้จังหวัดนครราชสีมาเป็นเจ้าภาพหลักในการจัดการแข่งขัน และมอบหมายให้ฝ่ายพัฒนากีฬาเป็นเลิศ เลขาคณะอนุกรรมการชุดนี้สรุปข้อมูลจากการพิจารณาด้านต่าง ๆ นำเสนอคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย หรือบอร์ด กกท. เพื่อทราบในเดือน ม.ค. 2566 และนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีต่อไป
นายประชุม เปิดเผยต่อว่า การพิจารณาเลือกนั้น เป็นการพิจารณาตามหลักเกณฑ์ที่ดูครบทุกด้านทั้งความเหมาะสมเช่นด้านสนามแข่ง การเดินทางของจังหวัดนั้นๆ ที่เสนอตัว พร้อมทั้งการคำนึงถึงความคุ้มค่า ประหยัด และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับพื้นที่ และอื่น ๆ รวม ๆ กัน จนได้ข้อยุติเป็นมติที่ชัดเจนของอนุกรรมการ ซึ่งขั้นตอนต่อไปจะต้องดูที่บอร์ด กกท.จะเห็นชอบหรือมีข้อแนะนำ ซึ่งอาจจะมีการพิจารณาแนะนำด้านอื่น ๆ ก่อนที่จะเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป.