ตามที่มีผู้ปกครองนักกีฬาฟินสวิมมิ่ง ได้มีการร้องเรียนกับการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) พร้อมทั้งได้ร้องเรียนไปยังสื่อมวลชน โดยระบุว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมในการพิจารณาคัดเลือกตัวนักกีฬาฟินสวิมมิ่ง เพื่อเตรียมส่งเข้าร่วมการแข่งขันซีเกมส์ครั้งที่ 32 ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ของสมาคมกีฬาดำน้ำแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นผู้ดูแลในการจัดเตรียมและส่งนักกีฬาฟินสวิมมิ่ง นั้น
นายประชุม บุญเทียม รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ฝ่ายกีฬาเป็นเลิศ และวิทยาศาสตร์การกีฬา เปิดเผยกับ Station-THAI ต่อเรื่องนี้ว่า หนังสือที่ร้องเรียนมาถึง กกท. เพื่อให้พิจารณาข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวนี้ ในวันที่ 7 มีนาคม 2566 ซึ่งในกระบวนการนั้น ก็ได้ตรวจสอบก่อนในเบื้องต้น ก่อนที่จะเข้าสู่การพิจารณา ที่ กกท. ไม่ได้นิ่งนอนใจต่อข้อร้องเรียนในทุกกรณีที่มีมาถึง ตามที่ผู้ว่าการ กกท. ดร.ก้องศักด ยอดมณี ได้ให้แนวทางไว้ และเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา วันที่ 16 มีนาคม 2566 ตนเองจึงได้ทำหนังสือถึงสมาคมกีฬาดำน้ำแห่งประเทศไทยไปหลังจากที่ได้รับหนังสือร้องเรียน เพื่อขอคำชี้แจง ในข้อกล่าวหาที่มีการร้องเรียนมาถึง แต่ตอนนี้คงต้องรอการเดินทางมาชี้แจงจากผู้แทนของสมาคมกีฬาดำน้ำแห่งประเทศไทย ที่เก็บตัวฝึกซ้อมที่ต่างจังหวัด เพื่อที่จะได้สรุปพร้อมทั้งแจ้งไปยังผู้ที่ร้องเรียนให้เกิดความกระจ่างต่อข้อสงสัยที่ได้ร้องมายัง กกท.
นายประชุมกล่าวต่ออีกว่า เรื่องการร้องเรียนในข้อสงสัยในการทำงานของสมาคมกีฬาฯที่อยู่ภายใต้การดูแลของ กกท.นั้นสามารถทำได้ และ สิ่งที่ กกท.จะดำเนินการคือต้องหาคำตอบที่ชัดเจนให้กับผู้ร้องเรียน โดยในขั้นต้นนี้เชื่อว่าสมาคมกีฬาดำน้ำคงต้องมีเหตุผลเพราะทำงานในระดับนี้จะมีข้อกังขาใด ๆ ไม่ได้ในการคัดเลือกนักกีฬา เนื่องจากทุกอย่างต้องมีกฎเกณฑ์หรือข้อตกลงของกลุ่มอยู่ แต่จะเป็นเหตุผลแบบไหน จะสามารถตอบคำถามผู้ร้องเรียนมาได้กระจ่างหรือไม่ก็ต้องรอการชี้แจงมาก่อน ซึ่งเชื่อว่าอีกไม่นานนี้ทุกอย่างจะมีคำตอบที่เราจะพิจารณาคำชี้แจงนั้นว่าใช่หรือเหมาะสมหรือไม่ในการดำเนินการของสมาคมฯนี้ก่อน ก่อนที่จะตอบไปยังผู้ร้องเรียน.