จากกรณีที่คณะกรรมการโอลิมปิกสากล หรือ ไอโอซี ใช้อำนาจในการเป็นเจ้าของสิทธิ์โอลิมปิกเกมส์ มีคำสั่งให้คณะทำงานของไอโอซีดำเนินการในกระบวนการคัดเลือกนักกีฬา และจัดการแข่งขันมวยสากลสมัครเล่นในการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์หนนี้ แทนสหพันธ์มวยสากลนานาชาติ หรือ ไอบ้า เนื่องจากกรณีการขัดแย้งในการดำเนินการต่าง ๆ ของ ไอบ้า ที่ยังไม่ได้ดำเนินการโดยเฉพาะการบริหารในองค์กรให้เป็นไปตามที่ ไอโอซีแนะนำนั้น
ซึ่งกรณีดังกล่าว นับเป็นโอลิมปิกเกมส์ครั้งที่ 2 ที่ไอโอซีใช้อำนาจเพื่อดึงการจัดการในโอลิมปิกเกมส์กลับมาดูแลเอง หลังจากครั้งแรกนั้นในโอลิมปิกเกมส์ 2020 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ไอโอซี ก็ได้จัดการเองมาแล้ว ตามที่ Station THAI ได้รายงานข่าวอย่างต่อเนื่องมาแล้ว
แต่โดยการดำเนินการในการจัดการของ ไอโอซี ในงานโอลิมปิกเกมส์ 2020 นั้น จะเชิญผู้ตัดสิน ผู้ชี้ขาด จาก ไอบ้า ให้เสนอตัวและไอโอซี จะพิจารณาคัดเลือกจากที่เสนอตัว เพื่อให้มีส่วนร่วมในการทำหน้าที่ในการแข่งเพื่อคัดเลือก และแข่งขันในโอลิมปิกเกมส์ 2020 และ ในการจัดการ โอลิมปิกเกมส์ 2024 หนนี้ทาง ไอโอซี ก็ได้ขอให้ทางผู้ตัดสินและผู้ชี้ขาดของ ไอบ้า ให้เสนอตัวเช่นเดิม แต่ปรากฏว่า เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2566 ทาง ไอบ้า ได้แจ้งหนังสือต่อผู้ตัดสิน ผู้ชี้ขาดของไอบ้า โดยระบุว่า หากผู้ตัดสินหรือผู้ชี้ขาดของไอบ้าไปร่วมงานกับ ไอโอซี จะเป็นการผิดกฎ เนื่องจากไอบ้าไม่ใช่เป็นผู้ดำเนินการ โดยหนังสือนั้นระบุถึงความผิดหากว่าคนของไอบ้าไปร่วมดำเนินการกับ ไอโอซี
ซึ่งหลังจากหนังสือห้ามนั้นออกมา ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ในหมู่ผู้ตัดสิน และผู้ชี้ขาดของไอบ้า ที่ระบุถึงเหตุผลการห้ามนั้นไม่ควรที่จะเกิดขึ้นในวงการกีฬา ที่ทั้งไอโอซี และไอบ้า ต่างก็ร่วมกันทำงานกันมาโดยตลอด ที่การทำลักษณะนี้จะเป็นการ “แยกทาง” กันระหว่าง 2 องค์กรกีฬาที่ชัดเจน จึงมีความเคลื่อนไหวในกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยอย่างมาก เพราะมองว่าความขัดแย้งเป็นเรื่องส่วนบุคคล ขณะที่งานกีฬาที่เกี่ยวกับเรื่องปฏิบัติการไม่ควรเกี่ยวข้องและควรเกื้อหนุนกันดั่งเช่นโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่ได้ดำเนินการช่วยกัน และโดยผลกระทบนั้นเกิดขึ้นทั้งผู้ตัดสิน ผู้ชี้ขาดของไทย และทุกชาติที่อยู่ในสังกัดของไอบ้า ที่ไม่สามารถที่จะร่วมเสนอตัวได้หากยังอยู่ในสังกัดของไอบ้า
และผู้สื่อข่าว Station THAI ได้รับการเปิดเผยจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้แจ้งว่า ในความลำบากใจในจุดยืนการทำหน้าที่ของฝ่ายปฏิบัติงาน และการที่จะต้องอยู่ภายใต้สังกัดของไอบ้า ที่นำเอาความขัดแย้งมาดำเนินการร่วมโดยไม่ควรนี้ จะมีผู้ตัดสิน และผู้ชี้ขาดของไอบ้า ลาออกจากการทำหน้าที่ในสังกัดของไอบ้า เพื่อร่วมเสนอตัวเข้าสู่การคัดเลือกของไอโอซี เพื่อไปทำหน้าที่ในการร่วมช่วยในการคัดเลือกและแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2024 เพื่อไม่ใช้อยู่ในวงจรของความขัดแย้งนี้
รวมทั้งผู้ที่มีส่วนสำคัญคนไทยอีกคนคือ รองศาสตราจารย์ ดร.ไพบูลย์ ศรีชัยสวัสดิ์ หรือ “อาจารย์เค้ก” ประธานคณะกรรมการ ผู้ชี้ขาดและผู้ตัดสินของสหพันธ์มวยสากลนานาชาติ ที่ถือเป็นคนไทยคนแรกที่ได้รับเกียรติในการแต่งตั้งในระดับสูงสุดของเส้นทางผู้ตัดสินของไอบ้า โดยได้รับการแต่งตั้งเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวก็ได้รับรายงานมาว่า ประธานผู้ชี้ขาดและผู้ตัดสินไอบ้าชาวไทยท่านนี้ ได้มีการแสดงจุดยืนของตนเองต่อฝ่ายที่เกี่ยวข้องในไอบ้า โดยเฉพาะการพยายามที่จะเสนอให้ไอบ้ามองภาพของมิตรภาพในปรัชญากีฬาที่มีมาต่อเนื่องและมีการยึดถือมายาวนาน พร้อมทั้งให้มองถึงผลที่จะเกิดขึ้นหากผู้ตัดสิน และผู้ชี้ขาดของไอบ้า ไม่ไปช่วยทำหน้าที่นี้กับคณะทำงานของไอโอซี แต่อย่างไรก็ตามในการประชุมของไอบ้า เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2566 ที่อินเดีย ปรากฏว่าไม่มีการแก้ไขในคำสั่งไอบ้า “อาจารย์เค้ก” จึงได้หันหลังให้กับตำแหน่งประธานคณะกรรมการผู้ชี้ขาดและผู้ตัดสินของไอบ้าแน่นอนแล้ว จากที่ได้ปรึกษาหารือกับผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้อง และเคารพนับถือในวงการกีฬาของประเทศไทยมาต่อเนื่องจากกรณีดังกล่าว
และในวันที่ 28 มีนาคม 2566 นี้ “อาจารย์เค้ก” จะเดินทางจากประเทศอินเดียกลับถึงประเทศไทย ซึ่ง Station THAI จะได้สัมภาษณ์พร้อมทั้งนำเสนอความคืบหน้าต่อไป