นายประชุม บุญเทียม รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา เปิดเผยว่า ในตอนนี้นอกเหนือจากที่การแข่งขันซีเกมส์ครั้งที่ 32 กำลังดำเนินไปอยู่ในช่วงสุดท้าย ที่ กัมพูชานั้น ทางฝ่ายพัฒนากีฬาเป็นเลิศ กกท.ก็ได้เตรียมสรุปยอดเงินรางวัลที่นักกีฬาไทย ซึ่งทำเหรียญรางวัลได้ รวมทั้งผู้ฝึกสอน และสมาคมกีฬาที่มีเหรียญจากการแข่งขันครั้งนี้ จะได้จากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ซึ่งโดยเงื่อนไขจากประกาศของกองทุนนั้น นักกีฬาที่ได้เหรียญทอง จะได้ 300,000 บาท เหรียญเงิน 150,000 บาท และเหรียญทองแดง ได้ 75,000 บาท ขณะที่ผู้ฝึกสอนของกีฬาที่ได้เหรียญเป็นประเภทบุคคลหรือประเภททีมที่มีผู้เล่นไม่เกิน 6 คน จะได้ร้อยละ 20 หากเป็นประเภททีมที่มีผู้เล่นตั้งแต่ 7 คนขึ้นไปจะได้ร้อยละ 10 จากวงเงินที่นักกีฬาได้ และ สมาคมกีฬานั้นๆ ก็จะได้ร้อยละ 30 จากจำนวนเงินที่นักกีฬาได้ แต่ไม่เกิน 10 ล้านบาทนั้น
จากข้อมูลที่ได้รวบรวมไว้เมื่อวันที่ 12 พ.ค.2566 ซึ่งมีหลายชนิดกีฬาที่แข่งขันเสร็จแล้ว และยังมีบางชนิดกีฬาที่ยังแข่งขันอยู่นั้น เงินรางวัลทุกส่วนนี้กว่า 100 ล้านบาทแล้ว โดยชนิดกีฬาที่แข่งขันเสร็จแล้ว อย่างเช่นของสมาคมกีฬากรีฑาฯ ที่แข่งจบแล้ว และทำเหรียญรางวัลได้ 16 เหรียญทอง 8 เหรียญเงิน 5 เหรียญทองแดง นั้น เมื่อรวมทั้งนักกีฬา ผู้ฝึกสอน และส่วนของสมาคมแล้ว จะได้เงินรางวัลอยู่ที่ 13,275,000 บาท ขณะที่กีฬาอื่น ๆ ที่แข่งขันเสร็จแล้วก็ได้รวมข้อมูลไว้หมดเช่นกัน และเมื่อจบการแข่งขันก็จะทราบว่า เงินรางวัลจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติจะได้จ่ายให้กับผู้ที่สร้างผลงานจากซีเกมส์หนนี้เท่าไหร่ โดยฝ่ายพัฒนากีฬาเป็นเลิศ กกท.ได้ประสานงานกับ ดร.สุปราณี คุปตาสา ผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ อย่างใกล้ชิดตลอด เพื่อจะได้มีการเบิกจ่ายรอการมอบให้กับผู้ที่สร้างผลงานให้เร็วที่สุด นายประชุมกล่าว.