ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการอำนวยการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 48 และกีฬาคนพิการแห่งชาติ ครั้งที่ 38 “กาญจนบุรีเกมส์” โดยมี ร้อยโท ทศพล ไชยโกมินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี, นายประชุม บุญเทียม รองผู้ว่าการ กกท. ฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา, นางโปรดปราน สมานมิตร รองผู้ว่าการ กกท. ฝ่ายส่งเสริมกีฬา, ผู้บริหาร กกท. ผู้บริหารจังหวัดกาญจนบุรี และผู้แทนสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย ร่วมประชุม ณ ห้องประชุม CONVENTION HALL ชั้น 1 โรงแรมราชศุภมิตร (RS. HOTEL) จังหวัดกาญจนบุรี เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา
ผู้ว่าการ กกท. กล่าวว่า ในการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ และกีฬาคนพิการ ครั้งนี้ กกท. ต้องการยกระดับการจัดการแข่งขันให้มีมาตรฐานระดับสากล ในส่วนของการปรับปรุงสนามแข่งขันกีฬาต่างๆ เมื่อดำเนินการแล้ว ก็ต้องการให้สามารถใช้จัดการแข่งขันกีฬาในระดับนานาชาติได้ด้วย กาญจนบุรีเกมส์ในครั้งนี้ จัดอย่างยิ่งใหญ่ มีชนิดกีฬามากถึง 59 ชนิดกีฬา ผู้เข้าร่วมทั้งสองเกมส์การแข่งขัน รวมแล้วจำนวนประมาณ 20,000 คน กกท. ให้ความสำคัญกับชนิดกีฬาสากล เพื่อนำมาพัฒนาต่อให้ถึงระดับนานาชาติ และคาดว่าจะสามารถเพิ่มมูลค่าและกระตุ้นเศรษฐกิจในจังหวัดได้เกินกว่า 1,000 ล้านบาท เนื่องจากจังหวัดกาญจนบุรีมีแหล่งท่องเที่ยวมากมากทั้งทางวัฒนธรรม และทางธรรมชาติ สามารถกระตุ้นการใช้จ่ายภายในจังหวัดให้มีรายได้มากขึ้นได้เป็นอย่างดี เชื่อมั่นว่าการเป็นเจ้าภาพของจังหวัดกาญจนบุรี จะสร้างความประทับใจในด้านกีฬาและการท่องเที่ยวให้กับทุกคนอย่างแน่นอน
ร้อยโท ทศพล ไชยโกมินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า ขอขอบคุณการกีฬาแห่งประเทศไทย ที่ให้ความเชื่อมั่นจังหวัดกาญจนบุรี เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 48 ระหว่างวันที่ 14 – 29 สิงหาคม 2566 และกีฬาคนพิการแห่งชาติ ครั้งที่ 38 “กาญจนบุรีเกมส์” ระหว่างวันที่ 8 – 12 กันยายน 2566 จังหวัดกาญจนบุรี เรามีความพร้อมในทุกๆด้าน ขณะเดียวกันก็ทำการปรับปรุงสนามแข่งขัน และปรับแต่งภูมิทัศน์ให้แล้วเสร็จทันการแข่งขันอย่างแน่นอน นอกจากนี้ จังหวัดกาญจนบุรียังเป็นจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายกิจกรรม ตามคำขวัญจังหวัด “แคว้นโบราณ ด่านเจดีย์ มณีเมืองกาญจน์ สะพานข้ามแม่น้ำแคว แหล่งแร่น้ำตก” เรามีแหล่งท่องเที่ยวทั้งด้านธรรมชาติ และวัฒนธรรม พร้อมทั้งสถานที่เปิดใหม่อย่าง สกายวอล์ค ซึ่งนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ที่มี AD Card สามารถเที่ยวฟรีได้ในช่วงแข่งขัน รวมทั้งด้านกีฬา จังหวัดกาญจนบุรี ก็ให้ความสำคัญในการสนับสนุนให้ประชาชน และเยาวชนได้เล่นกีฬา เพื่อพัฒนาไปสู่ระดับชาติ และระดับนานาชาติต่อไป
นางโปรดปราน สมานมิตร รองผู้ว่าการ กกท. ฝ่ายส่งเสริมกีฬา กล่าวว่า ในกาญจนบุรีเกมส์ เราจะทำการจัดการแข่งขันกีฬาในรูปแบบ BCG โดยมุ่งเน้นการพัฒนากีฬาควบคู่ไปกับการพัฒนาสังคมและการรักษาสิ่งแวดล้อมได้อย่างสมดุลให้มั่นคงและยั่งยืนไปพร้อมกัน อาทิ การจัดกิจกรรมการแยกขยะ กำจัดขยะ และการรีไซเคิลขยะ, การจัดจุดบริการน้ำดื่มด้วยการสนับสนุนให้นำแก้วน้ำหรือกระบอกน้ำส่วนตัวมาใช้ นอกจากนี้ กกท. ยังได้จัดกิจกรรม CSR ด้วยการปลูกป่า ช่วยลดโลกร้อน ก่อนวันเปิดการแข่งขันฯ อีกด้วย ในส่วนของการถ่ายทอดสดการแข่งขันฯ นั้น สามารถรับชมได้ทั้งทางโทรทัศน์และรับชม ผ่านแอพลิเคชั่นช่อง T SPORTS 7
นายประชุม บุญเทียม รองผู้ว่าการ กกท. ฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา กล่าวว่า กกท. ได้จัดทำประกันภัยของนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ผู้เข้าร่วมการแข่งขันฯโดยจัดทำประกันอุบัติเหตุในการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 48 เป็นระยะเวลา 31 วัน ระหว่างวันที่ 4 สิงหาคม – 4 กันยายน 2566 , กีฬาคนพิการแห่งชาติ ครั้งที่ 38 เป็นเวลา 21 วัน ระหว่างวันที่ 1 – 20 กันยายน 2566 โดยได้รับความคุ้มครองการเสียชีวิต และสูญเสียอวัยวะ เนื่องจากอุบัติเหตุ จำนวน 200,000 บาท และค่ารักษาพยาบาลเนื่องจากอุบัติเหตุ (สูงสุดต่ออุบัติเหตุแต่ละครั้งต่อเหตุการณ์) จำนวน 20,000 บาท
รวมทั้งยังให้ความสำคัญกับเรื่องการใช้สารต้องห้ามในนักกีฬา ขอให้ผู้ฝึกสอนกำชับนักกีฬาในเรื่องนี้เป็นพิเศษ โดยเฉพาะเรื่องการใช้ยารักษาโรคประจำตัวของนักกีฬา ซึ่งนักกีฬาสามารถยื่นแบบการขออนุญาตการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬาเพื่อการรักษา โดยดาวน์โหลดได้ที่ www.sat.or.th/th/sport-service/press-release.aspx
จากนั้น เป็นการจับสลากแบ่งสายการแข่งขันกีฬาฟุตบอลชาย ในการแข่งขันกาญจนบุรีเกมส์ ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้ สาย ก. ประกอบด้วย จังหวัดสรินทร์ (แชมป์เก่า), จังหวัดสมุทรสงคราม และจังหวัดสมุทรปราการ , สาย ข. ประกอบด้วย จังหวัดนครพนม, จังหวัดนครปฐม และจังหวัดอุดรธานี , สาย ค. ประกอบด้วย จังหวัดกำแพงเพชร, จังหวัดกาญจนบุรี และจังหวัดแม่ฮ่องสอน และสาย ง. ประกอบด้วย จังหวัดเพชรบุรี, จังหวัดยะลา และจังหวัดสุราษฎร์ธานี
ทั้งนี้ การแข่งขันการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 48 “กาญจนบุรีเกมส์” มีกำหนดจัดขึ้นระหว่าง วันที่ 14 – 29 สิงหาคม 2566 โดยจัดแข่งขันทั้งหมด 45 ชนิดกีฬา ประกอบด้วย กีฬาบังคับ จำนวน 2 ชนิดกีฬา ได้แก่ (1) กรีฑา (2) ว่ายน้ำ, กีฬาสากล จำนวน 43 ชนิดกีฬา ได้แก่ (1) กอล์ฟ (2) กาบัดดี้ (3) กีฬาทางอากาศ (4) กระดาษยืนพาย (5) คาราเต้-โด (6) คริกเก็ต (7) จักรยาน (ถนน, ดาวฮิลล์, ครอสคันทรี, BMX , ลู่) (จานร่อน (9) เจ็ตสกี (10) ชักกะเย่อ (11) ซอฟท์เทนนิส (12) ซูโม่ (13) ซอฟท์บอล (14) ตะกร้อ (เซปักตะกร้อ, ตะกร้อลอดห่วง, ตะกร้อชายหาด) (15) เทควันโด (16) เทนนิส (17) เทเบิลเทนนิส (18) เทคบอล (19) บาสเกตบอล/บาส 3×3 (20) บริดจ์ (21) บิลเลียด/สนุกเกอร์ (22) แบดมินตัน (23) ปัญจกีฬา (ว่ายน้ำ, วิ่ง, ยิงปืน เลเซอร์, ฟันดาบ) (24) เปตอง (25) ปันจักสีลัต (26) เพาะกาย (27) ฟันดาบ (28) ฟิกเกอร์และสปีดสเก็ดติ้ง (29) ฟุตบอล (ชาย/หญิง)-ฟุตซอล (ชาย/หญิง) (30) มวยสากลสมัครเล่น (31) มวยไทยสมัครเล่น (32) มวยปล้ำ (ในร่ม/ชายหาด) (33) ยกน้ำหนัก (34) ยิงธนู (35) ยิงปืน (36) ยิงปืนรณยุทธ (37) ยิมนาสติก (ศิลป์/แอโรบิก/ลีลา) (38) ยูโด (39) ยูยิตสู (40) เรือพาย (41) โรลเลอร์สกี (42) รักบี้ฟุตบอล (15 คน / 7 คน) (43) ลอนโบวล์ส (44) ลีลาศ (45) ว่ายน้ำ (46) วอลเลย์บอล (ในร่ม/ชายหาด) (47) วูซู (ประลองยุทธ, ยุทธลีลา, ลีลาราชสีห์) (48) วู้ดบอล (49) หมากล้อม (50) อีสปอร์ต (51) เอ็กซ์ตรีม/สเก็ตบอร์ด (52) ฮอกกี้ (ในร่ม/กลางแจ้ง) (53) แฮนด์บอล (ในร่ม/ชายหาด), กีฬาอนุรักษ์ จำนวน 1 ชนิดกีฬา ได้แก่ มวยไทยสมัครเล่น, กีฬาสาธิต จำนวน 5 ชนิดกีฬา ได้แก่ คูราช, มวยไทยยุทธศิลป์, สควอช, หมากรุกไทย, หมากรุกสากล
และการแข่งขันกีฬาคนพิการแห่งชาติ ครั้งที่ 38 “กาญจนิกาเกมส์” กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8 – 12 กันยายน 2566 ชิงชัยทั้งหมด 19 ชนิดกีฬา ได้แก่ (1) กรีฑา (2) โกลบอล (3) เซปักตะกร้อ (4) เทเบิลเทนนิส (5) บอคเซีย (6) แบดมินตัน (7) เปตอง ( ฟุตบอล (คนหูหนวก) (9) ฟุตบอล 7 คน (พิการทางสมอง) (10) ฟุตบอล 5 คน (คนตาบอด) (11) ฟุตซอล (คนหูหนวก) (12) ยกน้ำหนัก (13) ยิงปืน (14) ยิงธนู (15) วอลเลย์บอลนั่ง – ยืน (16) ว่ายน้ำ (17) วีลแชร์เทนนิส (18) วีลแชร์บาสเก็ตบอล (19) วีลแชร์ฟันดาบ และกีฬาสาธิต จำนวน 2 ชนิดกีฬา ได้แก่ ลอนโบวล์ส แขน – ขา และวอลเลย์บอลชายหาด (คนหูหนวก)
#ขอบคุณกองประชาสัมพันธ์ กกท. 18/ก.ค./66
