จากเหตุการณ์ที่ชาวโซเชียลวิพากษ์วิจารณ์กรณีที่ กุหลาบดำ สจ.เปี๊ยกอุทัย นักมวยไทยชื่อดัง โดนนิ้วของ ราฟฟี โบฮิค จิ้มตา จนไม่สามารถชกต่อได้ เพียงแค่ยกแรก ในศึก ONE ลุมพินี 26 เมื่อค่ำวันศุกร์ที่ 21 ก.ค.2566 ที่ผ่านมา ที่สนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา)
คู่เอกประจำสัปดาห์ “ซ้ายอุกกาบาต” กุหลาบดำ สจ.เปี๊ยกอุทัย วัดศักดิ์ศรีอดีตแชมป์เวทีลุมพินีกับ “ขุนเข่าแดนน้ำหอม” ราฟฟี โบฮิค จากฝรั่งเศส ในกติกามวยไทย รุ่นแบนตั้มเวต (135-145 ป.)
คู่นี้เกิดเหตุไม่คาดฝันเมื่อทั้งคู่กำลังแลกหมัดกันกลางเวทีนิ้วของราฟฟี พลาดไปจิ้มเข้าตาของ กุหลาบดำ จนต้องให้ทีมแพทย์เข้ามาเช็กดูอาการ ก่อนตัดสินใจให้ยุติการชก และเนื่องจากเกมการชกดำเนินไปยังไม่ถึง 1 ยก จึงไม่สามารถตัดสินด้วยคะแนนได้ ทำให้ต้องจบลงแบบ “ไม่มีผลการแข่งขัน”
หลังการชก กุหลาบดำ สจ.เปี๊ยกอุทัย ที่ปฐมพยาบาลเสร็จโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า “ก่อนอื่นผมต้องขอโทษบอสชาตรีด้วยนะครับที่วันนี้ผมไม่สามารถทำการชกต่อได้ เนื่องด้วยโดนนิ้วทิ่มตา ใครจะมองยังไงผมไม่รู้ ขนาดแค่โดนแมงหรือโดนฝุ่นเข้าตายังเจ็บยังเคืองเลย อันนี้ผมโดนนิ้วทิ่มตานะครับ ใจผมผมอยากชกต่อครับแต่มันชกต่อไม่ได้เพราะว่ามันเจ็บแล้วก็มันมองไม่เห็นด้วยครับ ขอบคุณทุกกำลังใจมากๆนะครับที่ส่งมาให้ผม โอกาสหน้า ค่อยว่ากันใหม่ครับ ถ้าผมไม่เจ็บจริงผมไม่มีสำออยให้เห็นแน่นอนครับ ขอบคุณทุกกำลังใจมากๆ ครับ ผม #กุหลาบดำ ส.จ.เปี๊ยกอุทัย กราบขอโทษทีมงานวันทุกท่านเลยนะครับ กราบขอโทษจากใจจริงครับ ขอบคุณครับ”
จากนั้นแฟนมวยในโซเชียล ต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นถึงมาตรฐานความปลอดภัยของนักกีฬากันเป็นอย่างมากเพราะกีฬามวยเป็นกีฬาปะทะ จึงต้องมีการกำหนดมาตรฐานของอุปกรณ์ป้องกันต่างๆ เพราะกรณีที่เกิดขึ้นกับกุหลาบดำ เกิดจากอุปกรณ์ที่เรียกกันว่า “นวมเปิดนิ้ว” ซึ่งคนมวยไทยต่อต้านและไม่เห็นด้วยกันมาโดยตลอด เพราะจะเกิดอันตรายต่ออวัยวะที่บอบบางเช่น ดวงตาของนักกีฬา ที่สำคัญคนมวยไทยจะไม่ถือว่า “นวมเปิดนิ้ว” เป็นกีฬามวยไทย
อนึ่งการจัดมวยในลักษณะนี้ ตามพระราชบัญญัติกีฬามวย พ.ศ. 2542 ที่กำหนดว่าการจัดจะต้องขออนุญาตจากคณะกรรมการกีฬามวย การกีฬาแห่งประเทศไทยก่อนทำการแข่งขันนั้น มวยในลักษณะนี้ ที่ใช้นวมเปิดนิ้วชกจะไม่ได้รับอนุญาตในการจัดเป็นมวยไทยที่แท้จริง (หรือที่เรียกมวยภาค 1) แต่เป็นการอนุญาตให้จัดในประเภทภาค 4 ที่ถือเป็นการชกที่ใช้กติกาหรือรูปแบบมวยไทยบางส่วนในการแข่งขัน ที่มีการขออนุญาตกันมากมายในปัจจุบันและใช้พื้นฐานของกีฬามวยไทยบางส่วนไปปรับใช้กับองค์ประกอบอื่น ๆ หรือกติกาการแข่งขันที่ตัวผู้ขอจัดได้กำหนดขึ้น แต่อย่างไรก็ดีนั้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ฝ่ายจัดการแข่งขันและเจ้าพนักงานจาก คณะกรรมการกีฬามวย กกท.จะต้องช่วยกันตรวจสอบเพื่อป้องกันและแก้ไขในอนาคต.