หลังเกิดกรณี อดีตทีมชาติตะกร้อเปิดเผย หลังเคยโดนโค้ช แบ่งเงินรางวัลเอเชี่ยนเกมส์ ด้าน’รองชุม’ รู้ข่าว ชี้ไม่ควรเกิดขึ้น เพราะทุกคนได้จากกองทุนกีฬาอยู่แล้ว และฝากถึงทุกสมาคมให้ดูแลนักกีฬาใกล้ชิด

แชร์บทความ

Share on facebook
Share on twitter

     จากที่มีอดีตนักตะกร้อทีมชาติไทยที่เคยสร้างชื่อเสียง ด้วยการเล่นและคว้าเหรียญทองในเอเชี่ยนเกมส์ครั้งที่ผ่าน ๆ มาได้มีการโพสต์ลงเฟซบุ๊คส่วนตัวโดยระบุว่า ที่ผ่านมาได้ประสบกับตนเองในเหตุการณ์ที่หลังจากที่ได้รับเงินรางวัลจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติแล้ว ได้แบ่งเงินรางวัลส่วนหนึ่งให้กับทางสตาฟฟ์โค้ชตะกร้อในยุคนั้น เพราะเป็นข้อตกลงตามที่ได้คุยกันก่อนก่อนที่ตนเองจะได้รับเลือกให้ลงทำการแข่งขันประเภททีมเดี่ยว ซึ่งตนเองก็ให้ตามที่รับปากแต่ยอมรับว่าเสียความรู้สึกมาก

     หลังจากที่อดีตนักกีฬาทีมชาติท่านนั้นโฟสต์ลงเฟซบุ๊ค ปรากฏว่ามีคนวงการตะกร้อไทยมากมาย ได้แสดงความคิดเห็นร่วมด้วย ด้วยความไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมของสตาฟฟ์โค้ชทีมกีฬาตะกร้อชุดดังกล่าว และมีสื่อมวลชนได้นำเสนอ ที่เป็นการกระจายการเสียภาพลักษณ์ของวงการตะกร้อ และวงการกีฬาไทย เพราะแท้ที่จริงแล้ว เงินกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ที่ให้รางวัลนั้นให้ทั้ง นักกีฬา ผู้ฝึกสอน และ สมาคมกีฬานั้น ๆ แบบไม่เกี่ยวข้องกัน

     ในเรื่องนี้ นายประชุม บุญเทียม รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ฝ่ายกีฬาเป็นเลิศ และวิทยาศาสตร์การกีฬา ได้เปิดเผยว่า ตนเองจะติดตามเรื่องนี้ดูว่าเป็นจริงแบบไหน เป็นข้อตกลงกันเองในกลุ่มหรือว่าเป็นการข่มขู่เพื่อแลกเปลี่ยนแล้วเรียกส่วนแบ่งต่างหาก เพื่อหาความกระจ่าง และเรื่องนี้แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีต แต่ก็จะฝากสมาคมกีฬาตะกร้อ หรือสมาคมกีฬาอื่น ๆ ให้ดูแลในเรื่องนี้ให้ดีมีความชัดเจน ที่ไม่ควรที่จะเกิดขึ้น เนื่องจากกองทุนฯให้รางวัลทั้งนักกีฬา ผู้ฝึกสอน และสมาคมกีฬาอยู่แล้ว ในแต่ละเหรียญรางวัลที่ได้รับ

     โดยประกาศของกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ กำหนดไว้ในประกาศกองทุน ระบุเรื่องหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขในการให้เงินรางวัลแก่นักกีฬา บุคลากรกีฬาและสมาคมกีฬา ในส่วนของมหกรรมกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ไว้ชัดอยู่แล้วว่า นักกีฬาที่ได้เหรียญทอง จะได้ 2,000,000 บาท เหรียญเงิน 1,000,000 บาท และเหรียญทองแดงจ่ายให้ 500,000 บาท คือจ่ายทุกคนที่มีชื่อร่วมในการแข่งขันประเภทที่ได้เหรียญรางวัล ทั้งตัวจริงและตัวสำรอง

     ซึ่งผลพวงจากนักกีฬาที่ได้เหรียญรางวัลแต่ละประเภทนั้น ส่งต่อถึงผู้ฝึกสอนด้วย โดยมีการมอบนอกเหนือจากเงินของนักกีฬาให้กับผู้ฝึกสอนต่างหาก โดยมีเงื่อนไข 2 อย่างคือ ถ้าเป็นประเภทบุคคลและประเภททีมที่มีนักกีฬาเข้าร่วมแข่งและได้เหรียญ ให้ผู้ฝึกสอนได้รับร้อยละยี่สิบของเงินที่นักกีฬาได้ และอีกเงื่อนไขคือถ้าเหรียญที่ได้จากประเภททีมที่มีนักกีฬาตั้งแต่ 7 คนขึ้นไป ผู้ฝึกสอนจะได้ร้อยละสิบของเงินที่นักกีฬาได้รับ

     และนอกจากทั้งนักกีฬาและผู้ฝึกสอนที่จะได้แล้วนั้น สมาคมกีฬาที่เป็นต้นสังกัดของนักกีฬา ก็จะได้รับเงินจากผลงานของนักกีฬาด้วย ในอัตราที่กำหนดไว้คือ ร้อยละสามสิบของจำนวนเงินที่นักกีฬาได้รับ แต่ทั้งมวลจะต้องไม่เกิน 10,000,000 บาท (สิบล้านบาท)

     “เรื่องการยื่นขอส่วนแบ่งจากนักกีฬา ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใดจึงไม่ควรที่จะเกิดขึ้น” นายประชุม บุญเทียมกล่าว

RANDOM

สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ชวนประกวดเรียงความ ‘ความภูมิใจที่ได้เดินตามรอยเบื้องพระยุคลบาท รัชกาลที่ 9’ ชิงโล่พร้อมเกียรติบัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

NEWS

สสส. ร่วมกับ สคล. เชิญชวนโรงเรียนประถมศึกษาเข้าร่วมกิจกรรม “มารู้จักเจ้าชายภูมิพลกันเถอะ” ดาวน์โหลดรายละเอียดกิจกรรมได้ที่เว็บไซต์ ‘โรงเรียนคำพ่อสอน.com’ พร้อมรับเกียรติบัตรจากทางโครงการฯ สมัครเข้าร่วมกิจกรรมได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ประกวดเขียนเรียงความภาษาอังกฤษ หัวข้อ “ASEAN-IPR Cybersecurity Youth Essay Competition” ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกจะได้เข้าร่วมการประชุม ASEAN-IPR Regional Conference on Cybersecurity และมีโอกาสนำเสนอเรียงความในที่ประชุมดังกล่าว สมัครด่วน หมดเขต 22 พ.ย. นี้

You cannot copy content of this page

error: Content is protected !!